วันที่ 17 มิ.ย. 68 นาย วิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. และโฆษกประจำสำนักงาน ปปง. แถลงผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรมในเดือน เม.ย.-มิ.ย. 68 ซึ่งมีนายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. เป็นกรรมการ และเลขานุการ โดยคณะกรรมการธุรกรรมมีมติให้ดำเนินการกับทรัพย์สินตามความผิดมูลฐาน เช่น ยาเสพติด ฉ้อโกงประชาชน ฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ และพนันออนไลน์ สรุปผลการดำเนินการที่น่าสนใจ ดังนี้
คดีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม กับพวก กรณีความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการฉ้อโกง อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ และความผิดฐานฟอกเงิน โดยคณะกรรมการธุรกรรมได้เคยมีคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินไว้แล้ว จำนวน 3 รายการ รวมมูลค่าประมาณ 71 ล้านบาท
ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลแพ่ง ในการนี้มีการดำเนินการยึดและอายัดทรัพย์สิน ซึ่งตรวจพบในอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ (เพิ่มเติม) จำนวน 25 รายการ เช่น สินค้าแบรนด์เนม และสิทธิเรียกร้องตามสัญญาซื้อขายรถยนต์ รวมมูลค่าประมาณ 6 ล้านบาท
คดีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กับพวก (เพิ่มเติม) กรณีดังกล่าวเป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน โดยคณะกรรมการธุรกรรมได้เคยมีคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินไว้แล้วจำนวน 5 ครั้ง รวมทรัพย์สิน 165 รายการ ราคาประเมินประมาณ 450 ล้านบาท และส่งเรื่องให้พนักงานอัยการ พิจารณายื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเกี่ยวกับทรัพย์สินดังกล่าว รวม 2 สำนวนคดี
ตามคดีหมายเลขดำที่ ฟ.3/2568 และหมายเลขดำที่ ฟ.54/2568 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลแพ่ง ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด (เพิ่มเติม) จำนวน 281 รายการ เช่น กระเป๋า นาฬิกา สินค้าแบรนด์เนม และยานพาหนะ รวมมูลค่าประมาณ 160 ล้านบาท
Advertisement