หนังคนละม้วน แก๊งเหี้ยมอุ้มซ้อมโจ๋ 16 จับแก้ผ้าไฟจี้หน้า ที่แท้ท้าเปิดศึกก่อน เซ่นแค้นปลอม FB รูปหน้าศพ (คลิป)

จากกรณีที่ทางพ่อและแม่ของ นายเน็ก (นามสมมติ) อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งย่านคูคต เดินทางเข้าขอความช่วยเหลือกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังลูกชายถูกรุ่นพี่ต่างกลุ่มใช้มีดและปืน จี้บังคับไปให้เพื่อนกว่า 13 คนรุมซ้อม ด้วยการใช้เข็มขัดรัดคอและบุหรี่จี้หน้าจนสลบ ยังไม่หนำใจใช้น้ำสาดให้ฟื้น

แล้วรุมทำร้ายซ้ำเป็นรอบที่ 2 จนเหยื่อต้องแกล้งตายถึงรอดมาได้ หลังแจ้งความที่ สภ.คูคต ผ่านมา 3 วัน ยังจับใครไม่ได้ทั้ง ๆ ที่ให้ข้อมูลผู้ก่อเหตุไปแล้ว ทั้งนี้ กลุ่มคนร้ายมีการถ่ายคลิปวิดีโอทำร้ายร่างกายจนสภาพใบหน้าของผู้เสียหายจนเป็นแผลทั่วตัว จมูกหัก ใบหน้าบวมผิดรูป หลังจากที่น้องโดนปล่อยตัวมาก็ยังมีการข่มขู่เพื่อไม่ให้เรื่องดังกล่าวนั้นถึงตำรวจ สุดท้ายคนเป็นแม่ทนไม่ไหวจึงได้ประสานทางเพจสายไหมช่วยเหลือ โดยเหตุการณ์ทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 1 พ.ย. 65

วันที่ 4 พ.ย. 65 ผู้เสียหายพร้อมเจ้าหน้าที่ของเพจสายไหมเดินทางไปยัง สภ.คูคต เพื่อเข้าพบ พ.ต.อ.มนัสเวท ทองอิ่ม ผกก.สภ.คูคต จ.ปทุมธานี และพาผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ โดยก่อนที่จะเดินทางไป สภ.คูคต ทางเจ้าหน้าที่ของเพจสายไหม ได้พาน้องเน็ก ผู้เสียหายเดินทางไปชี้จุดเกิดเหตุ บริเวณโค้งสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์ อ.คูคต จ.ปทุมธานี ซึ่งบ้านญาติของผู้ก่อเหตุ ลักษณะเป็นเพิงพักสังกะสีอยู่ติดกันประมาณ 3-4 หลัง

จุดที่นายการ์ด หรือ เน็ก พาทีมข่าวเข้าไปคือจุดบริเวณหน้าบ้าน และจุดที่ 2 จะเป็นจุดบริเวณเล้าไก่ติดกับริมคลองวัดลาดสนุ่น ซึ่งเป็นจุดที่ทางน้องการ์ด หรือ เน็ก ระบุว่าโดนรุมซ้อมทำร้ายในจุดดังกล่าว ส่วนของเล้าไก่ที่มีทุบทำร้าย ห่างจากตัวบ้านประมาณ 10 เมตร โดยจะเป็นโซนที่ติดริมน้ำ

น้องเน็ก ผู้เสียหาย เปิดใจสั้น ๆ ว่า ตนเองก็ได้พยายามร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านในละแวก แต่ก็ไม่มีใครกลับมาช่วย ตลอดจนได้มีการร้องขอชีวิตจากกลุ่มคนที่ทำร้าย แต่ก็ไม่เป็นผลจนกระทั่งตนเองต้องแกล้งสลบไป แต่ก็โดนจับราดน้ำอีก สุดท้ายไม่ไหวจึงได้แกล้งตาย

