สางแค้นโหดบุกบ้านฆ่าเน็ตไอดอลช่างกล แฉโพสต์มรณะปักหมุดเช็กบิล (คลิป)

เมื่อเวลา 00.01 น. วันที่ 13 ม.ค. 66 ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งเหตุคนถูกยิงภายในบ้านได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงประสานอาสาสมัครกู้ภัยป่อเต็กตึ๊งไปตรวจสอบร่วมกับสายตรวจ ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.บางโปรง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พบ นายกิตติศักดิ์ อรรถประจง อายุ 28 ปี ถูกยิงเข้าที่หน้าอกฝั่งซ้าย กระสุนตัดขั้วหัวใจทะลุใต้รักแร้ฝั่งซ้าย นอนหมดสติจมกองเลือด เจ้าหน้าที่พยามช่วยปฐมพยาบาลและปั๊มหัวใจแต่พบว่าเจ้าตัวเสียชีวิตทันที 

ล่าสุดทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางลงพื้นที่ไปยังบ้านที่เกิดเหตุ โดยพบว่า หลังจากเกิดเหตุญาติได้มีการล้างทำความสะอาดคราบเลือดของคนตายที่ถูกยิงตั้งแต่บริเวณประตูหน้าบ้านไปจนถึงกลางบ้านเรียบร้อยแล้ว 

ทีมข่าวตรวจสอบกล้องวงจรปิดช่วงเกิดเหตุ โดยกล้องวงจรปิดละแวกบ้านที่เกิดเหตุ จับภาพในคืน 12 ม.ค. 66 เวลาประมาณ 23.18 น. จะเห็นรถมอเตอร์ไซค์ 1 คัน มีคนเดินวนและกระโดดขึ้นรถก่อนที่จะขับหายไปจากมุมกล้อง โดยกล้องตัวดังกล่าวจับภาพกลุ่มวัยรุ่นที่แวะมาทักทายกับคนตายก่อนที่จะถูกยิง จากนั้นกล้องวงจรปิดตรงข้ามบ้านของ นายกิตติติศักดิ์ คนตาย จับภาพเห็นคนก่อเหตุ ลักษณะสวมใส่หมวกกันน็อกเต็มใบ เดินผ่านกล้องและเดินไปมาบริเวณหน้าบ้านคนตาย 

ขณะเดียวกันกล้องวงจรปิดฝั่งตรงข้ามบ้านที่เกิดเหตุ จับภาพช่วงเวลา 23.45 น. โดยกล้องตัวดังกล่าวจะได้ยินเสียงปืน 1 นัด พร้อมกับได้ยินเสียงของ นายกิตติศักดิ์ คนตาย ร้อง ”โอ้ย 2 ครั้ง ” พร้อมกับจังหวะที่เห็นคนก่อเหตุวิ่งใส่กางเกงสะท้อนแสงไปขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่ช่องว่างข้างบ้านหลบหนี

ทีมข่าวได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมบริเวณหน้าหมู่บ้านของคืนเกิดเหตุวันที่ 12 ม.ค. 66 โดยกล้องวงจรปิดช่วงเวลาประมาณ 22.01 น. รถมอเตอร์ไซค์ของคนก่อเหตุขับมาคนเดียว สวมใส่หมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ขับผ่านกล้องวงจรปิดหน้าหมู่บ้านเข้าไปเพื่อขับวนดูลาดลาว จากนั้นกล้องวงจรปิดตัวเดิมยังจับภาพเห็นว่า ช่วงเวลาถัดมาประมาณ 22.05 น. ตัวคนก่อเหตุจะขับออกจากอีกซอยวนกลับเข้าไปอีกซอย เหมือนเป็นการขับวนดูลาดลาวและความเคลื่อนไหวก่อนจะก่อเหตุ

