จากกรณีวันที่ 7 พ.ย. 65 น.ส.น้อย (นามสมมติ) อายุ 40 ปี ร้องเรียนถูก นายยุทธพร หรือ นายเติ้ล อายุ 25 ปี อดีตแฟนหนุ่มเป็นพระเอกลิเกคณะหนึ่ง บุกเข้ามาในห้องพัก ย่าน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี
ก่อนจะอาละวาดทำลายข้าวของในห้องพัก พร้อมกับขโมยเงินในกระเป๋าสตางค์ผู้เสียหายจำนวนหนึ่งไป โดยได้นำคลิปหลักฐานจากกล้องวงจรปิดเข้าแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งคลิปวงจรปิดปรากฏภาพนายเติ้ลทะเลาะกับ น.ส.น้อย อยู่บริเวณบันไดของห้องพัก
วันที่ 8 พ.ย. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีได้เดินทางมาที่ สภ.บางใหญ่ โดยในเวลา 12.30 น. น.ส.น้อย (นามสมมติ) อายุ 40 ปี ผู้เสียหาย ได้เดินทางมาที่โรงพักเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม ได้เปิดใจกับทีมข่าวว่า เมื่อ 2 ปีก่อนตนเองได้รู้จักกับนายเติ้ล พระเอกลิเก ผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยได้มีการพูดคุยกันผ่านทางเเชตเฟซบุ๊ก หลังจากนั้น นายเติ้ล ก็เริ่มขอเงินจากตนเองไปใช้จ่ายหลายครั้ง ไม่ยอมทำงานทำการชอบขอเงิน อ้างว่าเเม่เข้าโรงพยาบาลขอเงินครั้งละ 1,00-2,000 บาท จ่ายค่าเเชร์ เติมน้ำมัน กินข้าว จนตนเอะใจว่า เป็นพระเอกลิเกก็จะต้องมีเเม่ยกเเต่ทำไมนายเติ้ลถึงไม่มี นายเติ้ลก็บอกว่า ตนเองก็มีเเม่ยกเเต่ให้พวงมาลัยเเค่หน้าเวทีหรือได้เเค่พวงมาลัยออนไลน์เท่านั้น ตนมองว่าพฤติกรรมนี้เหมือนผู้ชายมาเกาะผู้หญิงกินจนคนรอบข้างบอกให้เลิกยุ่งได้เเล้ว
ต่อมาเจอพิษโควิด-19 นายเติ้ล ก็ไม่มีงานทำเเละมากินนอนที่ห้องพักของตน ไม่มีงานทำอย่างอื่นเป็นอาชีพเสริม หรือบางทีทำงานช่วยคณะลิเก เคยทักมาขอให้ตนช่วยเพราะไม่ได้พวงมาลัยอายคนอื่น 2 ปีที่ผ่านมา ตนหมดเงินกับผู้ชายคนนี้ไปเกือบหนึ่งเเสนบาทเเล้วไม่ได้คืนเลยเเม้เเต่บาทเดียว ทั้งเงินที่นายเติ้ลยืมเเละเงินที่ขอไป นอกจากนี้ในช่วงที่อยู่ด้วยกัน นายเติ้ลยังมีพฤติกรรมเสพยาเสพติดเเละเสพกัญชา อีกทั้งยังชอบหาเรื่องทะเลาะกับตน เช่น หากตนขอเลิกก็จะลงมือทำร้ายร่างกายตนจนลำตัวเขียวช้ำ ปากเเตก พาคนมาหาตนคล้ายข่มขู่มาเคาะห้องตอนดึก ๆ ระรานในเฟซบุ๊กให้ปลดบล็อกไลน์ อีกทั้งยังเคยพูดจาข่มขู่ว่า “ถ้ากูจับได้นะ ถ้ามึงมีใหม่นะ กูจะยิงทิ้ง ทั้งผู้หญิง ผู้ชายเลย” ซึ่งตนถูกข่มขู่แบบนี้บ่อยครั้ง เเต่ยังไม่เคยเห็นว่านายเติ้ลมีอาวุธปืน ทราบเเค่ว่ามีอะไรบางอย่างที่มีผ้าพันไว้อยู่ใต้เบาะรถยนต์ของเขา เเต่ตนไม่เคยเห็นกระบอกปืนจริง ๆ