ทั้งนี้ ในส่วนของบ้านที่เกิดเหตุนั้นวันที่เกิดเรื่องมีทั้งเด็กวัยรุ่นที่เป็นรุ่นพี่ของตนและตนรู้จักประมาณ 3-4 ราย มีทั้งในส่วนที่ไม่รู้จักอีก 5-6 ราย ตลอดจนยังมีในส่วนของผู้ใหญ่ที่อยู่ภายในบ้านอีก 2 ราย แต่ก็ไม่มีใครห้ามปราม ทุกคนต่างไม่ได้เข้ามาช่วยหรือสนใจแต่อย่างใด บ้านหลังดังกล่าวตนไม่เคยมา ย้ำว่าส่วนตัวไม่รู้จักบ้านหลังดังกล่าวด้วย

ทีมข่าวเองได้สังเกตเห็นว่ามีบุคคลอยู่ภายในบ้าน สอบถามชายคนดังกล่าวอายุประมาณ 30 ปี ให้รายละเอียดว่า สำหรับบ้านหลังดังกล่าวนั้นตนเองไม่ใช่เจ้าของบ้าน ยืนยันว่าตนเองเป็นน้าของหนึ่งในคนก่อเหตุที่อยู่ในกลุ่มดังกล่าว ซึ่งคนที่ก่อเหตุนั้นคือมีศักดิ์เป็นหลานของตน และอยู่บ้านหลังนี้

ส่วนช่วงที่เกิดเหตุยอมรับว่าตนเองไม่เห็นเหตุการณ์ ไม่ได้อยู่ที่บ้านในข่วงนั้น ที่ผ่านมาทางหลานก็มีการนัดเพื่อนหรือกลุ่มแก๊งของเขามาประมาณ 8-10 คน มานั่งปาร์ตี้สังสรรค์กันทั่วไป ส่วนรายละเอียดเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นทางตนเองไม่ทราบ เป็นเรื่องของเด็กวัยรุ่น

นายเน็ก (นามสมมติ) อายุ 16 ปี เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่นี้เกิด เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 65 ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. ขณะตนกำลังเดินทางกลับบ้านหลังจากที่ลิกเรียนนั้น ก็มีกลุ่มวัยรุ่น 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ถามหารุ่นพี่ที่ตนรู้จักว่าตอนนี้เขาไปอยู่ที่ไหน ตนก็ตอบว่าไม่รู้ เนื่องจากไม่ได้ติดต่อกันนานแล้ว จากนั้นคนร้ายได้มีการอาวุธปืนจี้ตน พร้อมอุ้มซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์จากบริเวณหน้าโรงเรียนไปยังที่บ้านพักหลังหนึ่งใน อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี

เมื่อตนไปถึงบ้านหลังดังกล่าวตนเห็นกลุ่มคนร้ายประมาณ 10 คน ยืนรออยู่ภายในบ้าน จากนั้นตนก็ถูกกลุ่มคนร้ายรุมทำร้ายร่างกายอย่างหนัก ทั้งเตะ ต่อย หากตนไม่ยอมบอกว่ารุ่นพี่อยู่ไหน แต่ตอนนั้นตนไม่ทราบจริง ๆ ว่ารุ่นพี่คนดังกล่าวอยู่ไหน จึงไม่สามารถตอบคำถามกลุ่มคนร้ายได้ ผ่านไปประมาณครึ่งชม. กลุ่มคนร้ายยังคงรุมทำร้ายร่างกายตนอยู่ ตนจึงตัดสินใจแกล้งสลบ แต่คนร้ายได้มีการนำน้ำมาราดที่ใบหน้าตน พร้อมกับได้ทำการถอดเสื้อผ้าชุดนักเรียนของตนออก และทำการรุมทำร้ายอีกครั้ง มีการถ่ายคลิปวิดีโอ ใช้บุหรี่จี้ตามร่างกาย ใบหน้าจนเป็นแผลทั่วตัว ประมาณ 2 ชั่วโมง มีการถูกอาวุธปืนจี้ศีรษะอยู่ตลอดเวลา