จนกระทั่งช่วงเวลาประมาณ 00.00 น. เป็นช่วงหลังจากที่มีการก่อเหตุยิงนายกิตติศักดิ์เสียชีวิตแล้ว รถมอเตอร์ไซค์ของคนก่อเหตุได้ขับออกมาจากซอยในหมู่บ้าน ขับออกมาได้อย่างรวดเร็ว และขับผ่านกล้องบริเวณถนนในตำบลอีก 2-3 ตัว สามารถจับภาพความเคลื่อนไหวเอาไว้ แต่เป็นการขับรถเร็วไม่สามารถจับป้ายทะเบียนหรือใบหน้าได้ชัดเจน กล้องวงจรปิดจึงเห็นเพียงแค่ขับรถผ่านและรูปพรรณสันฐานเบื้องต้นเท่านั้น

และจากคำให้การของพยานที่เห็นเหตุการณ์ ยืนยันกับทีมข่าวว่า เห็นคนร้ายมากับกลุ่มพรรคพวก คาดว่าน่าจะไม่ใช่เพียงแค่ 1 คนที่ก่อเหตุ ทีมข่าวจึงได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายหลังที่เห็นรถมอเตอร์ไซค์ของคนก่อเหตุขับหลบหนีออกจากหมู่บ้านหลังจากยิงนายกิตติศักดิ์แล้ว ปรากฏว่ากล้องวงจรปิดช่วงเวลาประมาณ 00.01 น. ทิ้งห่างไม่ถึง 1 นาที ปรากฏว่าเห็นกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์ 4 คัน ลักษณะซ้อน 2 ใส่หมวกกันน็อกเต็มใบรีบขับตามหลังรถของคนก่อเหตุออกไป มุ่งหน้าไปทางเดียวกัน จึงเป็นคำยืนยันที่ตรงกับพยานเห็นว่าการก่อเหตุครั้งนี้ไม่ใช่มาเพียงแค่คนเดียว

ขณะเดียวกันพบว่า กล้องวงจรปิดบริเวณทางเข้าหมู่บ้านของ นายกิตติศักดิ์ คนตาย กล้องวงจรปิดตัวดังกล่าวช่วงเวลาประมาณ 00.16 น. รถกู้ภัยทีมแรกได้เข้ามาถึงที่เกิดเหตุ เป็นช่วงที่เข้าไปปฐมพยาบาลก่อนที่นายกิตติศักดิ์จะทนพิษบาดแผลไม่ไหวและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

น.ส.แสงจันทร์ รัตนวัน อายุ 26 ปี แฟนสาวของ นายเกียรติศักดิ์ คนตาย เปิดใจว่า เหตุการณ์เมื่อคืนนี้ไม่มีใครอยู่ในเหตุการณ์ด้วย เพราะเนื่องจากทุกคนขึ้นนอนหมดแล้ว แต่ตัวของคนตายนั่งอยู่เพียงลำพังอยู่บริเวณโต๊ะหน้าบ้าน แล้วถ้าจากภาพกล้องวงจรปิดที่จับภาพเอาไว้ได้ คือจะเห็นว่าตัวของคนก่อเหตุขับวนมาดูหลายรอบ ก่อนที่จะมานั่งสุ่มรออยู่ที่กระถางต้นไม้หน้าบ้าน โดยจุดระหว่างกระถางต้นไม้กับจุดที่แฟนของตัวเองนั่งอยู่ห่างเพียงไม่ถึง 5 เมตร โดยจังหวะที่ตัวของคนก่อเหตุเห็นว่า แฟนของตนเองนั่งอยู่เพียงลำพังจึงได้เข้ามาบุกยิงจากด้านหลัง จนเป็นเหตุทำให้แฟนของตนเองวิ่งตะเกียกตะกายเข้าไปล้มตายอยู่กลางบ้าน

และจากลักษณะของคนร้ายก็มีความเชื่อมโยงกับผู้ต้องสงสัยที่ตนเองให้การกับตำรวจคือ นายมาโนช เป็นคนที่เคยมีเรื่องกับแฟนของตนเองเมื่อประมาณปลายปีที่แล้ว 25 พ.ย. 65 ช่วงประมาณบ่าย โดยฝั่งของ นายมาโนช พร้อมพวกอีก 1 คน ขับมอเตอร์ไซค์ไล่ฟันหัวแฟนของตนเอง ซึ่งอ้างว่าเป็น ”การเช็ค” เป็นศัพท์สำหรับการเช็คว่าเรียนช่างอะไรหรือสาขาอะไร

