ความคืบหน้ากรณีนายธีรนัยอายุ 25 ปี ที่ ซึ่งได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองนครปฐม จับกุมในข้อหายาเสพติดและถูกควบคุมตัวมาทำการสอบสวน และแจ้งข้อกล่าวหาเมื่อกลางดึกของวันที่ 2 มิถุยายน 68 และได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแพทย์รพ.นครปฐม ในการควบคุมตัวไปทำการตรวจสารเสพติดว่า ได้เพสยาบ้ามาจำนวน 2 เม็ด และถูกควบคุมตัวที่ห้องขังสภ.เมืองนครปฐม ก่อนจะมีอาการปวดท้องรุนแรง และช็อก ซึ่งถูกเร่งนำส่งรพ.นครปฐม และเสียชีวิตในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน โดยมีข้อมูลว่าผู้ตายได้บอกกับเพื่อนที่ถูกควบคุมตัวว่ากลืนยาบ้าเพื่อหลบหนีการจับกุมมา 49 เม็ด
ล่าสุดวันนี้ (4 มิ.ย.68) พ.ต.อ.อชิรวัตติ์ ถาวรเจริญวัฒน์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม ได้มีการประชุมคอนเฟอร์เรนซ์ประจำสัปดาห์และได้แจ้งสรุปการดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ต่อผู้บังคับบัญชา โดยแจ้งว่า การจับกุมดังกล่าวมีการจับกุมเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2568 เวลาประมาณ 03.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมนายธีรนัย อายุ 25 ปี(ผู้ตาย) โดยได้ควบคุมตัวมาส่งมอบให้พนักงานสอบสวนเวลาประมาณ06.35น.โดยกล่าวหาว่า“เสพ(ยาบ้า)และเสพขับ” โดยร.ต.อ.สถาพร ดวงสี ร้อยเวรสอบสวนปฏิบัติหน้าที่อยู่ ได้รับมอบตัวไว้ได้ทำการสอบสวนปากคำเรียบร้อยแล้ว จึงนำตัวกลับห้องควบคุม กระทั่งเวลาประมาณ09.15 น. ขณะกำลังจะนำตัวนายธีรนัยฯไปส่งอัยการเพื่อฟ้องศาล ปรากฏว่านายธีรนัยฯ หมดสติ ไม่รู้สึกตัว ร.ต.อ.สถาพร จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯและรพ.นครปฐม เพื่อมาปฐมพยาบาลในเบื้องต้น และรับตัวไปรักษาต่อที่รพ.นครปฐม ซึ่งต่อมาทราบภายหลังว่าขณะถูกจับกุมตัวนั้นนายธีรนัยฯ ได้แอบกลืนยาบ้าเข้าไป แต่ไม่ทราบว่าจำนวนเท่าใดหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวไปที่รพ.นครปฐม เพื่อตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะ และดูอาการ โดยที่รพ.นครปฐม ทางแพทย์และพยาบาลได้ซักถามซึ่งนายธีรนัยฯแจ้งว่าได้กลืนยาบ้าเข้าไป 2 เม็ด ทางรพ.นครปฐมจึงให้ให้อยู่ที่รพ.ประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อสังเกตอาการจนไม่มีอาการอะไรแสดงออกมา
กระทั่งเวลาประมาณ 05.00 น.จึงให้นำตัวกลับมาควบคุมที่สภ.เมืองนครปฐม เพื่อส่งมอบพนักงานสอบสวนดำเนินคดี และภายหลังได้ทราบจากผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมด้วยกันว่านายธีรนัยฯ กินยาบ้าเข้าไปจำนวน 49 เม็ด และขณะจะนำตัวส่งศาลแขวงนครปฐม เพื่อฟ้องนายธีรนัยฯ ได้มีอาการผิดปกติ จึงได้แจ้งมูลนิธิฯและรพ.นครปฐมดังกล่าวข้างต้น นำรถกู้ชีพมารับตัวไปรักษาพยาบาล ต่อมาเวลาประมาณ 15.44 น. ได้รับแจ้งจากทางรพ.นครปฐมว่า นายธีรนัยฯ ได้เสียชีวิตลงแล้ว จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วร่วมกับน.ส.ณิชาภัทร อนุรักษ์โอฬาร พนักงานอัยการ,นายธัชกร เกษมโสตร์ ปลัดอำเภอ,น.ส.ณัฐวดี ภรรยา และนพ.นิติ แตงตาด แพทย์ประจำรพ.นครปฐม ร่วมชันสูตรพลิกศพนายธีรนัยฯ โดยรับเป็นเลขชันสูตร เพื่อจะได้ดำเนินการต่อไป และเป็นการดำเนินการตามขั้นตอนทั้งหมด แต่ติดประเด็นว่าผู้ตายไม่ได้มีการแจ้งข้อเท็จจริงต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อหวังหลบหนีความผิด จึงทำให้ไม่มีข้อเท็จจริงหากมีการแจ้งจะมีการดำเนินการกระบวนการส่งแพทย์เพื่อล้างท้องต่อไป
ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ตาย ได้เคยมีประวัติพัวพันกับยาเสพติดมาก่อน และเคยถูกจับกุมในคดียาเสพติดมาแล้ว 2 ครั้ง โดยคาดว่าเจ้าตัวจะรู้ว่าหากถูกจับกุมอีก จะมีคดีที่มีประวัติติดตัวเพิ่ม ซึ่งยังไม่ทราบว่าภรรยาผู้ตายได้ทราบมาก่อนหรือไม่
ขณะที่โรงพยาบาลนครปฐม โดยนายแพทย์สุรชัย โชคคครชิตชัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครปฐม ได้ชี้แจงกรณีดังกล่าวหลังจากมีสื่อบางแขนงได้มีนำเสนอข่าวว่าทางทีมแพทย์พยาบาลผู้ทำการรักษาได้มีการปิดบังข้อมูลในการรักษา ซึ่งโดยความเป็นจริงในการนำผู้ต้องหามาทำการตรวจสารเสพติด เจ้าตัวได้แจ้งว่าได้มีการเสพยาเสพติดมา 2 เม็ดจึงได้ทำการตรวจสอบหาสารเสพติดตามหลักการ โดยผู้ต้องหาเป็นผู้ปกปิดและไม่ได้แจ้งกับทีมแพทย์พยาบาลว่ามีการแอบกลืนยาเสพติดเข้าไปมากถึง 49 เม็ด หากทราบก่อนจะมีกระบวนการในการรักษาเช่นการล้างท้องเพื่อให้ขับยาเสพติดออกมาจากร่างกายและให้นอนรอดูอาการอย่างใกล้ชิด ตามหลักการไม่ได้มีการปกปิดข้อมูลในการรักษาตามข่าวที่ออกไปแต่อย่างใด
Advertisement