เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 24 พ.ค ที่ ตลาดจิงเกิลเบลส์ ถ.วัดเกาะ แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพฯ นายบุตรชาติ จันทร์ธนู อายุ 24 ปี อาชีพไรเดอร์ส่งอาหาร เข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจากนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ภายหลังจากถูกรถยนต์ยี่ห้อ MG สีขาว ไม่ทราบทะเบียน ซึ่งคนขับเป็นผู้ชาย วัยกลางคน มีพฤติกรรมเลียนแบบลูกชายนักการเมืองท้องถิ่นคนดังก่อนหน้านี้ พยายามขับรถไล่ชนกลางถนนจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนหลบหนีไป ซี่งชนวนเหตุเกิดจากหนุ่มไรเดอร์ได้ชะลอรถจักรยานยนต์ตรงทางม้าลายเพื่อให้ผู้สูงอายุข้ามทาง
นายบุตรชาติ ผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า เหตุเกิดวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 18.50 น. บริเวณทางม้าลาย หน้าคอนโดมิเนียมลุมพินี ถนนลาดปลาเค้า กทม. ขณะที่ตนเองขี่รถจักรยานยนต์ เพื่อจะไปรับแฟนสาวที่วิภาวดี 60 ปรากฏว่าตนเห็นมีคนสูงอายุเป็นผู้หญิง กำลังข้ามทางม้าลาย จึงชะลอรถ แต่กลับมีรถยนต์สีขาว ยี่ห้อ MG ไม่ทราบทะเบียน ซึ่งอยู่ห่างจากรถจักรยานยนต์ของตนประมาณ 2 คันรถ กลับบีบแตรลั่นใส่ จากนั้นเมื่อตนขับต่อมุ่งหน้าไปยังถนนใหญ่ตามปกติ บริเวณห้างสรรพสินค้า เดอะแจส รามอินทรา รถคู่กรณีกลับมีการขับเบี่ยงซ้ายแล้วเปิดกระจกถามตนอย่างมีอารมณ์ว่า “ขับรถไม่เห็นคันหลังหรือ กวนตีนหรือ” ตนจึงถามว่า “คุณไม่เห็นว่ามีป้ากำลังข้ามถนนหรือ“ แต่คู่กรณีก็โต้ตอบว่า “ป้าไหนของมึง” ตนเห็นท่าไม่ดี เพราะคู่กรณีพูดด้วยอารมณ์ ตนจึงไม่อยากสื่อสารปะทะด้วย พยายามหลีกเลี่ยง จึงขับเบี่ยงหนีออกไป แต่เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุอีกจุด คือ บริเวณสนามมวยลุมพินี คู่กรณีกลับมีการพุ่งขับมาเบียดชนตน จนชนเข้ากับเสาไฟฟ้าข้างทางและล้มลงอย่างแรง ครูดกับพื้นผิวถนน เป็นเหตุให้รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย และตนเองได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยเฉพาะบริเวณหัวเข่าข้างขวาและแขนซ้าย มีรอยเขียวฟกช้ำบริเวณแผ่นหลังฝั่งขวา แต่เมื่อเห็นดังนั้น คู่กรณีกลับไม่มีการจอดรถมาช่วยเหลือใด ๆ และขับหลบหนีออกไป ทั้งนี้ ตนเห็นว่ารถคู่กรณี คนขับเป็นผู้ชายวัยกลางคน ส่วนเบาะข้างคนขับพบว่าเป็นสาวหล่อ