โดยมีการขับรถไล่ฟันหัวของแฟนตนเองจนกระทั่งขับหลบหนีเข้ามาในหมู่บ้าน แต่แฟนของตนเองขับไปซอยอื่นไม่ได้หลบเข้าบ้าน จึงทำให้ไม่รู้ว่าแฟนของตนเองบ้านอยู่หลังไหน และที่สำคัญจากรูปพรรณสัณฐานของคนที่ปรากฏอยู่ในกล้องวงจรปิด ลักษณะผอมสูง และมีบางช่วงที่ไม่ได้ใส่หมวกกันน๊อก จะสังเกตเห็นว่าเป็นคนไว้ผมยาวแต่ไม่มาก เปิดผมแหวกซ้ายขวาและจากบุคลิกท่าทางก็มีความคล้าย แต่ทั้งนี้ก็ต้องอยู่ที่ว่าตำรวจจะมีการตรวจสอบอย่างไรเพราะตนเองให้การไปหมดแล้ว

ส่วนกรณีการคอมเมนต์ใต้โพสต์ของเพื่อนที่มีการท้าทายกัน โดยคอมเมนต์ก่อนหน้าที่มีการพูดทำนองว่า “ปากหาเรื่อง เดี๋ยวก็หอนอีกนะ” และอีกโพสต์คอมเมนต์ต่อท้าย ระบุว่า “ระวังตัวไว้ให้ดี55555” เชื่อว่าเป็นการพูดคุยกันแต่ไม่ใช่คู่กรณี เพราะจากภาพที่ตนเองดูแล้วไม่ใช่กลุ่มคนที่มีเรื่องอะไรกับแฟนของตนเอง จึงเชื่อว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่เป็นการคอมเมนต์เพื่อความสนุก แต่จากคอมเมนต์ดังกล่าว ตนเองเพิ่งมารู้ภายหลังว่าแฟนของตนเองได้ไปปักหมุด โดยการแจ้งที่อยู่และแจ้งพิกัดบ้าน จึงอาจเป็นเหตุที่ทำให้กลุ่มคนก่อเหตุไม่พอใจบุกเข้ามาทำร้ายตรงตัวหรือไม่

และอีกชนวนเหตุ ตนเองชื่อว่าเป็นเหตุการณ์วันที่ 2 พ.ย 65 ในเหตุการณ์ดังกล่าว แฟนของตนเองเล่าให้ฟังว่า มีรุ่นน้องสายเดียวกัน ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงแต่เป็นรุ่นน้องสายรหัสไปแทงรุ่นน้องอีกสายหนึ่งคือสายกระฉูด ซึ่งเป็นสายตรงข้าม เป็นเหตุทำให้เสียชีวิตกลางถนน

โดยเหตุการณ์ในวันดังกล่าว ถูกฝั่งของสายกระฉูดเข้าใจผิดคิดว่าแฟนของตนเองอยู่เบื้องหลังในการสั่งการ จึงอาจเป็นไปได้หรือไม่ว่าไม่พอใจแล้วส่งคนมายิงแฟนของตนเองเมื่อคืนนี้ แล้วที่สำคัญจากเหตุการณ์ในวันนั้น แฟนของตนเองก็ยังมีการแชร์โพสต์จากเพจข่าวปราการนิวส์โพสต์ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่วัยรุ่นแทงกันกลางถนน แล้วแฟนของตนเองก็ยังแสดงความคิดเห็นว่า ”เหตุการณ์แค่นี้ถึงขั้นเอากันตาย”

