นางสาวสุกัญดา บุตรสืบสาย อายุ 53 ปี ซึ่งเปิดร้านขายของชำอยู่ที่ ต.สำโรงใหม่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ละหานทราย ให้ตรวจสอบพฤติกรรมของชายหญิงจำนวน 8 คน ที่แสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่สรรพสามิต หลังเข้าไปตรวจค้นร้านขายของชำเพื่อหาสิ่งผิดกฎหมาย แต่กลับบุกเข้าไปตรวจค้นถึงในห้องนอน
วันที่ 14 ต.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังอำเภอละหานทราย จ.บุรีรัมย์ พูดคุยกับ นางสาวสุกัญดา บุตรสืบสาย เจ้าของร้าน เล่าว่า เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 65 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 13.45 น. ขณะที่ตัวเองเข้าห้องน้ำอยู่หลังบ้าน ส่วนสามีนอนอยู่ในบ้าน ส่วนหน้าบ้านไม่มีใครอยู่ มีรถยนต์ 4 ประตูขับมาจอดที่หน้าร้าน และมีชายหญิงรวมกัน 8 คน
จากนั้น กลุ่มคนดังกล่าว ได้เข้ามาที่ร้านตัวเอง ตัวเองออกจากห้องน้ำมา เจอบุคคลกลุ่มดังกล่าว จึงสอบถามเขาว่ามาทำอะไร เขาก็บอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของกรมสรรพสามิต แต่เขาก็ไม่ได้แสดงบัตรตรวจค้น หรือหลักฐานในการขอตรวจค้นแต่อย่างใด
กลุ่มดังกล่าวถามตัวเองว่ามีเหล้าเถื่อน บุหรี่เถื่อนไหม เอาออกมาให้หมด ตัวเองก็บอกว่าไม่มี แล้วเขาก็แบ่งคนไปค้นในบ้าน ในห้องนอน และค้นที่ร้านค้า กระทั่งเจอบุหรี่หนีภาษีที่ตู้ของตัวเองจำนวน 6 ซอง บุหรี่ดังกล่าวเป็นบุหรี่ที่ตัวเองได้มาจากชายแดนเพื่อนบ้าน ตัวเองซื้อมาให้สามีสูบเท่านั้น ไม่ได้เอามาค้าขาย จึงได้บอกเจ้าหน้าที่ไป
จากนั้นกลุ่มคนดังกล่าว บอกกับตัวเองว่าบุหรี่ดังกล่าวเป็นบุหรี่ที่หนีภาษี มีความผิด เขาจะขอเก็บเงินค่าปรับกับตัวเอง 3,600 บาท ตัวเองก็บอกว่าไม่มีเงิน ถ้าอยากได้เงินต้องไปขึ้นศาล ทางกลุ่มคนดังกล่าวก็บอกว่าถ้าขึ้นศาลมันหลายขั้นตอน เขาจึงลดค่าปรับให้ตัวเองเหลือ 3,500 บาท ตัวเองก็บอกว่าตัวเองมีแค่ 2,000 บาท
หลังจากนั้น ทางกลุ่มคนดังกล่าว ก็เรียกให้ตัวเอง ไปจ่ายค่าปรับที่ที่ว่าการอำเภอละหานทราย ตัวเองก็เดินทางตามไป พอไปถึงเจ้าหน้าที่ก็ให้ตัวเองเซ็นเอกสารบางอย่าง โดยที่เขาเอามือปืดข้อความเอาไว้ ไม่ให้ตัวเองอ่านข้อความในกระดาษ กระทั่งตัวเองเซ็นลายมือไปแล้ว เขาถึงยื่นกระดาษแผ่นดังกล่าวให้ตัวเอง มีข้อความเขียนเอาไว้ว่า "นางสาวสุกัญดา บุตรสืบสาย มีไว้เพื่อขาย ซึ่งสินค้ามิได้เสียภาษี" พร้อมกับมียอดค่าปรับ 2,425.20 บาท ตัวเองก็ติดใจว่าบุหรี่ที่กลุ่มคนดังกล่าวตรวจค้นเจอ เป็นบุหรี่ที่สามีซื้อมาสูบ ไม่ได้เอามาใช้ในการค้า ทำไมทางเจ้าหน้าที่เขาถึงไปลงข้อมูลแบบนั้น
