วันที่ 3 ยังไม่เจอคนงานตกหลุมลึก 19 เมตร เจ้าหน้าที่จัดบวงสรวงฮีลใจ
วันที่ 3 ยังไม่เจอคนงานตกหลุมลึก 19 เมตร ล่าสุด ทีมค้นหาขุดลึก 7.5 เมตร เผยเจ้าหน้าที่จัดบวงสรวงฮีลใจ ยืนยันเร่งค้นหาผู้สูญหายเต็มที่
จากกรณีนาย ศราวุฒิ จันทะสนธ์ หรือ ดาว อายุ 33 ปี ชาว จ.ศรีสะเกษ คนงานก่อสร้าง โครงการก่อสร้างสถานีหลานหลวง (OR06) ซึ่งเป็นโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เกิดเหตุดินสไลด์ทับ หลังจากพลัดตกหลุมเสาเข็ม ลึก 19 เมตร ระหว่างทำงาน บริเวณจุดก่อสร้างเยื้องซอยหลานหลวง 8 แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. เมื่อช่วงเวลาประมาณ 12.00 น. วันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สำหรับความคืบหน้าวันที่ 22 พ.ค. 68 ที่บริเวณภายในโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ใกล้เคียงซอยหลานหลวง 8 แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. จุดเกิดเหตุ คนงานตกหลุม 19 เมตร ตั้งแต่บ่ายวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ยังปักหลักเร่งค้นหาผู้สูญหายอย่างต่อเนื่อง แม้เวลาผ่านมานานกว่า 70 ชม. หรือเข้าสู่วันที่ 3 ของการค้นหาแล้ว
มีรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อาสาสมัครร่วมกตัญญู เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตป้อมปรามศัตรูพ่าย รวมถึงเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ของโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า และคนงานของโครงการ ร่วมกันกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อให้การทำงานค้นหาผู้สูญหายเป็นไปด้วยความราบรื่น ประกอบไปด้วยพระพุทธรูป และเศียรพ่อแก่ ซึ่งตั้งอยู่ใน ‘บ้านนราศิลป์’ บ้านไม้โบราณ ที่ใช้สำหรับทำเครื่องโขน เครื่องละคร ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่6 โดยบ้านหลังดังกล่าวตั้งอยู่เยื้องกับที่เกิดเหตุ
หลังจากเสร็จสิ้นพิธีบวงสรวง โดยนายเพ็ชร ภุมมา ผู้อำนวยการเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กล่าวถึงความคืบหน้าการปฏิบัติงานว่า ตั้งแต่เมื่อวานจนวันนี้เจ้าหน้าที่มีการขุดดินลงไปได้ 7.5เมตร และได้ทำตัวกั้นผนังชั้น 3ไปบางส่วน แต่ตอนนี้ พบปัญหาอุปสรรค เพราะเมื่อคืนที่ผ่านมา มีการลั่น การขยับตัวของดิน บริเวณชั้น 1และชั้น2 จึงต้องกลับไปซ่อมแซมผนังกั้น เพื่อทำให้เกิดความแข็งแรง ที่ชั้น1และชั้น2 และตอนนี้ได้มาทำชั้น3 ต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับผู้ปฏิบัติงานในการเข้าไปค้นหา และเมื่อซ่อมแซมเสร็จแล้วก็จะต้องกลับมาประเมินความแข็งแรงอีกครั้ง
โดยขณะนี้บนผิวดินจะต้องเข้มงวดกับผู้เกี่ยวข้องมากขึ้นด้วย ซึ่งจะให้เจ้าหน้าที่ต้องมีอุปกรณ์เซฟตี้มากขึ้น ทั้งเข็ดขัดนิรภัย และสายเกี่ยว และจะต้องเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับคนปฏิบัติงานจริงๆ อยู่ในบริเวณดังกล่าวเท่านั้น
ส่วนทีมแพทย์ ทีมช่วยเหลือ มูลนิธิร่วมกตัญญูก็ขยับไปใกล้ไซด์งานมากขึ้น เพื่อให้พร้อมต่อการช่วยเหลือ เพราะวันนี้อากาศร้อน ซึ่งยืนยันว่าจะพยายามทำให้เร็วที่สุด แต่ยอมรับว่าอุปสรรคต่างๆที่เจอก็ทำให้งานขยับเวลาไปเรื่อยๆ ทั้งนี้บนพื้นฐานความปลอดภัยจะต้องคำนึงถึงผู้ปฏิบัติงานและเพื่อนบ้านรอบๆด้วย ส่วนการทำพิธีบวงสรวงเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ก็เป็นการฮีลใจ เพื่อให้รู้สึกว่ามีอะไรบ้าง และยืนยันว่าทำงานอย่างเต็มที่แน่นอน
ด้าน นายกิตติกร ตันเปาว์ รองผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมถึงเหตุผลที่เกิดดินขยับตัวว่า เดิมมีการติดตั้งชีทไพล์ เพื่อเสริมความแข็งแรงอยู่แล้ว แต่เมื่อขุดลงไปที่ระยะความลึกเพิ่มขึ้น แรงดันดินเพิ่มขึ้นตามระยะความลึก ดังนั้นเมื่อแรงดันดินเพิ่มขึ้นก็เป็นแรงที่กระทำต่อชีทไพล์ ทำให้เกิดการขยับตัว ทำให้เจ้าหน้าที่จึงได้เสริมการค้ำยันเข้ามาเพิ่มขึ้น จากเดิมมีการเสริมคานโดยรอบชีทไพล์ ซึ่งตอนแรกมั่นใจว่าจะค้ำยันได้แข็งแรงพอ แต่ตอนนี้ก็ได้เข้าไปเสริมเหล็กเพิ่มไปอีก ซึ่งไม่ได้อยู่ที่การเสริมด้านบนอย่างเดียว แต่จะเสริมทุกระยะ 2.5 เมตร และตอนนี้ขุดระดับความลึกไปได้ระดับ 7.5เมตรแล้ว ก็จะเสริมที่ระดับนี้ด้วย รวมถึงจะต้องมีสายเซฟตี้อุปกรณ์ และมีระบบระบายอากาศ ต่อท่อลม น้ำอากาศไปหมุนเวียนในระดับที่เจ้าหน้าที่ทำงาน
ขณะที่ นายภุชพงศ์ สัญญโชติ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการดับเพลิงและกู้ภัย 3 สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เมื่อเช้านี้ มีการใช้เครื่องสแกนวัตถุ แต่ไม่ได้ชี้ชัดว่าเจออะไร เพียงแค่ทำให้มีข้อมูลเรื่องของชั้นที่มีมวลของวัตถุที่ไม่ใช่ดินอยู่ในพื้นที่นั้น คาดการณ์ว่าอยู่ที่ระดับความลึกไม่เกิน 12 เมตร โดยต้องขึ้นอยู่กับวิศวกร และผู้เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการ เพราะค่อนข้างอันตราย ซึ่งมวลวัตถุดังกล่าวอาจจะเป็นก้อนคอนกรีต และเป็นไปได้หลายส่วน เนื่องจากจุดที่ขุด มีฐานรากสะพานลอยอยู่เดิม ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจจะมีชิ้นส่วนวัตถุพวกนี้อยู่ทำให้ชั้นดินไม่ต่อเนื่อง โดยระหว่างปฏิบัติงานก็จะเจอวัตถุเหล่านี้เรื่อยๆ แต่เมื่อไม่สามารถสัมผัสวัตถุได้ อาจจะทำให้บอกรายละเอียดได้ไม่ครบถ้วน
Advertisement