ทั้งนี้ส่วนตัวอยากจะบอกกับสังคมว่า แฟนของตนเองสมัยเรียน ปวช. ได้มีการเรียนที่วิทยาลัยกรุงเทพช่างกล และหลังจากที่จบการศึกษา ตนเองก็ให้ออกมาทำงาน พร้อมกับเรียนภาคค่ำอยู่ที่กรุงธนฯ และปัจจุบันก็ออกมาทำช่องยูทูบและทำงานรับจ้าง รวมถึงช่วยตนเองขายน้ำอยู่ที่ปากซอย โดยถ้าหากจะพูดถึงเรื่องสถาบันจึงมองว่าอาจจะเป็นคนละส่วนกันเพราะจบการศึกษาไปแล้ว แต่ส่วนรุ่นน้องข้างหลังก็อาจจะเป็นเรื่องของสายรหัส ที่อาจถูกโยงว่าอยู่เบื้องหลังจนเป็นเหตุหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นชนวนเหตุใด หรือคนก่อเหตุจะมีความแค้นอะไรกับแฟนของตนเองหรือไม่ แต่วันนี้ก็อยากให้ตำรวจไล่ล่าตัวให้ได้โดยเร็ว เพราะเนื่องจากเป็นเหตุการณ์อุกอาจที่บุกมายิงกันถึงบ้าน และหลังจากที่ยิงแล้วก็ได้ขับหลบหนีออกไป ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าเบาะแสหรือชนวนเหตุหลายเรื่องที่ให้การกับตำรวจไป คงจะเป็นเบาะแสที่จะทำให้ติดตามตัวได้โดยเร็วนี้

ขณะที่ ที่วัดบางหญ้าแพรก จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของ นายกิตติศักดิ์ คนตาย ญาติได้มีการรับศพออกมาจากนิติเวช ประกอบพิธีรดน้ำศพ ซึ่งมีเพื่อนและรุ่นพี่มาร่วมงาน สังเกตว่าภายในบรรยากาศพิธีรดน้ำศพนั้น ตัวของ น.ส.แสงจันทร์ แฟนสาวของคนตายนั่งอยู่ใกล้ร่างไม่ห่าง บางช่วงมีการเปิดผ้าคลุมหน้าเพื่อที่จะสัมผัสใบหน้าและพูดคุยบางอย่างกับคนตาย โดยบรรยากาศในพิธีรดน้ำศพและงานตั้งบำเพ็ญกุศลศพเป็นไปอย่างโศกเศร้า เตรียมที่จะมีพิธีฌาปนกิจศพในวันจันทร์ ที่ 17 ม.ค. 66

นายชัด (นามสมมติ) รุ่นพี่ของคนตาย เผยว่า จากกรณีภาพที่ทีมข่าวเอามาให้ดูยืนยันว่า จากภาพทั้งหมดที่นำมาให้ดู พร้อมกับรายชื่อเมื่อเทียบกับชายที่อยู่ในภาพกล้องวงจรปิดในคืนวันเกิดเหตุ ช่วงที่เดินดูความเคลื่อนไหวและช่วงที่มีการเดินไปมา รวมทั้งบุคลิกที่ยืนรอในขณะที่ไม่มีการสวมใส่หมวกกันน๊อก ยืนยันว่าชายคนดังกล่าวมีความใกล้เคียงกว่า 80% คือ นายมาโนช เพราะเนื่องจากทั้งบุคคลิกการแต่งกาย กางเกงสะท้อนแสง ท่าทางการวิ่งและเดิน ทุกอย่างมีความตรงกันกับนายมาโนชเกินกว่า 80% แต่ที่ยังไม่สามารถชี้ชัดได้เพราะเนื่องจากเป็นภาพมุมไกลประกอบกับเห็นทรงผมไม่ชัด

