จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กในชื่อ ช่างแมนเนเว่อไมด์ ได้โพสต์คลิปคนร้ายเดินมาขโมยรถจักรยานยนต์ ขณะตัวเองนอนหลับอยู่บนเก้าอี้ ห่างจากรถประมาณ 2-3 เมตร พร้อมกับระบุข้อความว่า “ด่วนครับรถโดนขโมยเวลา 5:38 น.คนร้ายออกมาจากอดุลยเดชซอย 5 จูงรถหนีออกไปเลยรถเวฟสีเทาทะเบียน 2 กย 1367 อุดรธานี เจอติดต่อ 0915566006” โดยมีคนมาแสดงความคิดเห็นถึงโจรในเมืองอุดรธานีที่มีเยอะมาก และก่อเหตุลักเล็กขโมยน้อย ไม่เว้นแต่ละวัน และทำไมเจ้าของรถไม่ล็อกคอรถไว้ แล้วถอดกุญแจเก็บไว้กับตัว เพราะโจรเมืองอุดรฯเผลอไม่ได้มันหน้ามึนมาก
โดยในคลิปจากกล้องวงจรปิดในซุ้มร้านน้ำปั่น ระบุเวลา 05.38 น.วันที่ 29 พฤษภาคม 2568 พบคนร้ายเป็นชายรูปร่างผอมเหมือนขี้ยา อายุประมาณ 25-30 ปี สวมเสื้อแขนยาวแบบมีฮู๊ดคลุมศีรษะทับหมวกแก๊ป นุ่งกางเกงขาสั้นเดินมาตามถนนอดุลยเดช แล้วเลี้ยวเข้าไปในซอยอดุลยเดช 5 จากนั้นได้เดินย้อนกลับมาที่รถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายเป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 125 ไอ สีเทา ทะเบียน 2 กย 1367 อุดรธานี เข็นรถถอยออกแล้วถอยเกียร์ว่างแล้วรีบเข็นลงฟุตบาทขึ้นค่อมรถแล้วสตาร์ทเครื่องขี่หลับหนีไปทาง 4 แยกธิเบต ถ.อุดลยเดช ตัดกับ ถ.วัฒนานุวงศ์ ส่วนเจ้าของรถก็ยังคงนอนหลับอยู่บนเก้าอี้ โดยรู้ตัวว่ารถถูกคนร้ายลักขี่ออกไปแล้ว
วันที่ 29 พฤษภาคม 2568 เวลา 09.30 น.ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่เกิดเหตุ เป็นร้านขายน้ำผลไม้ปั่น บริเวณปากซอยอดุลยเดช 5 ถ.อดุลยเดช ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี พบกับนายศุภชัย แก้วเชียงกุล หรือ แมน อายุ 33 ปี ชาว อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี เจ้าของรถจักรยานยนต์ที่ถูกคนร้ายขโมยเอาไปนำชี้จุดที่จอดรถไว้ พร้อมกับเล่าว่าตนจอดรถไว้บนฟุตบาทข้างร้านน้ำปั่น เวลาประมาณ 04.00 น.เพราะเหนื่อยและง่วงนอนและจอดรถห่างจากตัวเองขณะนอนพักอยู่บนเก้าอี้พลาสติกแบบเอนกายประมาณ 2-3 เมตร แต่เสียบกุญแจคาไว้ที่รถและหลับลึกจากการทำงานทั้งกลางวันและกลางคืนพอตื่นขึ้นมาเวลา 05.50 น.ก็ไม่พบรถ
จึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดในร้านน้ำปั่นของเพื่อน จึงรู้ว่ามีคนร้ายเข้ามาขโมยขี่เอาไป ก่อนนำคลิปกล้องวงจรปิดไปแจ้งความร้องทุกข์ และตำรวจชุดสืบสวนให้ติดตามรถและจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย คาดว่าคนร้ายเป็นพวกขี้ยาหรือเป็นคนเร่ร่อนที่เดินเพ่นพ่านในตัวเมืองอุดรธานีกันเป็นจำนวนมาก หากตำรวจจับคนร้าย ตนก็จะขอแขกหัวมันสักครั้ง และต่อไปตนคงจะไม่กล้าเสียบกุญแจคาไว้ที่รถอีกแล้ว แต่ที่ผ่านมาตนก็จอดเสียบกุญแจคาไว้ที่รถทุกครั้งก็ไม่เคยหาย เพราะตนก็นอนอยู่ใกล้ๆกับรถ ไม่คิดว่าโจรมันจะหน้ามึนขนาดนี้
ต้องผ่อนรถจักรยานยนต์คันที่หายไปเดือนละ 2,300 บาท เพิ่งผ่อนไปได้ 8 เดือนก็มาถูกขโมยไป หากจับคนร้ายไม่ได้ก็คงต้องผ่อนกุญแจสำรองที่อยู่กับตัวเองไปอีก 28 งวด ส่วนกุญแจตัวจริงคนร้ายลักไปพร้อมกับรถแล้ว
Advertisement