วันที่ 16 มิถุนายน 2568 นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการ ปปง.พร้อม โฆษกประจำสำนักงาน ปปง. แถลงผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรมในเดือนเมษายน 2568 ถึงเดือนมิถุนายน 2568 ซึ่งมี นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. เป็นกรรมการและเลขานุการ โดยคณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติให้ดำเนินการกับทรัพย์สินตามความผิดมูลฐาน เช่น ยาเสพติด ฉ้อโกงประชาชน ฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ และพนันออนไลน์ สรุปผลการดำเนินการที่น่าสนใจดังนี้
1. ยึดและอายัดทรัพย์สิน จำนวน 27 รายคดี ทรัพย์สิน 1,016 รายการ พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 833 ล้านบาท โดย เป็นทรัพย์สินในคดีสำคัญ ดังนี้
- รายคดี นางสาวอรอมลฯ กับพวก เป็นกรณีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดพื้นที่แนวชายแดนภาคเหนือ โดยสืบสวนขยายผลจับกุมเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดอย่างต่อเนื่อง และพบความเชื่อมโยงว่ามีการนำเงินที่ได้จากขบวนการค้ายาเสพติดไปจำหน่าย จ่าย โอน และซื้อทรัพย์สินจำนวนมาก ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สิน ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 76 รายการ (เช่น ที่ดิน ทองรูปพรรณ เงินสด และเงินในบัญชี เงินฝากธนาคาร) รวมมูลค่าประมาณ 12 ล้านบาท (คำสั่ง ย. 134/2568)
- รายคดี นายษิทราฯ กับพวก (เพิ่มเติม) กรณีความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการฉ้อโกง อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ และความผิดฐานฟอกเงิน โดยคณะกรรมการธุรกรรมได้เคยมีคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินไว้แล้ว จำนวน 3 รายการ รวมมูลค่าประมาณ 71 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลแพ่ง ในการนี้ มีการดำเนินการยึดและอายัดทรัพย์สินซึ่งตรวจพบในอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ (เพิ่มเติม) จำนวน 25 รายการ (เช่น สินค้าแบรนด์เนม และสิทธิเรียกร้องตามสัญญาซื้อขายรถยนต์) รวมมูลค่าประมาณ 6 ล้านบาท (คำสั่ง ย. 116/2568)
- รายคดี นางชยาวรรณฯ กับพวก กรณีความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน และฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ โดยมีการหลอกลวงผู้เสียหายและประชาชนให้โอนเงิน
ร่วมลงทุน ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 40 รายการ (เช่น สินค้าแบรนด์เนม ที่ดิน และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร) รวมมูลค่าประมาณ10 ล้านบาท (คำสั่ง ย. 118/2568)
- รายคดี บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กับพวก (เพิ่มเติม) กรณีดังกล่าวเป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน โดยคณะกรรมการธุรกรรมได้เคยมีคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินไว้แล้วจำนวน
5 ครั้งรวมทรัพย์สิน 165 รายการ ราคาประเมินประมาณ 450 ล้านบาท และส่งเรื่องให้พนักงานอัยการ พิจารณายื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเกี่ยวกับทรัพย์สินดังกล่าว รวม 2 สำนวนคดี ตามคดีหมายเลขดำที่ ฟ.3/2568 และหมายเลขดำที่ ฟ.54/2568 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลแพ่ง ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด (เพิ่มเติม) จำนวน 281 รายการ (เช่น กระเป๋า นาฬิกา สินค้าแบรนด์เนม และยานพาหนะ) รวมมูลค่าประมาณ 160 ล้านบาท (คำสั่ง ย. 122/2568)
- รายคดี นายธัณย์ศรุตฯ กับพวก กรณีลักลอบจัดให้มีการเล่นพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยติดต่อผ่านแอปพลิเคชันไลน์ มีการตั้งกลุ่มเฉพาะ ส่งข้อมูล และใช้วิธีการถ่ายทอดสด (Live) เล่นการพนันประเภทต่าง ๆ ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 153 รายการ (เช่น สินค้าแบรนด์เนม เงินสด วัตถุมงคล และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร) รวมมูลค่าประมาณ 11 ล้านบาท (คำสั่ง ย. 114/2568)
- รายคดี นายนรายุทธฯ กับพวก กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนขยายผลเครือข่าย เว็บพนันออนไลน์ จากการตรวจสอบพบข้อมูลการโอนเงินที่มีพฤติการณ์หลีกเลี่ยงการถูกตรวจสอบ มีการฝาก-ถอน ผ่านระบบรับชำระเงินออนไลน์ และส่งต่อไปยังบัญชีม้าของเครือข่ายพนันออนไลน์ ซึ่งผลการตรวจค้นเครือข่ายผู้กระทำความผิด พบทรัพย์สินจำนวนมาก ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรม มีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 53 รายการ (เช่น ที่ดิน ห้องชุด ยานพาหนะสินทรัพย์ดิจิทัล และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร) รวมมูลค่าประมาณ 488 ล้านบาท (คำสั่ง ย. 133/2568)