สาเหตุเหล่านี้ จึงทำให้ตนตัดสินใจบอกเลิกนายเติ้ลหลายครั้ง ซึ่งครั้งเเรกคือช่วงสิ้นปี 64 โดยตนให้เหตุผลกับนายเติ้ลว่า “ไม่ไหวเเล้ว ตนเองก็มีภาระเยอะ ถ้าจะขอเงินเยอะขนาดนี้” นายเติ้ลก็มีพฤติกรรมระราน ชอบมาหาตนที่ห้องพักกลางดึกประมาณ 02.00-03.00 น. ประจำเเละมาเอะอะโวยวายทุบหน้าห้อง จนตนต้องยอมเปิดประตูให้เข้ามาเพราะเกรงใจเพื่อนข้างห้องเเละเจ้าของหอพัก อีกทั้งยังเคยโทรให้เพื่อนเอายาเสพติดมาให้ที่ห้องพักอีกด้วย
ต่อมาเมื่อประมาณ 4 เดือนที่เเล้ว มีผู้หญิงคนหนึ่งทักมาหาตนโดยบอกว่าเป็นเมียของนายเติ้ล คบหากันมานานกว่า 5 ปีเเล้ว ตนจึงได้ไปสอบถามนายเติ้ล ก็อ้างเเค่ว่าเป็นเเม่ยกไม่ใช่เมียโดยฝ่ายหญิงมีการโทรมาคุยกับตนบอกให้เลิกยุ่งกับผู้ชาย ตนจึงสวนกลับไปว่า ฝ่ายชายต่างหากที่ไม่ยอมเลิกยุ่งกับตน ต่อมาประมาณวันที่ 24 ต.ค. 65 ตนเองต้องไปผ่าตัดมดลูก เเละกลับมาพักฟื้นที่ห้องพัก จนกระทั่งคืนวันที่ 2 พ.ย.65 นายเติ้ลก็มีการติดต่อตนมาอีกเเละพยายามจะมาที่ห้อง เพื่อขอให้ตนทำอาหารให้ทาน เเต่ตนก็บอกให้เลิกยุ่งกับตน นายเติ้ลก็ตอบโอเคต่างคนต่างอยู่
ต่อมาช่วงเวลาประมาณ 13.00 น. ของวันที่ 3 พ.ย.65 นายเติ้ลพร้อมเพื่อน ได้เข้ามาหาตนที่หน้าห้อง โดนตอนนั้นตนเองกำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อซื้อนมให้หลานพอดี นายเติ้ลก็พังประตูเข้ามา เพราะอ้างว่าได้ยินตนคุยโทรศัพท์กับผู้ชายคนอื่น เเละขอเงินตน อีกทั้งยังจะมีการลงไม้ลงมือด้วย ตนจึงเข้าไปหลบในห้องน้ำเเละล็อกประตู นายเติ้ลก็พยายามที่จะพังประตูเข้าไปตนประตูมีรอยร้าว หลังจากนั้นตนก็ได้ยินเสียงนายเติ้ลรูดซิปกระเป๋าจนมั่นใจว่านายเติ้ลน่าจะมีการขโมยเงินอีกเพราะนายเติ้ลขโมยเงินบ่อย จึงได้รีบออกมาเเละเข้าไปยื้อยุดกระเป๋าคืน ตอนนั้นตนเองก็เจ็บแผลผ่าตัดด้วยเเละเหตุการณ์ก็เป็นไปตามคลิปวงจรปิดของหอพัก