นายบุตรชาติ กล่าวอีกว่า ตั้งแต่เกิดเหตุ ตนยังไม่ได้เดินทางไปรับการรักษาพยาบาล เพราะไม่มีเงิน จึงให้แฟนสาวช่วยล้างแผล ทำความสะอาดแผลให้ก่อน วันนี้จึงตัดสินใจเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากสายไหมต้องรอด เพราะสิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้ตนไม่สามารถกลับไปประกอบอาชีพไรเดอร์ได้ สูญเสียรายได้อย่างมาก ปกติตนวิ่งไรเดอร์วันนึงได้กำไรเกือบ 1,000 บาท และตนวิ่งไรเดอร์มาเกือบ 4 ปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ถึงรู้ว่าเส้นถนนจะมักมีคนประเภทนี้ ตนก็เลี่ยงเสมอ เพื่อไม่ให้กระทบองค์กร และตนยืนหยัดในอาชีพผู้ให้บริการที่จะไม่ปะทะกับประชาชน
อย่างไรก็ตาม จากเหตุดังกล่าว ด้วยความที่ตนเป็นเสาหลักครอบครัว หารายได้เป็นค่าใช้จ่ายภายในครอบครัว แต่กลับไม่ได้รับความช่วยเหลือ ประสานติดต่อใด ๆ ซึ่งสิ่งที่ตนอยากได้รับความช่วยเหลือจากคู่กรณี คือ ขอให้คู่กรณีกลับมารับผิดชอบทั้งค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลและค่าสินทรัพย์สินไหมต่าง ๆ ที่ได้รับความเสียหาย และรับทราบข้อกล่าวหา
นายบุตรชาติ กล่าวต่อว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุให้ในวันที่ 22 พ.ค. เวลา 19.30 น. (วันเดียวกับวันเกิดเหตุ) ตนได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวัน สน.บางเขน เรียบร้อยแล้ว แต่ตำรวจกลับแจ้งให้ตนไปไล่กล้องจรปิดเอง ไปหาทะเบียนรถคู่กรณีเอง แต่ตนไม่ได้มีความสามารถที่จะหาทะเบียนคู่กรณีได้ขนาดนั้น ตนไม่มีเงิน และไม่รู้ว่าเขาเป็นคนใหญ่คนโตหรือไม่ กลัวว่าจะมีความไม่ปลอดภัยกับชีวิต จึงประสานขอรับความช่วยเหลือจากพี่ ๆ น้อง ๆ ในเพจเฟซบุ๊กที่เคยประสบเหตุลักษณะนี้ จึงได้รับคำแนะนำว่าควรไล่กล้องวงจรปิดอย่างไรบ้าง จุดไหนบ้าง และตนไม่มีคอมพิวเตอร์ ก็ต้องเข้าร้านอินเตอร์เน็ต เพื่อเอาไฟล์ไปเปิดดูภาพ และนำออกมาแสดงกับสังคม ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุ 22 พ.ค. ตนทุ่มเทกับการหาภาพวงจรปิด ทำเองทุกอย่าง เพิ่งได้กลับมาจากร้านอินเตอร์เน็ตเมื่อตอนเวลา 03.00 น. เพื่อต้องการให้สื่อมวลชนได้ดูภาพเหตุการณ์จริง และขอความช่วยเหลือ เพื่อให้ได้รับความยุติธรรมด้วย
ขณะที่ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า ตนได้เห็นคลิปกล้องวงจรปิดแล้ว และดูลักษณะแล้วคู่กรณีมีการขับขี่เบียดจี้ตูดผู้บาดเจ็บมาตลอดทางจนชนเข้าเสาไฟฟ้า เช่นนี้ดูเหมือนเป็นการจงใจเจตนาทำให้ถึงแก่ร่างกาย หรือพยายามฆ่าหรือไม่ ส่วนนี้คือพยานหลักฐานสำคัญที่ชุดสืบสวนของ สน.บางเขน จะต้องเข้ามาตรวจสอบเพื่อให้ความเป็นธรรมประชาชนด้วย เพราะมิอย่างนั้น คนเช่นนี้ก็จะคิดว่าชนแล้วไม่ต้องรับผิดชอบ ใครก็ตามตัวไม่ได้ ท้ายสุดก็จะไปก่อเหตุกับคนอื่นบนท้องถนนได้อีก ตนรับปากประสานไปยัง ผกก.สน.บางเขน ให้ช่วยเร่งรัดให้ความเป็นธรรม ขอให้ผู้เสียหายไม่ต้องเป็นกังวล
Advertisement