จากกรณีเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 9 ม.ค. 66 ร.ต.อ.เดชา รามจันทร์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.หาดสำราญ ได้รับแจ้งเกิดเหตุทะเลาะวิวาท ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 2 ราย เหตุเกิดหน้าร้านขายของชำในพื้นที่ หมู่ 9 ต.หาดสำราญ อ.หาดสำราญ จ.ตรัง บริเวณริมถนนทางเข้าศูนย์ราชการ อ.หาดสำราญ ห่างกับ สภ.หาดสำราญเพียงแค่ 400 เมตร
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือลำเลียงผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บส่ง รพ.หาดสำราญ เพื่อพยายามยื้อชีวิต ตรวจสอบบนพื้นดิน พื้นปูน รวมทั้งบนเก้าอี้หน้าร้านค้าดังกล่าว พบกองเลือดจำนวนมากเจิ่งนองอยู่ ส่วนผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายเขียน จันฝาก อายุ 57 ปี ซึ่งเป็นสมาชิกอาสารักษาดินแดน หรือ อส. อ.หาดสำราญ ถูกแทงด้วยอาวุธมีดพกเข้าที่เหนือสีข้างขวา 1 แผล ไหล่ขวา 1 แผล หูซ้ายติ่งหูขาด 1 แผล และหลังใบหูซ้ายอีก 1 แผล รวมทั้งหมด 4 แผล
ส่วนผู้บาดเจ็บคือ นายยุทธนา เอ้งฉ้วน หรือ ย้อย อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาก่อเหตุแทง นายเขียน ได้รับบาดเจ็บ มีอาการรู้สึกตัวดี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าที่เหนือสะบักหลังซ้ายกระสุนฝังใน 1 นัด และแฉลบเข้าที่หลังหูด้านซ้ายอีก 1 นัด บาดเจ็บรู้สึกตัว แต่ได้ถูกนำตัวส่ง รพ.ตรังเพื่อทำการช่วยเหลือเร่งด่วน ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 1 รายคือ นายเหมือน คชเวช อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้านค้าที่เกิดเหตุ ถูกกระแทกด้วยของแข็ง มีบาดแผลที่หน้าผากและที่แขน
ล่าสุดวันที่ 10 ม.ค. 66 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ร้านขายของชำที่เกิดเหตุ โดย นายเหมือน คชเวช อายุ 60 ปี เจ้าของร้านขายชำ ได้ชี้จุดที่ นายยุทธนา ผู้ก่อเหตุ นั่งดื่มสุราอยู่บริเวณม้านั่งหน้าร้านของตน ส่วนตนนั้นนอนอยู่บนเปลซึ่งห่างจากม้านั่งที่ผู้ก่อเหตุนั่งดื่มสุราเพียง 1-2 เมตร
นายเหมือน เล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อวานนี้ นายยุทธนา ผู้ก่อเหตุ มาดื่มสุราที่มานั่งหน้าร้านของตน จากนั้นพ่อของ นายยุทธทนา มาเห็นจึงเข้ามาดูลูกชายกำลังดื่มสุราอยู่และเข้ามาว่ากล่าวตักเตือน แต่นายยุทธนากลับไม่ฟังและต่อว่าผู้เป็นพ่อ ต่อหน้าตน
นายเหมือน เล่าต่อว่า เมื่อ นายสมพร พ่อของผู้ก่อเหตุออกจากร้านไป ตนจึงได้กล่าวตักเตือนนายยุทธนาว่า ไปว่าพ่อของตัวเองอย่างนั้นได้อย่างไร เขาเป็นพ่อมึงนะ ทำให้ผู้ก่อเหตุไม่พอใจและเดินปรี่เข้ามาชกตนทันที จนเกิดการชุลมุนกันขึ้น จังหวะนั้นเมียของตนที่เห็นเหตุการณ์ก็เข้ามาห้าม แล้วนายยุทธนาผู้ก่อเหตุก็เสียหลักหัวไปกระแทกกับเสาบ้านเลือดไหล จึงคิดว่าเมียของตนเข้าไปทำร้าย
