จากกรณีที่มีคลิปที่ชาวบ้าน บ้านท่าเดื่อ หมู่ 6 ตำบลสันผีเสื้อ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ได้บันทึกไว้ขณะที่กำลังเดินไปหาเสียงภายในหมู่บ้านพร้อมรถแห่ แต่จู่ ๆ ก็มี นายนิเรศ เข็มขาว ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 6 บ้านท่าเดื่อ วิ่งถือท่อนไม้ไผ่ขนาดใหญ่วิ่งกรูเข้ามาจะทำร้ายผู้สมัครและทีมงานหาเสียงของ นายภาวิต บุญชละ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสันผีเสื้อ โดยที่มีผู้หญิงสองคนพยายามห้าม และมีการแย่งท่อนไม้ไผ่ออกจากมือผู้ใหญ่บ้าน โดยมีการปะทะคารมกันระหว่างทั้งสองฝ่าย ว่าเป็นผู้ใหญ่บ้านแบบไหน ถือไม้มาหาเรื่องชาวบ้าน
ล่าสุดทีมข่าวอมรินทร์ได้เดินทางไปที่บ้านของนายนิเรศ เข็มขาว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 บ้านท่าเดื่อ ต.สันผีเสื้อ ซึ่งไม่พบเจ้าตัวอยู่ที่บ้าน ทีมข่าวจึงได้โทรศัพท์ติดต่อไปตามเบอร์โทรที่ติดไว้ที่ป้ายหน้าบ้าน ซึ่งปรากฏว่าเจ้าตัวรับสาย แต่เจ้าตัวก็ได้รีบตอบกลับกับผู้สื่อข่าวทันทีว่า ตอนนี้ยังไม่สะดวกที่จะชี้แจงหรือให้สัมภาษณ์ ซึ่งถ้าพร้อมเมื่อไหร่จะเป็นคนโทรศัพท์เรียกนักข่าวมาให้สัมภาษณ์เอง โดยตนเองจะต้องปรึกษากับทางปลัดฯก่อน เนื่องจากต้นสังกัดและเป็นผู้บังคับบัญชาของตนเอง จึงยังไม่สะดวกให้สัมภาษณ์
ขณะเดียวกันทีมข่าวได้พูดคุยกับนางสาวไพวัลย์ กันดา แม่ของผู้ใหญ่บ้าน โดยเจ้าตัวเปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองอยากให้มองและฟังความทั้งสองข้าง เพราะตอนนี้หลายคนกำลังเข้าใจผิดลูกชาย โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีที่มาที่ไป คือ วันนั้นลูกชายไปประกาศหอกระจายข่าวเชิญชวนชาวบ้านออกมางานรดน้ำดำหัว เนื่องในวันสงกรานต์ แต่ในระหว่างที่กำลังประกาศเสียงตามสาย พบว่า มีกลุ่มผู้สมัครนายกเทศมนตรีตำบลสันผีเสื้อ ได้เข้ามาเดินหาเสียงและมีการใช้เสียงจากเครื่องกระจายเสียงที่เสียงดัง ก่อนที่ลูกชายจะไปบอกดีๆ ให้งดใช้เสียง เพราะรบกวนการจัดงานรดน้ำดำหัว แต่ก็ถูกฝ่ายผู้ลงสมัคร ด่าทอกลับมาก่อน จึงทำให้ทั้งสองฝ่ายมีปากเสียงทะเลาะกัน
ส่วนเรื่องที่ฝั่งผู้สมัครนายกเทศมนตรีกล่าวหาว่าลูกชายตนขี่รถจักรยานยนต์ชน จนได้รับบาดเจ็บ ปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง วันนั้นหลังจากมีปากเสียงกัน ลูกชายตนจะขี่รถออกมา แต่พบว่า ภรรยาของผู้ลงสมัครชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรี ได้เดินมาขวางรถจักรยานยนต์ของลูกชายเอง จนทำให้รถจักรยานยนต์ของลูกชายล้ม
ยอมรับว่าลูกชายก็มีอารมณ์โมโห จึงได้กลับมาที่บ้าน เพื่อมาเอาไม้ท่อนยาวๆ ออกไปจะเอาไว้ป้องกัน เนื่องจากกลุ่มผู้สมัครมีมากถึง 10 คนแต่ลูกชายมีเพียงเพียงคนเดียว แต่ลูกชายก็ยังไม่ได้ทำอะไรเพราะมีลูกสะใภ้คอยห้ามปรามเอาไว้
ทั้งนี้นางไพวัลย์ ยืนยันว่า ลูกชายของตนไม่ใช่นักการเมืองฝ่ายตรงข้ามกับคู่กรณีแต่อย่างใด เป็นเพียงผู้ใหญ่บ้านที่มีนิสัยการทำงานที่ซื่อตรงเท่านั้น เพราะเวลาที่ลูกชายประกาศหอกระจายข่าว เพื่อเชิญชวนให้ชาวบ้านออกไปเลือกตั้งนายกเทศมนตรี ก็ไม่เคยมีการพูดจาเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ยอมรับว่าลูกชายผิดที่หัวร้อน แต่ก็อยากให้สังคมได้เห็นใจและฟังความอีกฝ่ายด้วยว่าที่ลูกชายทำไปถูกด่าก่อน
Advertisement