เมื่อคืนที่ผ่านมา (3มิ.ย.68) ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาแก๊งปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ประกอบด้วย นายนรินทร์ กาเผือก หรือ เบิร์ด , นายสุวัฒน์ พ่วงยาม หรือ เล็ก , นายภียกร ธิติปุญญวัชร์ หรือ คิง , นายธนทร ก้อนนาค หรือ จี , และนายเอกชัย สมใจ หรือ เอก มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่โกดังสเตเดียม การท่าเรือฯ จุดเกิดเหตุ
โดยจุดแรกตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหาทีละคนลงมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ตู้คอนเทนเนอร์ที่กลุ่มผู้ต้องหาได้มีการใช้คีมตัดกุญแจแล้วขโมยเอาบุหรี่ไฟฟ้าออกไป ซึ่งแต่ละคนให้การตรงกัน ว่า นายสิทธิ์ศักดิ์ สุขบุญ หรือ แบงค์ เป็นชักชวนให้มาขโมยบุหรี่ไฟฟ้า และเป็นคนตัดกุญเเจเปิดตู้คอนเทนเนอร์ ทั้งชั้นล่างและชั้นบน ก่อนจะให้ทุกคนช่วยกันขนลังใส่บุหรี่ไฟฟ้าขึ้นไปบนรถตู้
ขณะที่นายนรินทร์ หรือ เบิร์ด ได้ให้การด้วยว่า หลังจากมีการตัดกุญแจขโมยของในตู้คอนเทนเนอร์โซนแรก 4 ตู้ แล้ว นายสิทธิศักดิ์ หรือ แบงค์ ก็ได้เลื่อนรถตู้ ไปที่โซนด้านหน้า เพื่อตัดกุญแจตู้คอนเทนเนอร์ ตู้ที่ 5 แล้วก็เป็นจังหวะที่รปภ.การท่าเรือฯ มาเจอ ซึ่งนายสิทธิศักดิ์ หรือ แบงค์ ก็ได้สั่งให้ทุกคนในรถหมอบลง หลังจากนั้นก็จึงได้ขับรถหลบหนี
ขณะที่ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายนรินทร์ หรือ เบิร์ด ระบุว่า นายสิทธิศักดิ์ หรือ แบงค์ เป็นคนชักชวนให้มาก่อเหตุ ซึ่งตอนแรกก็ไม่ได้บอกว่ามาขโมยบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนตอนที่ขับรถชนรปภ. ยืนยันว่า ตัวเองไม่ได้อยู่บนรถตู้ และไม่ได้รู้มาก่อนว่าจะมีการขับรถชนคนตาย
ต่อมาตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหา เตรียมจะมาทำแผนตรงจุดที่ 2 หน้าประตูทางเข้า - ออก โกดังสเตเดียม ซึ่งเป็นจุดที่กลุ่มผู้ต้องหามีการปะทะกันกับรปภ. เพราะพยายามที่จะเปิดประตูให้รถตู้ขับรถหลบหนี โดยมีผู้ต้องหา 4 คน ลงมาจากรถตู้เพื่อช่วยกันเปิดประตู และมีการชกต่อยกับรปภ. ก่อนที่นายสิทธิศักดิ์ หรือ แบงค์ จะขับรถหลบหนีออกไป แล้วถอยชนนายบุญนาค เสียชีวิต
แต่ปรากฎว่า ตำรวจได้ยกเลิกทำแผนในจุดนี้ เนื่องจากมีญาติผู้เสียชีวิต มายืนรอดูการทำแผนอยู่ที่หน้าประตู จึงเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย แล้วได้รับคุมตัวผู้ต้องหากลับไปที่สน.ท่าเรือ ทันที
สำหรับการทำแผนประกอบคำรับสารภาพเมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจไม่ได้มีการคุมตัวนายสิทธิศักดิ์ หรือ แบงค์ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพด้วย เพราะยังอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผล
Advertisement