ตนไม่มั้นใจว่านายเติ้ลได้เงินไปจำนวนเท่าไหร่ เเต่ตนวิ่งออกมาเพราะกลัวว่าจะเอากระเป๋าเงินซึ่งมีบัตรประชาชนไป ส่วนเพื่อนผู้ชายที่มากับนายเติ้ลก็ได้เข้ามาช่วยห้าม เรื่องที่ตนมีผู้ชายคนอื่นจริงหรือไม่นั้นตนก็ยอมรับว่าก็มีคุย ๆ กับผู้ชายคนอื่นในเฟซบุ๊กที่เขาทักมาจริง ซึ่งเรื่องนี้ตนก็ไม่ได้ปิดบังนายเติ้ลเลย ส่วนนายเติ้ลก็มีคุยกับคนอื่นตนก็ไม่เคยห้าม
หลังจากเกิดเหตุตนพยายามโทรติดต่อขอให้นายเติ้ลเอาของมาคืน เขาก็ไม่ยอมมาตนจึงไปเเจ้งความในเรื่องของลักทรัพย์ เเละบุกรุก ส่วนเรื่องทำร้ายร่างกายไม่ได้เเจ้งเพราะไม่มีร่องรอยบาดแผลอะไร ต่อมานายเติ้ลก็ได้เอาตั๋วจำนำมาคืนตน โดยวางไว้ที่ด้านหน้าห้องไม่ได้เคาะเรียกเหมือนทุกครั้ง นอกจากนี้ยังโทรกลับมาท้าตนอีกว่า “ออกหมายมาเลย รออยู่” ซึ่งหลังจากข่าวออกไปเมื่อคืนนี้นายเติ้ลก็โทรกลับมาอีกว่า “ทำไมจะต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ ทำไมต้องทำให้วุ่นวาย ทำไมต้องไปบอกคนอื่น” ซึ่งสาเหตุที่ตนต้องมาเเจ้งความ เพราะอยากให้นายเติ้ลเลิกยุ่งกับตนเสียที
ทีมข่าวอมรินทร์ได้มีโอกาสไปที่เวทีลิเกของคณะ “ตุ๊กติ๊ก เถิดเทิง” ที่ “ไตเติ้ล” จะขึ้นโชว์ในคืนวันลอยกระทง ณ วัดบัวขวัญ จ.นนทบุรี ปรากฎว่าพบแต่ “ครูติ๊ก” หัวหน้าคณะ “ตุ๊กติ๊ก เถิดเทิง” ทีมข่าวถึงขอพูดคุยในเรื่องนี้กับ “ครูติ๊ก” โดยเจ้าตัวกล่าวว่า วันนี้ “ไตเติ้ล” ต้องขึ้นเล่นที่คณะลิเกของตน แต่เมื่อเช้าเขาได้ติดต่อมาแจ้งว่ามีปัญหานิดหน่อยจึงไม่สามารถมาแสดงได้ แต่พอตนถามกลับว่ามีเรื่องอะไรเขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ ส่วนปัญหาของเขาตนมารู้ข่าวตอนช่วงบ่าย ๆ และล่าสุดที่ตนเจอเขาคือวันที่ 6 พ.ย. 65 ที่วัดโบสถ์เพชรเกษม 28 กรุงเทพ
สำหรับเหตุผลที่ตนชวนเขามาร่วมเล่นในคณะก็เพราะว่าโดยปกติเขาเป็นคนนิสัยดี ไม่เคยไปวุ่นวายกับใคร ใครให้แสดงอะไรเขาก็แสดงได้ ตนก็งงและตกใจที่มีข่าวแบบนี้ ตนเป็นครูสอนลิเกเขาเคยมาเรียนลิเกกับตนตั้งแต่เขาอายุ 12 ขวบ จนป่านนี้เขาอายุ 20 กว่าปีแล้ว ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรเลยตนรู้จักเขามาเป็น 10 ปีแล้ว ตนจึงได้จ้างงานเขางานนี้เป็นงานแรกก็ดันมีปัญหาเลย