โดยสิ่งที่ตนเองยืนยันได้ว่า เป็นนายมาโนช เป็นเพราะลักษณะการเดินและบุคคลิกทั้งหมดคือเจ้าตัว ประกอบกับในวันดังกล่าวเห็นกางเกงสะท้อนแสง เคยเห็นนายมาโนชเคยสวมใส่ ฉะนั้นจึงชี้ชัดได้ และที่สำคัญนายมาโนชก็เป็นคู่ขัดแย้งกับนายกิตติศักดิ์หรือซี่คนตาย เพราะก่อนหน้าแม้ว่าทั้งคู่จะเรียนสถาบันเดียวกันแต่อยู่คนละสาย โดยตัวของนายกิตติศักดิ์คนตายอยู่สายรวมมิตร แต่ส่วนของนายมาโนชอยู่สายกระฉูด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มฝั่งพระประแดง สมุทรปราการ แล้วทั้งคู่ก็ต่างมีเรื่องกันมาก่อน ดังนั้นตัวของคนตายก็ไม่มีคู่ขัดแย้งที่ไหน

ส่วนกรณีที่มีคนโพสต์ในคอมเมนต์ทั้งก่อนและหลังที่คนตายมีการปักหมุด เป็นเรื่องของการล้อหยอกล้อหรือพิมพ์เล่น แต่ไม่ใช่คนที่มีความขัดแย้งหรือเป็นคู่ขัดแย้งกับตัวของนายกิตติศักดิ์คนตาย จึงเชื่อว่าเป็นคนละส่วนกันและไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้ และการที่ตัวของคนตายได้มีการเปิดเพจเฟซบุ๊กรวมถึงช่องยูทูบที่ลงเรื่องราวเกี่ยวกับอาชีวะยุค90 ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่อาจจะทำให้มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ แต่คนส่วนใหญ่นั้นก็เป็นเพียงแค่การคอมเมนต์ ไม่ได้เกิดเป็นชนวนเหตุที่จะต้องมาฆ่ากันตายแบบนี้

ขณะเดียวกัน จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 27 พ.ย. ที่มีกลุ่มวัยรุ่นบุกเข้ามาปาขวดที่ร้านขายน้ำของนายกิตติศักดิ์คนตาย จากกล้องวงจรปิด ลักษณะของคนก่อเหตุ ตนเองยืนยันว่าไม่ใช่นายมาโนช แต่เป็นกลุ่มของสายกระฉูด หรือฝั่งพระประแดง ซึ่งก็เป็นฝั่งเดียวกันกับนายมาโนช แต่จากชนวนเหตุดังกล่าวก็ถือว่าเป็นเรื่องที่มีความเข้าใจผิดและอาจจะเป็นชนวนที่ต่อเนื่องกันมาจนกระทั่งถึงเหตุยิงกันในวันนี้

ส่วนตัวเชื่อว่าการที่นายกิตติศักดิ์โดนยิง เป็นเพราะอาจจะเป็นเรื่องที่สะสมกันมาทั้ง 2 สาย แล้วก็เข้าใจว่านายกิตติศักดิ์เป็นหัวโจกของฝั่งซ้ายรวมมิตร แต่สิ่งที่ทำให้ฝั่งของสายกระฉูด ตัดสินใจก่อเหตุได้ เป็นเพราะมีการท้าทายแล้วเช็คอินปักหมุดที่อยู่ รวมทั้ง ตัวของนายกิตติศักดิ์ก็เป็นอดีตนักศึกษาของวิทยาลัยเดิม เพราะปัจจุบันตัวของนายเกียรติศักดิ์คนตายได้ย้ายไปเรียนสถาบันใหม่แล้ว จึงมองว่าเป็นอาริต่างสถาบันไปในตัว

อย่างไรก็ตาม สำหรับการก่อเหตุครั้งนี้นอกจากกล้องวงจรปิดบริเวณละแวกบ้านที่เกิดเหตุจับภาพคนก่อเหตุได้เพียงแค่ 1 คน 1 คัน แต่หลังจากนั้นตนเองเชื่อว่ามีมากกว่า เพราะมีคนมาร่วมสังเกตการณ์และร่วมดูต้นทาง โดยกล้องวงจรปิดละแวกแถวนั้นสามารถจับภาพกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์