จากกรณีโซเชียลฯ ได้แห่แชร์คลิปขณะที่โรงเรียนโนนสวาทหนองไพบูลย์ ที่อยู่ใกล้บริเวณศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู หลังจากได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนร้ายก่อเหตุกราดยิง ก็รีบอพยพเด็กนักเรียนไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยทันที
โดยในคลิปปรากฏภาพเด็ก ๆ รีบวิ่งขึ้นรถกระบะ 2 คัน ด้วยความรวดเร็ว ซึ่งเหตุการณ์เป็นไปด้วยความชุลมุน ซึ่งพอคลิปได้เผยแพร่ออกไปได้รับคำชื่นชมอย่างมาก
ล่าสุดวันที่ 8 ต.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางมายังโรงโม่หินต้อยติ่ง ได้พูดคุยกับ นายมนต์ชัย พิพัฒน์วิไลกูล เจ้าของโรงโม่หิน และเป็นผู้ที่ให้การช่วยเหลือนักเรียนบ้านโนนสวาทหนองไพบูลย์ ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวว่า วันเกิดเหตุตัวเองกำลังขับรถยนต์กลับบ้าน กระทั่งไปเห็นข่าวในเฟชบุ๊กว่าในพื้นที่มีเหตุกราดยิง 30 ศพ ณ ตอนนั้น
กระทั่งมีการโทรเช็คกับกำนัน ทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนในพื้นที่ ด้วยความเป็นห่วงเด็ก ๆ ที่โรงเรียนโนนสวาท เพราะเป็นโรงเรียนที่อยู่ด้านหลังบ้านผู้ก่อเหตุ ตัวเองจึงโทรไปหา ผอ.โรงเรียน ว่าต้องการความช่วยเหลือในด้านใดบ้าง ผอ.โรงเรียนก็ตอบว่าที่โรงเรียน ขาดผู้ชายที่คอยเฝ้าระวัง ส่วนเด็ก ๆ ก็หลบอยู่ในห้องเรียน
จากนั้นตัวเองพร้อมภรรยาและลูกน้อง จึงขับรถระบะโฟวิว 2 คัน ไปรับนักเรียนที่โรงเรียนดังกล่าว จำนวนคันละ 2 รอบ โดยใช้เส้นทางลัด เพราะถ้าใช้เส้นทางปกติอาจจะไปเจอผู้ก่อเหตุได้
พอรับนักเรียน 60 คน มาถึงบ้านตัวเอง ตัวเองก็ให้เขาอยู่ในบริเวณบ้าน จากนั้นก็เปิดเพลงให้เขาฟัง ให้เขาวิ่งเล่นในสวน เล่นที่น้ำตกจำลอง แล้วบอกกับเขาว่าให้คิดว่าเรามาทัศนศึกษานะลูก ซึ่งก็ทำให้เด็ก ๆ ผ่อนคลาย พากันวิ่งเล่นในสวนตัวเอง อยู่ประมาณ 1.30 ชั่วโมง จนได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองว่า สถานกาณร์คลี่คลายผู้ก่อเหตุยิงตัวตายแล้ว จึงไปส่งเด็ก ๆ ตามบ้านของพวกเขา
ที่ตนรับเด็กมาไว้ที่บ้าน เพราะว่ารอบบ้านของตนเป็นโรงโม่หินคนนอกเข้ามาไม่ได้ และถัดจากโรงโม่หินถึงจะเป็นพื้นที่บ้านของตน ที่มีรั้วบ้านค่อนข้างสูง มีการป้องกันของประตูบ้านที่ดี และในโรงโม่ก็มีคนงานผู้ชายอีกหลายคน ตัวเองถึงคิดว่าบ้านของตัวเองเป็นที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก ณ ขณะนั้น
ด้านนายธีรเมธ เสวะนา อายุ 26 ปี ครูโรงเรียนบ้านโนนสวาทหนองไพบูลย์ ครูที่อพยพเด็ก ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวว่า เมื่อวันที่เกิดเหตุ ตัวเองและคณะครูทราบข่าวจากกลุ่มไลน์ว่ามีเหตุกราดยิงที่ศูนย์พัฒนาเด็กอุทัยสวรรค์ ซึ่งอยู่ห่างจากโรงเรียนที่ตัวเองสอน 7 กิโลเมตรเท่านั้น
จากนั้นทางคณะครูที่โรงเรียน 10 คน จึงมีการแบ่งกลุ่มกันเป็น 4 กลุ่ม เพื่อให้นัดเรียนไปหลบในห้องเรียน 4 ห้อง ห้องละ 15 คน จากนั้นคณะครูก็บอกเด็ก ๆ ให้เงียบ แล้วพากันซ่อนอยู่ใน้โต๊ะ ซึ่งเด็ก ๆ ก็รับรู้ว่าที่ศูนย์เด็กเล็กอุทัยสวรรค์มีคนร้ายเข้าไปก่อเหตุ
เวลาผ่านไปประมาณ 40 นาที นายมนต์ชัย พิพฒน์วิไลกูล เจ้าของโรงโม่หินต้อยติ่ง ได้โทรศัพท์ประสานมาให้ความช่วยเหลือ โดยนำรถกระบะ 2 คัน มาขนนักเรียนในโรงเรัยนของตัวเองจำนวนคันละ 2 รอบ แล้วใช้เส้นทางลัดหลังป่าขับไปยังโรงโม่ แล้วก็ให้เด็กไปซ่อนตัวอยู่ในบ้านของนายมนต์ชัย เจ้าของโรงโม่ พร้อมบอกเด็ก ๆ ว่า เรามาถึงสภานที่ปลอดภัยแล้วทำตัวให้สบาย กระทั่งสถานการณ์คลี่คลายจึงมีการมาส่งเด็กกลับบ้าน
ที่ต้องให้เด็ก ๆ อพยพไปที่โรงโม่แทนการกลับบ้านนั้น เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของเด็ก เนื่องจากโรงเรียนของตัวเองอยู่ห่างจากบ้านผู้ก่อเหตุแค่ 3 กิโลเมตร และโรงเรียนก็อยู่ถนนเส้นหลังบ้านผู้ก่อเหตุอีกด้วย เพราะถ้าหากผู้ก่อเหตุไม่ขับเข้าบ้านของเขาไปยิงตัวตาย เขาสามารถที่จะขับเลยบ้านของเขามาที่โรงเรียนของตัวเองได้
สำหรับโรงโม่หินต้อยติ่ง ถือว่าเป็นสถานที่ปลอดภัย เพราะว่าบ้านของนายมนต์ชัย มีรั้วรอบขอบชิด มีรั้วที่สูง คนนอกไม่สามารถเข้าไปได้และยังเป็นสถานที่ที่คนในนั้นจะสามารถคุ้มครองเด็ก ๆ ได้ อย่างไรก็ตามตัวเองก็อยากให้กระทรวงศีกษาธิการ มีการบรรจุหลักสูตรและซักซ้อมการอพยพ การหลบหนีให้กับเด็ก ๆ เพื่อเขาจะได้ใช้ในการเอาตัวรอด เพราะความรู้ไม่เท่ากับประสบการณ์ชีวิต
Advertisement