ถามต่อว่ารู้ไหมว่าเขามีเรื่องคบซ้อน ทำร้ายผู้หญิง บุกบ้านรื้อข้าวของ เสพยา? ตนไม่ทราบเลยเพราะก่อนหน้าเขาก็ไม่เคยเล่าปัญหาอะไรให้ตนฟัง ฉะนั้นเรื่องส่วนตัวของเขาตนไม่ทราบจริง ๆ และเรื่องเมียที่เขามี แม่ยกต่าง ๆ ตนก็ไม่รู้จัก ไม่เคยรู้เลยว่าเขามีหรือไม่มียอมรับว่าเขาไม่มาวันนี้คณะได้รับผลกระทบเพราะลิเกก็หานักแสดงได้ยาก และตนก็วางการแสดงแต่ละตัวไว้แล้วจึงต้องปรับเนื้อเรื่องใหม่ แต่ก็ไม่ถึงขั้นจะเอาเรื่องตนเข้าใจจะทำยังไงได้ในเมื่อเขามีปัญหาไม่สามารถมาได้ โลกส่วนตัวปัญหาส่วนตัวของศิลปินตนไม่ก้าวก่าย แต่ค่าตัวการแสดงตนก็ต้องยกเลิกให้เงิน โดยปกติตนจ้างนักแสดงลิเกเป็นรายวัน ค่าตัว 1 พันบาท ค่าน้ำมัน 1 พันบาทรวม 2 พันบาท
ตนมองว่าถ้ามันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขาไม่เกี่ยวกับตน และหากเขาไปเคลียร์กันได้ไม่มีปัญหามาถึงคณะลิเกของตน ตนก็โอเคทุกอย่าง เพราะเรื่องส่วนตัวตนไม่วุ่ยวายกับใครอยู่แล้ว ถามว่าเขาได้บอกไหมว่าจะกลับมาเล่นด้วยอีกครั้งตอนไหน? ป่านนี้ตนยังติดต่อไม่ได้เลย และไม่รู้ว่าเขาอยู่ไหน ที่ตนรู้ข่าวเพราะแม่ของเขาโทรมาตอนเช้า ซึ่งมาแจ้งว่าเขามีปัญหา
นายเติ้ล พระเอกลิเก ชี้แจ้งว่า ในวันเกิดเหตุโทรศัพท์ของตนแบตหมด จึงได้ซ้อนท้ายรถจยย.ของเพื่อนไปหาอดีตแฟนสาวที่ห้อง เมื่อยืนที่หน้าประตูห้องได้ยินเสียงพูดคุยโทรนัดหมายกับชายคนอื่นอยู่พอดีจึงเคาะห้องให้เปิด แล้วเข้าไปในห้องพร้อมกับถามว่าเมื่อกี้คุยกับใคร จากนั้นจึงเกิดการโต้เถียงกันขึ้น เพราะเขาตอบกลับมาว่าจะคุยกับใครก็ได้แล้วจะทำไม
ด้วยความโมโหกลัวว่าจะคุมอารมณ์ไม่อยู่ จึงคว้ากระเป๋าของอดีตแฟนสาวออกมาจากห้องแล้วเดินออกมา จึงทำให้ฝ่ายหญิงวิ่งตามมาทวงคืน ตนก็โยนกระเป๋าคืนให้ ส่วนสาเหตุที่ทำให้มีปัญหากันเพราะตนจับได้ว่าเขามีความสัมพันธ์กับชายอื่น ทำให้เริ่มมีปากเสียงกันเรื่อยมา เรื่องแม่ยกที่เขาอ้างว่าเป็นภรรยาของตนนั้น ขอชี้แจงว่าแม่ยกคนดังกล่าวไม่ใช่ภรรยาของตน แต่เป็นผู้มีบุญคุณที่สนับสนุนจุนเจือคณะลิเก ซึ่งก็เป็นไปตามธรรมชาติของนักแสดงลิเกทุกคนอยู่แล้วที่จะมีแม่ยกมาสนับสนุนส่งเสริม ส่วนประเด็นเรื่องยาเสพติดนั้นตนยอมรับว่าในอดีตเคยเสพยาบ้ามาก่อนแต่ปัจจุบันไม่ได้เสพแล้ว จะมีเพียงสูบกัญชาเป็นบางครั้ง เรื่องที่เกิดขึ้นจึงไม่อยากให้ฟังความข้างเดียว
Advertisement