สาวสองเจอ ตร. บุกห้อง เผยข้อเสนอ 1 พันขอจบเรื่อง ส.ต.ท.ยันเข้าใจผิด แค่ไปบอกให้ลบคลิป (คลิป)
จากกรณีที่เพจเฟซบุ๊ก เกรียงไกร ไทยอ่อน โพสต์คลิปของผู้เสียหาย ที่ถูกชายแปลกหน้า แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าตรวจค้นภายในบ้านยามวิกาล พร้อมระบุข้อความว่า "งานเข้าเพราะกิ๊ก ตำรวจจริงหรือปลอม บุกถึงห้องยามวิกาล" โดยคลิปดังกล่าว มีคนเข้ามาคอมเมนต์ถึงความไม่เหมาะสมของชายแปลกหน้า ที่แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้ามาตรวจค้นบ้านประชาชนในยามวิกาล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
(อ่านเพิ่มเติม : สาวสองยอมความ คดี 2 ชายอ้างเป็น ตร. บุกไถขู่ยัดข้อหาถึงห้อง ถูกเรียกเคลียร์คืนเงินพันจบเรื่อง)
ล่าสุด วันที่ 20 เม.ย. 63 คุณเหมียว (นามสมมติ) สาวประเภทสองผู้ถ่ายคลิป เล่าว่า ช่วงเช้าวันนี้ ตนเองได้ไปเจรจากับสิบตำรวจโทตั้ม (นามสมมติ) นายตำรวจเสื้อขาวที่อยู่ในคลิป โดยนัดเจรจากันที่ สภ.ทุ่งกระแบน จ.สมุทรสาคร จากการพูดคุยกันเบื้องต้น ตำรวจคู่กรณีให้ตนเองยอมความ และรับว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเข้าใจผิด
โดยวันเกิดเหตุ 18 เม.ย. 63 เวลา 18.00 น. นายบอล (นามสมมติ) แฟนหนุ่มของตน นัดเจอกิ๊กสาวประเภทสองผ่านแอปพลิเคชันหาคู่ ไปเจอกันที่ถนนคลองมะเดื่อ ห่างจากหอพักตนเองประมาณ 100 เมตร จากนั้นมีเจ้าหน้าที่แต่งกายนอกเครื่องแบบลงจากรถกระบะ 4 นาย แล้วเข้ามาจับกุมแฟนหนุ่มตนเองพร้อมใส่กุญแจมือ แจ้งข้อหาว่ารถจักรยานยนต์ขาด พ.ร.บ. ส่วนตนก็จะไปจ่ายค่าปรับ 1,000 บาท ให้กับเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว แต่ขอต่อค่าปรับเหลือ 500 บาท เจ้าหน้าที่ทั้ง 4 คนก็ไม่ยอม ตนจึงต้องยอมจ่าย
กระทั่งตนกลับมาห้องพัก จึงได้โพสต์เรื่องราวลงในกลุ่มข่าว จ.สมุทรสาคร ว่าถูกเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบปรับเงิน ต่อมาเวลา 21.58 น. ของวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ก็ได้มาที่ห้องตนเองอีก 2 นาย โดยมีสิบตำรวจโทตั้ม ชายเสื้อขาวในคลิป และอาสาตำรวจอีก 1 นาย ทั้ง 2 คนมาต่อว่าตนเองเรื่องที่ตนโพสต์เฟชบุ๊ก
คุณเหมียว เล่าต่อว่า เมื่อวานตนเองได้เข้าไปแจ้งความที่ สภ.ทุ่งกระแบน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาคืนเงินให้ 1,000 บาท เพื่อแลกกับการให้ตนไม่เอาเรื่อง และให้ตนยอมจบ กระทั่งเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่ก็นัดตนไปเจรจา สิบตำรวจโทตั้มได้กล่าวขอโทษตน และขอให้ตนแก้ข่าว โดยให้ตนโพสต์ลงเฟชบุ๊กว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้รับเงินค่าปรับ 1,000 บาทจากตนในที่เกิดเหตุ
"ตอนนี้ตนเองไม่ได้ติดใจตำรวจ ตนอยากให้เรื่องราวทั้งหมดจบ แต่ขอยืนยันว่าจะไม่ยอมโพสต์เฟชบุ๊กรับผิดตามข้อเสนอของตำรวจแน่นอน เพราะตนไม่ได้เป็นฝ่ายผิด" นอกจากนี้ ตนขอแก้ข่าวว่า วันเกิดเหตุแฟนหนุ่มนัดเจอกิ๊กตั้งแต่เวลา 18.00 น. ไม่ได้ออกไปในช่วงเวลาเคอร์ฟิว