หลังจากเหตุการณ์สงบลง ตนได้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รับแจ้งความเพราะคิดว่าจะเคลียร์กันได้ หลังจากนั้นตนจึงหลบไปอยู่ที่บ้านอีกหลังหนึ่ง เพราะกลัวว่าผู้ก่อเหตุจะตามมาเอาเรื่องอีก ซึ่งก็เป็นอย่างที่คิดเพราะว่าผู้ก่อเหตุมาตามเอาเรื่องที่ร้านอีก จนนายสมพรผู้เป็นพ่อและนายเขียน ผู้เสียชีวิต มาตามให้กลับบ้านแต่ผู้ก่อเหตุไม่ยอมและได้แทงนายเขียนจนเสียชีวิต ซึ่งเหตุการณ์ที่มีการชุลมุนแทงกันนั้นตนไม่เห็นเพราะว่าหลบไปอยู่ที่บ้านอีกหลังหนึ่ง นายเหมือน กล่าว
จากการตรวจสอบแฟ้มประวัติคดีอาญาพบว่า นายยุทธนา เอ้งฉ้วน หรือ ย้อย ผู้ก่อเหตุ เมื่อครั้งยังเป็นเยาวชนเคยก่อเหตุและต้องคดีฆ่าผู้อื่นโดยใช้อาวุธมีดเสียชีวิต 1 ราย ต่อมาในปี พ.ศ. 2555 ได้ก่อเหตุต้องคดีฆ่าผู้อื่นและพยายามฆ่าผู้อื่นด้วยอาวุธมีดมีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บสาหัส 1 ราย จนกระทั่งถูกจองจำอยู่ในเรือนจำและพ้นโทษมาเมื่อปี 2565 โดยที่ยังไม่ทันได้ครบหนึ่งปี จนกระทั่งมาก่อเหตุสลดดังกล่าวเป็นศพที่ 3 ด้วยอาวุธมีดด้วยเช่นกัน
ต่อมาทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ วัดเกาะมะม่วงใน ต.โคกหล่อ อ.เมืองตรัง จ.ตรัง ซึ่งทางครอบครัวได้นำศพของ นายเขียน ผู้เสียชีวิต มาบำเพ็ญกุศลและประกอบพิธีกรรมทางศาสนา
ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นายเขต จันตร์ฝาก พี่ชายของผู้เสียชีวิต อายุ 67 ปี เล่าว่า ที่นายเขียนถูกแทงจนเสียชีวิต เนื่องนายยุทธนา ผู้ก่อเหตุ ไปก่อเรื่องทะเลาะวิวาทกับเจ้าของร้านขายของชำ แต่ด้วยอาการเมาสุราประกอบกับเมายาอย่างหนักจึงเสียหลักหัวไปกระแทกกับเสาบ้านเลือดออก จึงคิดว่าเมียเจ้าของร้านทำร้าย หลังจากนั้นเจ้าของร้านชำก็ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่หลังจากนั้น นายยุทธนา ไม่ยอมจบยังตามไปเอาเรื่องเจ้าของร้านขายของชำอีก จึงมีชาวบ้านมาตามนายเขียน ผู้เสียชีวิต และนายสมพร พ่อผู้ก่อเหตุให้ไปแต่ห้าม เมื่อนายสมพรถึงที่เกิดเหตุและเข้าไปห้ามปรากฏว่า ผู้ก่อเกตุกลับจะทำร้ายพ่อแท้ ๆ ของตนเอง นายเขียนจึงเข้าไปห้ามแต่กลับถูกผู้ก่อเหตุแทงจนเสียชีวิต
นายเขต พี่ชายของผู้เสียชีวิตบอกอีกว่า จริง ๆ แล้ว นายเขียน ผู้เสียชีวิต สนิทกับ นายสมพร พ่อของผู้ก่อเหตุมาก ดื่มสุราด้วยกันเป็นประจำและคอยช่วยเหลือดูแลครอบครัวของผู้ก่อเหตุมาตลอด ส่วนตัวนายยุทธนา ผู้ก่อเหตุกับนายเขียน ก็รู้จักกันดี ส่วนตัวก็คิดว่า นายเขียน เลี้ยงลูกจระเข้แล้วถูกแว้งกัด จากนี้ก็ปล่อยให้เป็นตามกระบวนการของกฏหมาย ส่วนตัวนายยุทธนา ผู้ก่อเหตุ ก็มีประวัติเคยแทงคนตายตั้งแต่เป็นเยาวชนเพิ่งพ้นคุกออกมาเมื่อต้นปี 65 แล้วมาก่อเหตุแทงนายเขียนจนเสียชีวิตเป็นรายที่ 3
ด้าน นายจรวด นานอน อายุ 57 ปี อส.จ.ตรัง เพื่อนสนิทผู้ตาย กล่าวว่า ผู้ตายทำงานเป็น อส.มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2532 เป็นคนขยันทำงานมาก ถึงแม้จะอายุมากแต่ก็ยังคงทำงานได้อย่างเต็มที่ และที่สำคัญเป็นคนที่ชอบชั่วเหลือชาวบ้าน ใครในพื้นที่มีเรื่องเดือดร้อนก็จะเข้าไปช่วยเหลือและเข้าไประงับเหตุ และเคยเข้าไประงับเหตุผู้ก่อเหตุอาละวาดมาแล้วหลายครั้ง ครั้งนี้ไม่เชื่อเลยว่าจะเกิดขึ้นเลย
Advertisement