ตนยอมรับว่าเมื่อเดือน ก.พ. 64 ตัวเองเคยถูกสรรพสามิตมาบุกจับบุหรี่หนีภาษีที่ร้าน ต้องเสียเงินค่าปรับไปเกือบ 20,000 บาท แต่หลังจากนั้นตัวเองก็ไม่ได้นำบุหรี่หนีภาษีมาขายอีกเลย เพราะตัวเองเข็ดแล้วกับค่าปรับ ไม่คุ้มที่จะมาเสี่ยงขายของพวกนี้ ซึ่งบุหรี่ที่พบครั้งล่าสุดก็ยืนยันว่าสามีนำมาสูบเอง ไม่ได้เอามาขาย ตัวเองมองว่าการกระทำของกลุ่มคนชุดนี้เขาทำเกินกว่าเหตุ ที่มาค้นบ้านตัวเองโดยไม่มีหมายค้น ไม่แสดงบัตร และถือว่าเป็นการบุกรุกอีกด้วย
เบื้องต้น ตัวเองได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ แล้วทางพนักงานสอบสวนก็ได้เรียกฝั่งคู่กรณีมาเจรจากับตัวเอง ตัวเองก็ไม่แน่ใจว่ากลุ่มคนดังกล่าวใช่เจ้าหน้าที่สรรพสามิตจริงหรือไม่ แล้วถ้าเป็นเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตจริง ทำไมเขาไม่แสดงบัตรในการขอตรวจค้น
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายัง สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่บุรีรัมย์ สาขาประโคนชัย นายวิชญ์นุพงษ์ วิสัยศิกร หัวหน้ากรมสรรพสามิต สาขาประโคนชัย ให้ข้อมูลว่า ร้านชำดังกล่าวเคยมีประวัติถูกจับกรณีขายบุหรี่ปลอม เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 64 โดยครั้งนั้น เจ้าหน้าที่ ได้ของกลางเป็นบุหรี่ปลอม 37 ซอง และมีค่าปรับ 19,543.77 บาท
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ติดตามพฤติกรรมร้านดังกล่าวมาเรื่อย ๆ กระทั่งมีสายรายงานว่ามีพฤติกรรมแอบจำหน่ายบุหรี่หนีภาษี และบุหรี่ปลอม วางจำหน่ายในร้านอีก ทางสรรพสามิตซึ่งเป็นหน่วยงานที่ควบคุมดูแลโดยตรง ต้องเข้าไปตรวจสอบตามหน้าที่ ยืนยันว่าตอนเข้าไปตรวจสอบ เจ้าหน้าที่มีการแต่งกายเครื่องแบบชัดเจน และทำตามขั้นตอนทุกอย่าง กระทั่งพบบุหรี่ของกลาง 6 ซอง ซึ่งเป็นบุหรี่ปลอม เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึด และเชิญผู้ครอบครองมาจ่ายค่าปรับตามระเบียบ
ส่วนการค้นภายในบ้าน เจ้าของร้านเป็นคนนำตรวจเองด้วยการนำเปิดตู้เสื้อผ้า และตามลิ้นชัก เจ้าหน้าที่ไม่ได้ค้นเอง ยืนยันว่าไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ ซึ่งวันที่เกิดเหตุ ตัวเองก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย สำหรับบุหรี่ที่ตรวจยึดจากร้านค้าดังกล่าวเป็นบุหรี่ปลอม โดยจะมีวิธีสังเกตคือที่พบในร้านของหญิงรายดังกล่าว ตัวเลขจะซ้ำกันทั้งแผง ส่วนบุหรี่แท้ตัวเลขจะไม่ซ้ำกัน
Advertisement