ด้านสิบตำรวจโทตั้ม เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า วันเกิดเหตุ ตนเองเป็นชุดตรวจ พร้อมเจ้าหน้าที่อาสาตำรวจอีก 3 นาย เห็นนายบอลลักษณะมีพิรุธ จึงได้เข้าไปตรวจรถจักรยานยนต์ของนายบอล พบว่า พ.ร.บ.รถขาด จึงแจ้งข้อหาและให้ไปจ่ายค่าปรับที่โรงพัก 1,000 บาท ในวันรุ่งเช้า แต่เมื่อแฟนสาวประเภทสองของนายบอลมาถึงที่เกิดเหตุ เข้าใจว่าต้องจ่ายค่าปรับทันที จึงหยิบเงินให้เจ้าหน้าที่ และได้มีปากเสียงกัน สาวประเภทสองจึงเอาเงินมาวางให้เจ้าหน้าที่ที่โต๊ะ แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้รับเงินค่าปรับ
ส่วนเงินค่าปรับ 1,000 บาท ตอนที่พวกตนเดินออกมาจากห้องพัก ก็เห็นนายบอลแฟนหนุ่มของสาวประเภทสองหยิบกลับคืนไป ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นจึงถือเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน พวกตนเพียงไปบอกให้ลบคลิปที่โพสต์เท่านั้น
จากนั้นวันรุ่งขึ้นคู่กรณีก็เดินทางมาจ่ายค่าปรับ 1,000 บาท ที่ สภ.ทุ่งกระแบน แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้รับเงิน แค่ว่ากล่าวตักเตือนเท่านั้น พร้อมกับคืนเงินค่าปรับให้ทั้ง 2 คนคืนกลับไป
ด้าน นายบอล (นามสมมติ) แฟนหนุ่มของคุณเหมียว เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวมาด้วยกัน 4 คน มาค้นรถจักรยานยนต์ตนเอง และค้นตัวตนเองทั้งที่ไม่แสดงหมายคน และใส่กุญแจมือตนด้วย ซึ่งตนก็ไม่ได้มีท่าทีขัดขืน กระทั่งเจ้าหน้าที่ค้นไม่พบยาเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมาย จึงได้ปรับเงินตน 1,000 บาท ในข้อหา พ.ร.บ. รถขาด และพยายามจะยัดข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติดให้กับตน
ซึ่งวันเกิดเหตุ แฟนสาวประเภทสองตนก็มาเสียค่าปรับให้ 1,000 บาท ขอยืนยันว่าตนไม่ได้หยิบเอาเงินค่าปรับจำนวน 1,000 บาท ตามที่สิบโทตั้มชี้แจงกลับคืนมา "ตอนนี้ตนรู้สึกอึกอัดใจ หลังจากที่เข้าเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เขาก็สั่งให้ตนและแฟนสาวประเภทสองยอมรับผิด และให้พวกตนแก้ข่าวให้เขาว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน ให้พวกตนบอกกับสังคมว่าตำรวจไม่ได้รับเงินกับพวกตนตั้งแต่แรก"
ทีมข่าวเดินทางมาที่ บริเวณซุ้มประตูทางเข้า วัดคลองมะเดื่อ ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นจุดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจขับมาเจอนายบอล ซึ่งช่วงเวลาที่ทีมข่าวลงพื้นที่ มีรถสัญจรผ่านด้วยความเร็ว และชาวบ้านส่วนใหญ่ปิดบ้านแล้ว ชาวบ้านในพื้นที่ ให้ข้อมูลว่า ถนนเส้นนี้นาน ๆ ครั้งถึงจะมีรถตำรวจเข้ามาลาดตะเวน และไม่เคยเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบเข้ามาจับคนแถวนี้
Advertisement
