จากกรณีผู้โดยสารชาวไทย 152 คน ปฏิเสธเข้าสู่กระบวนการกักตัวของรัฐ ทำให้เกิดเหตุวุ่นวายที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา ก่อนทั้งหมดจะถูกปล่อยให้กลับบ้าน โดยถูกกำชับให้กักตัวที่บ้าน 14 วัน ซึ่งผู้โดยสารที่หนีกลับบ้าน จำนวน 8 คน เป็นชาวชลบุรี
โดยแบ่งออกเป็นชายชาวอำเภอศรีราชา 3 คน เดินทางมาจาก ประเทศอินเดีย ประเทศสิงคโปร์ และประเทศสหรัฐอเมริกา ,อำเภอบ้านบึง เป็นหญิง 1 คน เดินทางมาจากประเทศสิงคโปร์ ,อำเภอบางละมุง เป็นหญิง 2 คน เดินทางมาจากประเทศสิงคโปร์ ,อำเภอสัตหีบ เป็นหญิงสูงวัย 1 คน เดินทางมาจากการเลี้ยงหลานที่ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ,อำเภอเมือง เป็นชาย 1 คน เดินทางจากประเทศสิงคโปร์
โดยทั้ง 8 คนได้เดินทางเข้ารายงานตัวที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชลบุรี และถูกส่งไปกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ที่อาคารรับรองครบทั้งหมดตั้งแต่เมื่อวานนี้ ส่วนอีก 1 บุคคลที่ไม่มีรายชื่อชื่ออยู่ในสารระบบ เนื่องจากเป็นชาวอำเภอบางละมุง ที่รายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ จึงถูกส่งเข้าไปกักตัวที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเขตประเวศ กทม. ตามที่หน่วยงานภาครัฐจัดไว้ให้
วันที่ 5 เม.ย.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้เดินทางมายังอาคารที่พักที่ทางสำนักงานจังหวัดชลบุรี จัดหาไว้ให้ผู้ที่จะต้องกักตัว หลังเดินทางมาจากต่างประเทศ โดยอาคารแห่งนี้เป็นตึก 4 ชั้น ชั้นล่างเป็นลานจอดรถ โดยมีห้องพักทั้งหมด 60 ห้อง มีผู้เฝ้าดูแลอาคารตลอด 24 ชั่วโมง
โดยอาคารแห่งนี้ถูกจัดเตรียมไว้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน โดยทุกเช้าจะมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี มาตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของผู้เฝ้าระวัง นอกจากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่จากอำเภอเมืองชลบุรีคอยนำอาหารและน้ำดื่มมาให้ 3 มื้อ ตั้งแต่เวลา 8.30 น. 12.30 น. และ 17.30 น. โดยเมนูในแต่ละครั้งและแต่ละวันจะแตกต่างกันออกไป หรือหากผู้กักตัวคนใดเบื่ออาหารหรืออยากกินอะไรเป็นพิเศษ เช่น ซาลาเปา บะหมี่ ทางอำเภอเมืองชลบุรีก็จะพยายามจัดหามาให้ อย่างเช่นในมื้อเที่ยงของวันนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 4 เมนู ได้แก่ ผัดไท , ต้มจืดไก่ , ปลาทูราดพริก และแกงพะแนงหมู
สำหรับห้องพักอาศัยของผู้ที่ถูกกักตัว เป็นห้องขนาดประมาณ 8x4 เมตร มีระเบียง เครื่องนอน เครื่องปรับอากาศ wifi และห้องน้ำในตัว โดยผู้ถูกกักตัวแต่คนจะอาศัยอยู่ 1 คน ต่อ 1 ห้อง
ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานจังหวัดชลบุรี เน้นย้ำว่า ทางจังหวัดชลบุรีมีความพร้อมเกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่ถูกกักตัวตามมาตรการของรัฐ ทั้งผู้ที่มีความเสี่ยงจากกรณีสนามบินสุวรรณภูมิและกลุ่มอื่น ๆ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ขอความร่วมมือจากญาติผู้ถูกกักตัว ห้ามเข้าเยี่ยม แต่สามารถนำของใช้จำเป็นมาฝากไว้กับเจ้าหน้าที่ได้
จากนั้น ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้เดินทางมายังกองทัพเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อดูความเป็นอยู่ของผู้ที่ถูกกักตัว เบื้องต้นประชาชนที่เดินทางกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงที่ยินยอมเข้ารับการกักตัว จำนวน 264 คน ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยด้านหน้าและรอบอาคารอย่างเคร่งครัด อนุญาตให้เข้าไปภายในอาคารได้เฉพาะเจ้าหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น
โดยขณะนี้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี โดยมีการจัดให้พัก 3 คน ต่อ 1 ห้อง เป็นห้องขนาดประมาณ 8x4 เมตร ซึ่งมีทั้งเครื่องนอน โทรทัศน์ wifi ตู้เย็น กาน้ำร้อน ไว้คอยอำนวยความสะดวก โดยทางศูนย์กักตัวกำลังพิจารณารขยับขยาย ปรับให้เหลือผู้กักตัวจาก 3 คน ต่อ 1 ห้อง เป็น 2 คน ต่อ 1 ห้อง โดยผู้ถูกกักที่กลับมาจากสนามบินสุวรรณภูมิ จะได้ออกจากสถานที่กักตัวในวันที่ 18 เมษายน หรือ 19 เมษายนนี้
น.ส.วนิดา รัตนบัตร หรือ อิ๋ว อายุ 34 ปี ญาติของผู้ที่ถูกกักตัวจากกรณีสนามบินสุวรรณภูมิ บอกว่า น้องสาวของตนได้บินไปเที่ยวที่ประเทศเกาหลีตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม และกลับมาถึงไทยในวันที่ 3 เมษายน โดยก่อนที่จะบินมายังประเทศไทย น้องสาวได้ไปตรวจสุขภาพและมีใบรับรองแพทย์จากประเทศเกาหลีแล้วว่าไม่ป่วย จึงอยากให้น้องสาวไปกักตัวที่บ้านมากกว่า แต่เมื่อมีมาตรการของรัฐเช่นนี้ก็ยินดีให้ความร่วมมือ
โดยในวันนี้ได้มาเยี่ยมน้องสาว และมาขนของที่น้องสาวซื้อมาจากประเทศเกาหลีกลับบ้าน ซึ่งได้มีโอกาศวิดีโอคอลหาน้องสาวแล้ว ซึ่งสัมผัสได้ถึงความเครียดของน้องสาว
Advertisement