Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
รวบแก๊งหลอกเทรดหุ้นน้ำ-ร้านอาคารชื่อดัง คืนเงินเหยื่อกว่า1.3 ล้าน

รวบแก๊งหลอกเทรดหุ้นน้ำ-ร้านอาคารชื่อดัง คืนเงินเหยื่อกว่า1.3 ล้าน

17 มิ.ย. 68
12:46 น.
แชร์

"ตำรวจไซเบอร์" รวบแก๊งหลอกลงทุนเทรดหุ้นน้ำ - ร้านอาคารชื่อดัง คืนเงินผู้เสียหายรวมกว่า 1.3 ล้าน

17 มิ.ย. 68 ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. จากโครง "MONEY Cash Back ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน" หลังจากที่ตำรวจสามารถรวบแก๊งหลอกลงทุน เทรดหุ้นน้ำ - ร้านอาคารขื่อดัง ก็สามารถคืนเงินให้กับผู้เสียหายรวมกว่า 1.3 ล้านบาท

ผู้เสียรายที่ 1 กรณีถูกหลอกให้ลงทุยเทรนหุ้น นางปัทมา อายุ 62 ผู้เสียหาย เปิดเผยว่าช่วงเดือนพ.ย.67 เพื่อนที่รู้จักกันมานาน มาชักชวนลงทุนหุ้นน้ำมันแห่งหนึ่ง โดยคนที่ลงทุนเป็นญาติไว้ใจได้ อ้างว่าได้ผลกำไรดี จึงหลงเชื่อลงทุน โดยโอนเงินไปยังบัญชีที่คนร้ายที่จัดเตรียมไว้รวม จำนวน 7 บัญชี จำนวน 3 ครั้งรวมเป็นจำนวนเงิน 2,027,575 บาท ซึ่งการลงทุนดังกล่าวได้รับผลตอบแทนคืนมาแค่ในช่วงแรกเป็นเงิน 193,501 บาท แต่ภายหลังคนร้ายอ้างว่าตนถอนเงินไม่ถูกต้อง จึงต้องโอนเงินเพิ่มเพื่อแก้ไขรายการถอนเงิน และอ้างว่าตนทำผิดกฎต่างๆ สุดท้ายไม่สามารถถอนเงินออกมาได้จริง ตนจึงรู้ตัวว่าถูกหลอก และเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ส่วนเพื่อนที่มาชักชวน ก็ถฏหลอกเช่นกัน โดยคนร้ายใช้อุบายในการให้เหยื่อมาหลอกเหยื่อ หากคนไหนคิดว่าจะใช้ผลประโยชน์นานก็จะให้ผลกำไรตอบแทนบ้างเพื่อให้ผู้เสียหายตายใจ

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขอออนุมัติศาลออกหมายจับผู้กระทำความผิด

ขบวนการดังกล่าวได้แล้ว จำนวน 6 ราย และสารถจับกุมได้แล้วจำนวน 5 ราย ได้แก่

1.น.ส.ธันยนันท์ อายุ 52 ปี ชาวจังหวัดสระบุรี จับกุมตัวได้ในพื้นที่ จังหวัดสระบุรี

2.น.ส.บุษยา อายุ 38 ปี ชาวจังหวัดเพรบุรี จับกุมตัวได้ในพื้นที่ จังหวัดเพรรบุรี

3.นายธีรวัฒน์ อายุ 29 ปี ชาวจังหวัดเชียงราย จับกุมตัวใดในพื้นที่ จังหวัดเชียงราย

4. นายสุรศักดิ์ อายุ 35 ปี ชาวจังหวัดเชียงใหม่ จับกุมตัวได้ในพื้นที่ จังหวัดนครราชสีมา

5. นาย วีรยุทธ อายุ 41 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร จับกุมตัวได้ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร

ส่วนที่เหลืออีก 1 รายอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัว

เบื้องต้น ผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่า ได้เปิดบัญชีธนาคารแล้วขายให้แก่นายหน้าที่รับซื้อ ในราคา7,000-10,000 บาทต่อบัญชี โดยนายหน้าส่วนใหญ่ อ้างว่านำบัญชีธนาคารดังกล่าวไปใช้ในการซื้อขายสินค้าออนไลน์เพียงเท่านั้น

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงดำเนินคดีในความผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไหมว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่ท่านจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง"