ก่อนที่คนร้ายจะมีการวิดีโอคอลไปหารุ่นพี่พร้อมพูดจาเยาะเย้ยว่าประมาณว่าหากรุ่นพี่คนดังกล่าวไม่ออกมาพบกับกลุ่มคนร้าย "น้องมึงโดนหนักกว่านี้แน่" ด้วยความตกใจรุ่นพี่คนดังกล่าวจึงรีบโทรศัพท์ไปแจ้งพ่อกับแม่ตน พร้อมบอกพิกัดบ้านหลังดังกล่าว ให้รีบเข้าไปช่วยเหลือ ทำให้ตนสามารถรอดชีวิตกลับออกมาได้ หลังจากเกิดเรื่องตนได้เดินทางไปแจ้งความกับ สภ.คูคตแล้ว แต่ก็ยังไม่คืบหน้า จนตัดสินใจร้องเรียนไปยังเพจสายไหม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็ไม่ทราบสาเหตุเช่นกันว่ากลุ่มคนร้ายทำไมต้องมาทำร้ายตน ทั้งที่ตนไม่เคยมีปัญหาอะไรกับใคร คาดว่าปมเหตุที่แท้จริงนั้นเขาต้องการตัวของรุ่นพี่ที่ตนรู้จัก ซึ่งตนก็รู้สึกงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับตนเลย เหตุใดตนต้องมาโดนกระทำเช่นนี้ หากถามตนว่ารู้จักกับกลุ่มคนร้ายหรือไม่ ยอมรับว่ามีบางคนรู้จักกันอยู่บ้าง เพราะเป็นเพื่อนที่เคยเรียนด้วยกัน

อาการบาดเจ็บตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว ยังมีอาการมึนที่บริเวณศีรษะอยู่บ้างเล็กน้อย หลังเกิดเหตุตนยอมรับว่ายังไม่มีโอกาสพูดคุยกับรุ่นพี่คนดังกล่าวว่าก่อนหน้านี้เคยมีปัญหาอะไรกับกลุ่มกลุ่มคนร้าย ทั้งนี้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อรู้สึกกังวล และกลัวในเรื่องของความปลอดภัยจนไม่กล้าออกไปเรียนแล้ว

นางมนธา (นามสมมติ) เจ้าของบ้านเกิดเหตุ แม่ของนายแบงค์ พี่ใหญ่ของกลุ่มก่อเหตุ ยืนยันว่าวันที่เกิดเหตุ ตนเองไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เพราะออกไปซื้อของตั้งแต่ช่วงบ่าย กลับเข้าบ้านมาอีกครั้งในช่วงเวลา 6 โมงเย็น รุ่นน้องเขาได้มาบอกลูกชายภายหลังว่าพาเด็กผู้เสียหายมาที่บ้านจริง และมีเรื่องทะเลาะกันหลังบ้าน ตนทราบเรื่องยอมรับว่าได้ตักเตือนทางลูกชายว่า "ทำไมถึงเกิดเรื่องดังกล่าว ทั้งที่ตนเองไม่ได้รู้เรื่อง"

แต่สถานที่เกิดเหตุกลับเป็นบ้านของตน ส่งผลให้ตนเดือดร้อน ยืนยันว่าช่วงที่เกิดเหตุทางลูกชายของตนไม่เกี่ยวข้อง เขาเองก็ตักเตือนทางคนกระทำไปแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้ทำ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ต้องถูกตำรวจจับไป เพราะสถานที่เกิดเหตุเป็นบ้านของตัวเอง ยอมรับว่าเครียดมาก เพราะไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ ส่วนนิสัยใจคอของลูกเป็นคนใจร้อน นักเลงจริง แต่ถ้าไม่มีใครมาหาเรื่องก่อน ลูกชายก็ไม่ไปหาเรื่องเขาแน่นอน และปกติลูกชายก็ไม่ค่อยออกไปไหน วัน ๆ ก็เลี้ยงไก่อยู่ที่บ้าน ย้ำว่าตนเองจะเอาลูกไปโรงพักเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ตลอดจนจะมีการประสานกับทางคนก่อเหตุที่เอาเด็กผู้เสียหายมาซ้อม แต่ก็มีบางคนที่หลบหนี