- รายคดี กลุ่มบุคคลผู้ร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันทางอิเล็กทรอนิกส์ (รายนายพิทยาฯ) กับพวก ซึ่งกรณีดังกล่าวคณะกรรมการธุรกรรมได้เคยมีคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินไว้แล้วกว่า 700 รายการ รวมมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 100 ล้านบาท (คำสั่ง ย.7/2568) ในการนี้ จากการตรวจพบทรัพย์สินที่กระทำความผิดเพิ่มเติม คณะกรรมการธุรกรรมจึงมีคำสั่งให้ยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 41 รายการ (ที่ดิน) รวมมูลค่าประมาณ 89 ล้านบาท (คำสั่ง ย. 127/2568)
2. ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 78 รายคดี ทรัพย์สินกว่า 2,640 รายการ มูลค่าประมาณ 2,182 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่ เป็นทรัพย์สินเกี่ยวกับความผิดมูลฐานการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และการฉ้อโกงประชาชน โดยมีรายคดีสำคัญ ดังนี้
- รายคดี นายอานนท์ฯ กับพวก เป็นความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด โดยในกรณีดังกล่าว มีทรัพย์สินกว่า 200 รายการที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลแพ่ง ซึ่งการพิจารณาในครั้งนี้ เป็นการดำเนินการกับทรัพย์สินเพิ่มเติม โดยคณะกรรมการธุรกรรมมีมติส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 12 รายการ (เงินสดและเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร) มูลค่าประมาณ 11 ล้านบาท (คำสั่ง ย. 67/2568)
- รายคดี นางสาวนภษรฯ กับพวก กรณีเป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการลักทรัพย์ อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ และความผิดฐานฟอกเงิน โดยคณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติส่งเรื่องให้พนักงานอัยการ เพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 1,084 รายการ (เช่น นาฬิกา เครื่องประดับ วัตถุมงคล และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร) มูลค่าประมาณ 481 ล้านบาท (คำสั่ง ย. 80/2568)
- รายคดี บริษัทสปาด้าฯ กับพวก ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน และการฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ โดยคณะกรรมการธุรกรรมมีมติส่งเรื่องให้พนักงานอัยการ เพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 9 รายการ (ยานพาหนะ และที่ดิน) มูลค่าประมาณ 19 ล้านบาท (คำสั่ง ย. 74/2568)
- รายคดี www.lv68th.com รายนายสันติธรฯ กับพวก อันเป็นความผิดเกี่ยวกับ การพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยคณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 2 รายการ (เงินสด) มูลค่าประมาณ 32 ล้านบาท (คำสั่ง ย. 63/2568)
- รายคดี เว็บไซต์ auto.lengame888.com รายนายบูรพาฯ กับพวก กรณีความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และความผิดฐานฟอกเงิน โดยคณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติ ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 26 รายการ (เช่น เงินสด ทองคำ และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร) มูลค่าประมาณ 27 ล้านบาท (คำสั่ง ย. 98/2568)
- รายคดี นายยุทธนาฯ กับพวก กรณีเป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และความผิดฐานฟอกเงิน โดยคณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้อง ขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 129 รายการ (เช่น ห้องชุด ที่ดิน และเงินในบัญชี เงินฝากธนาคาร) มูลค่าประมาณ 216 ล้านบาท (คำสั่ง ย. 47/2568)
- รายคดี นายสง่าฯ (โกฟุก) กับพวก กรณีเป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการพนัน ทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสำนักงาน ปปง. ดำเนินการกับทรัพย์สินในกรณีดังกล่าวแล้วกว่า 380 รายการ มูลค่าทรัพย์สินกว่า 1,400 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลแพ่ง ในการพิจารณาครั้งนี้ เป็นการดำเนินการกับทรัพย์สินเพิ่มเติม โดยคณะกรรมการธุรกรรมมีมติส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 14 รายการ (ที่ดิน และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร) มูลค่าประมาณ 450 ล้านบาท (คำสั่ง ย. 100/2568)
3. ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินไปคืน รือชดใช้คืนผู้เสียหาย (คุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย) จำนวน 18 รายคดี ทรัพย์สิน 408 รายการ มูลค่าประมาณ 245 ล้านบาท ในความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน ฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ โดยมีข้อมูลรายคดีสำคัญ คือ
- รายคดี MR.WONG WEIฯ กับพวก ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน การฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ และเชื่อมโยงกับทรัพย์สินในความผิดเกี่ยวกับการพนัน ทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีมติเห็นชอบให้ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินไปคืนหรือชดใช้คืนผู้เสียหาย (กรณีคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย) ซึ่งเป็นการดำเนินการกับทรัพย์สิน 93 รายการ มูลค่า 130 ล้านบาท (คำสั่ง ย. 93/2567 และคำสั่ง ย. 148/2567)
Advertisement