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานกับสถาบันการเงินและอายัดเงินในบัญชีธนาคารของหนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหาไว้ได้จำนวน 750,000 บาท ซึ่งเป็นบัญชีของ น.ส.ธันยนันท์ อายุ 52 ปีโดยตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่าบัญชีดังกล่าวมีเงินของผู้เสียหาย ถูกโอนเข้ามาตามวันและเวลาตรงตามหลักฐานของผู้เสียหายนี้จริงและยินดีคืนให้แก่ผู้เสียหายในคดีนี้

จึงได้นำเงินจำนวนดังกล่าวมาคืนให้แก่ผู้เสียหายในวันนี้จำนวน 750,000 บาท

กรณีที่ 2 นายเอ (นามสมมติ) เล่าว่า ที่ได้ไปลงทุนพอรู้จักผ่านทางเพจ Facebook ผู้เสียหายเป็นคนสมัครลงทุนไปเอง ทางกลุ่มคนร้ายอ้างว่า จะมีโบรกเกอร์ หรือผู้เชียวชาญค่อยสอน หลังจากหลังนั้นโบรกเกอร์บอกให้เราลงทุนไปเรื่อยทตอนแรก ลงทุน20,000 ได้กำไร 17,000 กลุ่มคนร้ายบอกให้ผู้เสียหายเบิกเงินออกมา 17,000 และ ทิ้งเงิน 20,000 บาทไว้เป็นทุน โดยคนร้ายในผู้เสียหายเพิ่มทุนไปเรื่อยๆ และเวลาจะเบิกเงิน หรือถอนเงินก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมให้โบรกเกอร์อีกหลายคน ตอนหลังเงินลงทุนหมดแล้วจึงหยุดลงทุน และเข้าแจ้งความ โดยรวมมูลค่ารวมความเสียหายรวมเป็นเงินทั้งหมด 2,749,524.22 บาท

พล.ต.ท.ไตรรงค์ ระบุว่าเป็น รูปแบบของคนร้ายที่มักจะหลอกให้ลงทุนไปเรื่อยเรื่อยให้ผลตอบแทนทีละเล็กทีละน้อย แล้วหลอกให้ลงทุนเพิ่มเรื่อยเรื่อยอ้างว่าได้ผลกำไรให้เห็นแค่ตัวเลขแต่ไม่เห็นจำนวนเงินจริง เป็นแผนประทุษกรรมของกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยากให้พี่น้องประชาชน

หลัวจากตำรวจไซเบอร์ รู้ว่าเจ้าของบัญชีธนาคารที่ใช้หลอกผู้เสียหาย คือ น.ส.ภัทรสินีฯ อายุ 43 ปี พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงได้เดินทางไปส่งหมายเรียกดังกล่าว เมื่อพบตัว น.ส.ภัทรสินีฯ เจ้าตัวรับทราบเหตุดังกล่าว จึงยินดีเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อกล่าวหา พร้อมทั้งสิทธิ์ของผู้ต้องหาในชั้นสอบสวนตามกระบวนการกฎหมาย โดยดำเนินคดีในความผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้า สู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน"

เบื้องต้น น.ส.ภัทรสินีฯ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่ยอมรับสารภาพว่า ตนเองเคยเปิดบัญชีธนาคารให้คนอื่นจริง โดยได้ค่าตอบแทนเป็นเงินสด จำนวน 4,000 บาทจากกรณีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานกับสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้อง จนสามารถอายัดเงินในบัญชีธนาคารของ น.ส.ภัทรสินีฯ ผู้ต้องหา ไว้ได้จำนวน 619,182.73 บาท โดยเจ้าหน้าที่ได้ประสานธนาคารเจ้าของ บัญชีเพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่าเป็นเงินผู้เสียหายจริง

น.ส.ภัทรสินีฯ เองรับทราบว่าบัญชีของตนเองถูกนำไปใช้ในการกระทำผิด และตนเองขอไม่โต้แย้งกรรมสิทธิ์เนื่องจากตนเองรู้ดีว่าเป็นเงินที่ตนเองไม่มีสิทธิที่จะได้โดยชอบด้วยกฎหมาย และยินดีคืนให้แก่ผู้เสียหายในคดีนี้

Advertisement

แชร์
รวบแก๊งหลอกเทรดหุ้นน้ำ-ร้านอาคารชื่อดัง คืนเงินเหยื่อกว่า1.3 ล้าน