ความคืบหน้ากรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์เล่าประสบการณ์ลูกน้องถูกงูกัด พาไปรักษา ทางโรงพยาบาลยันในเลือดไม่มีพิษ บอกเคสไม่สำคัญ ให้รับยากลับบ้านได้ จนต่อมา คนถูกงูกัดอาการโคม่า หายใจไม่ออก ไม่มีแรง ลิ้นจุกปาก ชักเกร็’ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ
นายกิ๊ก (สงวนชื่อ-สกุลจริง) อายุ 42 ปี นายจ้างของคนถูกงูกัด หรือ นายสุทัศย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี เล่าผ่านโทรศัพท์ว่า เวลา ตี 1 ของคืนวันที่ 7 พ.ค. 68 ลูกน้องถูกงูกัด ในบ้านพัก ในพื้นที่ ต.พลงตาเอี่ยม อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ซึ่งปลูกเป็นขนำในสวนยาง ต่อมาพาน้องไปรักษาที่ รพ.แห่งหนึ่งใน อ.วังจันทร์ จ.ระยอง แล้วทาง รพ.วินิจฉัยว่าในเลือดไม่มีพิษ เคสงูกัดไม่สำคัญให้รับยาพารา ยาฆ่าเชื่อแล้วกลับบ้านได้
นายจ้าง เล่าต่อว่า หลังจากลูกน้องกลับบ้าน ประมาณ 08.00 น. ของวันเดียวกัน อาการน้องแย่ลง หายใจไม่ออก ชักเกร็ก จึงพาส่ง รพ.เป็นการด่วนน้องต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ ส่งต่อ รพ.ประจำจังหวัดเพื่อรักษา อาการล่าสุด รพ.ประจำจังหวัดให้เซรุ่มไป 2 เข็ม อาการยังทรงตัว ประมาณเที่ยงวันนี้ ( 8 พ.ค. 68 ) จะทราบผลเพิ่มเติมว่า น้องอาการเป็นอย่างไร
สำหรับข้อมูลทางโรงพยาบาลต้นเรื่องที่น้องไปรักษา หลังจากโพสต์ลงเฟซบุ๊ก ทาง รพ. ยังไม่ติดต่อมาชี้แจงอะไร ตอนนี้ขอดูแลอาการให้ลูกน้องปลอดภัย ก่อนส่วนเรื่องคำชี้แจงของทาง รพ. เอาไว้ทีหลัง
อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ดังกล่าวขอให้น้องที่ถูกงูกัดอาการปลอดภัย เคสนี้คงจะเป็นอุทาหรณ์สำหรับการวินิจฉัยการรักษาและสิ่งสำคัญ คำพูดที่ว่า เคสงูกัดไม่สำคัญรับยาพารากลับบ้านได้ ไม่ควรพูดออกมาให้สะเทือนใจคนป่วย
Advertisement