บาดใจคนรักสัตว์ ฆ่าหมาพิการแล้วแร่เนื้อกิน อึ้งคลิปมัดต่างด้าวย่องอุ้ม (คลิป)
จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก "มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์" ได้โพสต์เรื่องราวของ สุนัขชื่อว่าเจ้ากะทิ เป็นหมาจรถูกรถชนจนพิการ และมีคนรักสัตว์คอยช่วยเหลือดูแล อาศัยอยู่ในย่านโรงงานอุตสาหกรรมบางปู สมุทรปราการ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา คนดูแลพบว่า กะทิหายไป ขอดูกล้องวงจรปิดจากบริษัทโรงงานในย่านนั้น พบว่า มีชายสองคน คาดว่าเป็นแรงงานต่างด้าวชาวพม่า มาช่วยกันอุ้มเอากะทิออกไป กะทิเอ๋ย…เพราะหนูพิการเดินหนีไปไหนไม่ได้ คนใจร้ายก็ยังมาทุบหัวเอาไปฆ่ากิน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
WDT รับเรื่องร้องเรียนจากคนรักสัตว์ที่คอยช่วยเหลือดูแลกะทิจึงรีบลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรอยเลือดตรงที่ที่กะทินอน ลุยเข้าป่าไปตามทางเดินป่า ที่จะไปทะลุอีกซอยหนึ่งซึ่งเป็นย่านบ้านพักคนงานต่างด้าว พบแพมพิร์สที่กะทิใส่ และผ้าเปื้อนเลือดคาดว่าเป็นผ้าที่แรงงานต่างด้าวใช้มาอุ้มกะทิและคาดว่าจะทุบหัวกะทิจนตาย จึงปรากฏคราบเลือดและเศษขนบนผ้า รวมทั้งพบเศษกระดูกถูกทิ้ง อยู่ในป่าหลังให้คนรักสัตว์เข้าแจ้งความเหตุทารุณกรรมสัตว์ที่ สภ.บางปู WDT ประสาน พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.บางปู มอบหมาย ร.ต.อ.อำนาจ ตะเคียนราช รองสว.(สอบสวน) สภ.บางปู เป็นพนักงานสอบสวนร้อยเวรเจ้าของคดี นัดหมายลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ร่วมกับทีมงาน WDT พร้อมขอดูกล้องวงจรปิดเพิ่มจากโรงงานที่คาดว่าจะเห็นได้ชัด
ทั้งนี้WDT ร้องขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมเข้าสอบสวน บรรดาหัวหน้าคนงานต่างๆที่อาศัยอยู่ในย่านนั้น เพื่อค้นหาแรงงานต่างด้าวที่มาตีหมาเอาไปกินเป็นประจำโดยล่าสุด ก็คือ กะทิ หมาพิการที่น่าสงสารที่สุด
ล่าสุดวันที่ 9 ก.พ. 66 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังซอยเทศบาลบางปู 71/1 ต.บางปูใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ จากการตรวจสอบ จุดที่เจ้ากระทิ สุนัขพิการ ถูกอุ้มไปเผาอยู่บริเวณตรงข้ามโรงงานด้านหน้าปากซอย ส่วนด้านข้างที่อยู่ติดกันเป็นโรงงานร้าง และเป็นพื้นที่ว่างเนื้อที่ประมาณ 40 - 50 ตารางวา ชาวบ้านจะมาสร้างเป็นที่อยู่อาศัยของ สุนัขตัวอื่น ๆ กว่า 50 ตัว ส่วนด้านในของซอย จะเป็นโรงงานที่อยู่ติดกันจนถึงท้ายซอย และจะมีคนงานทั้งคนไทยและแรงงานต่างด้าว ที่เป็นคนพม่าและคนกัมพูชาอาศัยอยู่
ส่วนวงจรปิดที่เป็นหลักฐานสำคัญ บุคคลต้องสงสัยชาย 2 คน เดินผ่านที่หน้าโรงงานน้ำแข็ง มีชายเสื้อสีขาวถือไม้ จากนั้นทั้ง 2 คน ก็เดินผ่านอีก 2 โรงงานมุ่งหน้าไปยังปากซอยที่เป็นจุดที่เจ้ากระทินอนอยู่ จากนั้นก็เข้าไปยังจุดที่เจ้ากระทินอนอยู่ แล้วจะเห็นว่าชายที่ไม่ใช่คนถือไม้ ได้ก้มลงไปอุ้มเจ้ากระทิขึ้นมา แล้วก็มีชายอีก 2 คนนำเจ้ากระทิใส่ถุงกระสอบสีขาว ช่วยกันถือคนละมือเดินหิ้วเจ้ากระทิ ออกมาจากจุดดังกล่าว
น.ส.รัตติยา เตียวตระกูล อายุ 35 ปี เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ บอกว่า ตั้งแต่วันแรกที่มาตามหาหลักฐานถือว่าวันนี้ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าเจ้ากระทิถูกคนงานต่างด้าวอุ้มไป เผาเป็นอาหารตามภาพในวงจรปิด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ดูแลเรื่องของสุนัข ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจมาก เนื่องจากพฤติกรรมของคนก่อเหตุ เป็นการจงใจนำสัตว์ที่พิการไปทารุณ
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าตอนนี้ ยังไม่สามารถระบุได้ว่าบุคคลในวงจรปิดเป็นใคร ก็ต้องขอขอบคุณสื่อและตำรวจที่เข้ามาช่วยตามหาหลักฐาน หากเป็นไปได้ก็อยากจะขอความร่วมมือทางตำรวจ ไม่ว่าจะเป็นผู้การจังหวัดสมุทรปราการหรือ ผกก.สภ.บางปู ลงพื้นที่ตามบุคคลในภาพวงจรปิดมาลงโทษทางกฎหมาย เนื่องจากตั้งแต่เกิดเหตุเท่าที่ทราบทางตำรวจยังไม่ได้มีการเรียกใครไปสอบปากคำ และหากตำรวจจริงจังกับเรื่องนี้ โดยไม่มองว่าคดีนี้แค่หมาพิการตัวหนึ่ง ส่วนตัวเชื่อว่าตำรวจต้องสามารถตามจับคนก่อเหตุมาดำเนินคดีได้ในที่สุด
ด้าน รปภ.โรงงานที่อยู่ใกล้เคียง ยืนยันว่าเห็นคนงานในซอยนี้เดินผ่านโรงงานเป็นประจำ ส่วนคืนเกิดเหตุ ยอมรับว่าได้ยินเสียงหมาหอนและเห่ามาจากปากซอย แต่ไม่ได้เอะใจ เนื่องจากคิดว่าหมาเห่าหอนแรงงานต่างด้าวที่เดินไปเดินมาตามปกติ และถึงจะเดินออกไปดูก็คงไม่สังเกตสิ่งของที่เขาถือกลับไป เพราะการเดินแบกของเข้าออกภายในซอยเป็นปกติของแรงงานต่างด้าว
Advertisement