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทราบว่าทางคนก่อเหตุนั้นบังเอิญไปเจอกับทางคนเจ็บ แล้วมีการชวนมาที่บ้านและมีเหตุดังกล่าวขึ้น ย้ำว่าอีกฝ่ายเองก็เคยมาระรานราวีฝั่งของคนก่อเหตุเหมือนกัน เป็นเรื่องของ 2 ฝ่าย ระหว่างกลุ่ม "ต้นตาล" ฝั่งคนเจ็บกับฝั่งของลูกชายตน

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบได้มีการเข้ามารวบตัว นายแบงค์, น้าของนายแบงค์ และนายเน็ท ที่บริเวณบ้านของนายแบงค์ หลังสืบทราบว่าทางทั้งหมดได้ซ่อนตัวอยู่ภายในบ้าน ภายหลังมีการคุมตัวขึ้นรถยนต์ของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งหมดได้มีการนำตัวมาที่ สภ.คูคต เพื่อทำการสอบสวน หลังจากนั้นบรรยากาศที่ สน.คูคต ชุดสืบได้มีการนำตัวฝั่งผู้ก่อเหตุมายังโรงพัก โดยเป็นการทยอยเดินทางมาทีละ 3-4 คน ประกอบไปด้วย แบงค์, น้าแหลม น้าของแบงค์, เน็ท, เกด, ออย, หนึ่ง, โบ๊ท ส่วนรายอื่นนั้นยังไม่ทราบชื่อ โดยบุคคลเหล่านี้ เป็นเพียงผู้ต้องสงสัย

นางสาวฟ้า (นามสมมติ) และนายรุ่ง (นามสมมติ ) เพื่อนแก๊งของแบงค์ ฝั่งก่อเหตุ ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เป็นเรื่องของการอุ้ม หรือบังคับให้ทางผู้บาดเจ็บเดินทางมาที่บ้าน แต่เป็นความสมัครใจของทางผู้บาดเจ็บที่เดินทางมาพร้อมเพื่อนของเขาที่อยู่ในก๊วนของฝั่งแบงค์ เป็นการเดินทางมานั่งพูดคุยและดื่มกัน ประเด็นที่บอกว่ามีการบังคับให้สูบกัญชา ให้กินน้ำกระท่อม เขาเป็นคนกระทำเองไม่ได้โดนบังคับ เพราะปกติเขาเองก็ทำอยู่แล้ว

ส่วนประเด็นที่โดนทำร้าย ยอมรับว่าหลังจากที่ทางผู้บาดเจ็บนั่งอยู่สักพักหนึ่ง ผู้บาดเจ็บพูดจาไม่เข้าหูกับคนในแก๊ง หรืออาจจะมีเรื่องกระทบกระทั่งกันในวงสนทนา ตลอดทั้งมีคนทราบว่าผู้บาดเจ็บมีการพูดลักษณะข่มขู่ว่าจะเอาปืนมายิง เอาระเบิดมาปาบ้านของแบงค์ ทำให้คนในวงที่นั่งอยู่ไม่พอใจ ลากไปรุมทำร้าย

ยอมรับว่ามีการรุมทำร้ายจริง ประเด็นที่อีกฝ่ายอ้างว่าเอาน้ำมาราดให้ตื่นและปลุกมากระทืบต่อ ส่วนนี้ยืนยันว่าไม่จริง เด็กในกลุ่มบางคนช่วยเหลือเอาน้ำมาล้างหน้าและปลุกให้เขาตื่นเพื่อจะพากลับบ้าน ตลอดจนช่วงที่มีการพากลับบ้าน ทางกลุ่มผู้ก่อเหตุก็มีการประสานกับทางผู้ปกครองของน้องให้มารับ ช่วงที่ผู้ปกครองเข้ามารับก็ไม่ได้เห็นมีปัญหา รวมไปถึงทางน้องผู้บาดเจ็บเองก็ไม่ได้เอาเรื่องของฝั่งคนทำร้ายแต่อย่างใด สุดท้ายพอกลับไปเขาอ้างและพูดอีกแบบ คล้ายเหมือนมีคนยุหรือมีคนบอกให้เขาไปร้องเรียน

ปัญหาเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของกลุ่มวัยรุ่น 2 กลุ่มในพื้นที่ที่เขม่นกันมานานแล้ว เคยมีการเคลียร์และมีการนัดพูดคุยต่อหน้าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว สุดท้ายพอมาเจอหน้ากันข้างนอก ต่างฝ่ายต่างก็ไม่จบ ยังคงมีการเสียดสีชู นิ้วกลางด่าทอ รวมไปถึงมีการบุกเอาปืนมาข่มขู่ที่ร้านขายน้ำของพวกตน ทั้งที่เราเองพยายามอธิบายแต่อีกฝ่ายไม่ฟัง ยอมรับว่าฝั่งผู้เสียหายพูดเรื่องความจริงไม่หมด พูดแค่บางส่วนเหมือนเตรียมการมาโจมตี เรื่องทำร้ายยอมรับผิด แต่เรื่องปืน ข่มขู่ ไม่มีแน่นอน

มีหลักฐานแชตฝั่งกลุ่มผู้ก่อเหตุสร้างเฟซบุ๊กปลอมทักหาทางแบงค์ พร้อมกับมีการนำรูปของแบงค์ไปทำเป็นโพรไฟล์ ลักษณะเหมือนรูปหน้าศพ มีการใช้คำหยาบคาย แบ่งเป็นแชตก่อนเกิดเหตุสิ้นเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา จะเป็นทักทาท้าทายว่าอยู่ไหน ให้ออกมา ลักษณะคล้ายชวนท้าตีและยั่วยุ ขณะที่ทางแบงค์ก็มีการตอบโต้แบบเงียบ

หลังจากนั้นประมาณวันที่ 2 พ.ย. 65 หลังเกิดเรื่องทางเฟซบุ๊กดังกล่าวได้มีการทักมาประมาณว่าจะกลับมาแก้แค้นหรือถล่ม ก่อนจะมีการท้ายด้าแม่ของแบงค์ว่าเดี๋ยวจะไปยิงปืนที่หน้าบ้าน ต่าง ๆ นานา

กล้องวงจรปิด เมื่อวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ภายในคลิปนั้นจะเห็นลักษณะของกลุ่มวัยรุ่นชายกว่า 10 คน ได้เดินเข้ามาภายในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ก่อนนำปืนขึ้นมาข่มขู่กับคนที่อยู่ภายในร้านอาหาร ทราบว่าฝั่งคนก่อเหตุนั้นคือฝั่งของนายแบงค์ บุกไปหากลุ่มต้นตาล ฝั่งผู้เสียหาย มีการชักปืนมาข่มขู่ก่อนจะมีการเข้าไปทะเลาะกันภายในร้าน

สอบถามที่มา กลุ่มนายแบงค์ระบุว่าเป็นปืนปลอมที่เอาไป ไม่ได้เป็นของจริง ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการที่ทางกลุ่มนายแบงค์โดนข่มขู่มาก่อน เลยกลับไปแก้แค้นและหวังเคลียร์

นอกจากนี้ ยังมีคลิปที่อ้างว่าฝ่ายต้นตาล วิ่งไล่จะกระทืบกลุ่มฝั่งของนายแบงค์ก่อนหน้านี้ เป็นเหตุมาสู่ครั้งล่าสุดที่มีการทำร้ายร่างกายกัน

รวมไปถึงยังมีคลิปที่ทางฝั่งของผู้เสียหายได้โพสต์คลิปยิงปืนโชว์ทางไอจีสตอรี่ ทั้งนี้ ฝั่งแบงค์มีการแชร์คลิปเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นช่วงประมาณ 1 เดือนที่แล้ว เป็นคลิปที่ทางกลุ่มของฝั่งผู้เสียหายได้มีการไล่ทำร้ายร่างกายฝั่งรุ่นน้องของแบงค์ มีการมาท้าทายอีกฝั่งคลองหนึ่งตามที่ปรากฏในคลิป