จากกรณีพลเมืองดีส่งคลิปสาววัย 14 ปี โดนก๊วนสาวเรียกออกไปรุมทำร้ายอย่างทารุณทั้งจิกหัวเอาเท้ากระหน่ำเตะเข้าศีรษะรัวๆ ไม่พอยังลากหัวขึ้นมาตบซ้ำ แล้วจิกหัวลากไปมา ทันทีที่ทีมงานกันจอมพลังรับทราบเรื่อง จึงประสานทางตำรวจ สน.หนองค้างพลู และกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เข้าช่วยเหลือ
วันนี้ (14 พ.ค. 2568) ฝั่ง เด็กหญิง อายุ 14 ปี ผู้เสียหาย พร้อมด้วยพ่อ และรุ่นพี่เดินทางมาพบกับตำรวจและผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการทางกฎหมาย โดยทีมงาน กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีน้องอายุ 14 ปีถูกรุมทำร้ายร่างกาย โดยมีการส่งคลิปเข้ามาผ่านทางเพจ "กัน จอมพลัง" และ "มูลนิธิกัน จอมพลัง" จึงพาน้องเดินทางเข้าแจ้งความในวันนี้ เนื่องจากเห็นว่าเป็นความรุนแรงที่เกินกว่าเหตุ โดยเฉพาะในกรณีของเยาวชน
จากนั้นทีมงานได้พา เด็กหญิง อายุ 14 ปี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จาก พม. เข้าสอบสวนเบื้องต้นและตรวจร่างกายเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ ผู้ปกครองควรชี้แนะบุตรหลานว่า การกระทำเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องสนุก และหากมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย อาจเข้าข่ายความผิดได้
ขณะที่เจ้าหน้าที่กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า ในกระบวนการสอบปากคำเด็ก จะมีการสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ร่วมกับทีมสหวิชาชีพ เพื่อสอบข้อเท็จจริง โดยคำนึงถึงการปกป้องสิทธิของน้องที่ถูกกระทำ
เบื้องต้นจะมีการพูดคุยกับครอบครัวก่อนว่า ครอบครัวสามารถดูแลเด็กได้หรือไม่ หากสามารถดูแลได้ เด็กก็จะยังคงอยู่กับครอบครัว แต่หากมีความกังวลในเรื่องของความปลอดภัยในพื้นที่ เจ้าหน้าที่จะพิจารณาว่าจะสามารถดูแลเด็กได้อย่างไร ส่วนอาการบาดเจ็บ ขณะนี้ได้มีการส่งตัวเด็กเข้าตรวจร่างกายแล้ว และจะรอผลตรวจเพื่อให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกระบวนการต่อไป
ด้าน น.ส.ดรีม อายุ 18 ปี รุ่นพี่ของผู้เสียหายเปิดเผยว่า รุ่นน้องของตนถูกกลุ่มนี้ทำร้ายร่างกายมาตลอดระยะเวลาเกือบ 1 ปี โดย สาเหตุหลักๆ ก็มาจากการที่ฝั่งนั้นอิจฉาที่น้องมีชีวิตที่ดีกว่า รวมไปถึงผู้ชายฝั่งนั้นมาจีบน้องของตน แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมารุ่นน้องของตนไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง จนกระทั่งมาถึงเหตุการณ์นี้ ทำให้ตนมีโอกาสได้พูดคุยกัน ผู้ปกครองและกลุ่มผู้ก่อเหตุ ก็เลยทราบเรื่องทุกอย่าง โดยหัวโจกหลักคือคนที่มีปัญหากับรุ่นน้อง ส่วนคนอื่นๆ ในคลิป ก็ทำน้องตน เพราะรู้สึกหมั่นไส้ อีกทั้ง หนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุ (ที่เป็นผู้ชาย) ยังพูดอีกว่า "ผมแค่เตะเบาๆ ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย" ซึ่งตนรู้สึกรับไม่ได้ที่กลุ่มผู้ก่อเหตุมาพูดแบบนี้
ฝั่งพ่อของผู้เสียหาย ยอมรับว่า ตนไม่ทราบมาก่อนว่าลูกสาวถูกทำร้ายร่างกายมาตลอด เป็นระยะเวลานานเกือบ 1 ปี เพราะลูกสาวไม่เคยมาบอกและตนไม่เคยสังเกตเห็นว่าผิดปกติอะไรจากลูกสาว ซึ่งตนมารู้ครั้งแรกเมื่อช่วงกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา ตอนนั้นก็ได้มีการพูดคุยตกลงกับผู้ปกครองของฝั่งคู่กรณีแล้ว ก็ไม่คิดว่าลูกสาวของตนจะถูกผมทำร้ายร่างกายเหมือนเดิมอีก จึงเป็นไปได้ว่า ผู้ปกครองของเด็กกลุ่มนั้นอาจจะไม่มีเวลาเลี้ยงดูลูก โดยหลังจากนี้ ตนยืนยันว่าจะไม่มีการยอมความ และจะขอดำเนินคดีให้ถึงที่สิ้นสุด รวมถึงพิจารณาจะให้น้องกลับไปอยู่กับยายที่จังหวัดอุบลราชธานีเพื่อความปลอดภัยของตัวน้องอีกด้วย ส่วนสภาพจิตใจของลูกสาวในขณะนี้มีอาการกลัวและหวาดระแวงว่าจะถูกทำร้ายอีก
ด้าน พ.ต.อ.สมหมาย โสภาเจริญ ผู้กำกับการ สน.หนองค้างพลู เปิดเผยว่า หลังจากที่ผู้ปกครองพาน้องผู้เสียหายมาแจ้งความ พนักงานสอบสวนก็ได้ให้ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล เพื่อนำความเห็นจากแพทย์มาประกอบสำนวนในคดี ส่วนเรื่องการสอบปากคำนั้นด้วยความที่ น้องผู้เสียหายและกลุ่มผู้ก่อเหตุยังเป็นเยาวชน จึงต้องประสานเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพเข้ามาร่วมสอบปากคำซึ่งได้มีการนัดหมายแล้วว่าจะเข้ามาสอบปากคำในช่วงบ่ายวันศุกร์นี้
ส่วนเรื่องที่ ผู้เสียหายถูกทำร้ายร่างกายมาตลอดระยะเวลาเกือบ 1 ปี จากการตรวจสอบพบว่าน้องไม่เคยมาแจ้งความ แต่ก็ทางตำรวจจะสอบข้อเท็จจริงฟ้องเพื่อร่างคำฟ้องในสำนวนให้ศาลฯ เห็นพฤติกรรมการก่อเหตุ
หลังจากนี้ตำรวจจะเข้าไปสอดส่องบริเวณหน้าบ้านของผู้เสียหาย เพื่อดูแลเรื่องความปลอดภัยตามที่ฝั่งผู้เสียหายเกิดความกังวลเกรงว่าจะถูกทำร้ายอีกครั้งซึ่งตำรวจให้ความมั่นใจว่าการทำคดีตรงไปตรงมาและผู้เสียหายจะได้รับความปลอดภัย
Advertisement