พ่อฆ่าลูก 6 ขวบจับทุ่มดับต่อหน้าน้องเปิดนาทีสยองหิ้วศพทิ้งน้ำ แม่โต้ประชดรัก (คลิป)

จากกรณีเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรคลองขลุง จ.กำแพงเพชร รับแจ้งเหตุเด็กหาย ชุดสืบสวนสถานีตำรวจคลองขลุงได้สืบหาข่าวเรียก นายกรกช หรือ บอล อายุ 33 ปี พ่อ ด.ช.สุรสิทธิ์ หรือ นิค อายุ 6 ขวบ มาสอบสวน ให้การวกวนมีพิรุธ ก่อนจะรับสารภาพว่าได้ทำร้ายลูกจนเสียชีวิต แล้วนำศพไปทิ้งในแม่น้ำปิงตั้งแต่วันที่ 17 ก.ย. 65

ซึ่งตำรวจและกู้ภัยเข้าตรวจจุดที่ 1 บริเวณริมตลิ่งแม่น้ำปิง ม.2 ต.ท่ามะเขือ อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร แต่ไม่พบ ก่อนพ่อเด็กจะสารภาพว่านำไปทิ้งอีกจุด จึงนำกำลังเข้าค้นหาเชิงสะพานคลองขลุงเก่า ฝั่งท่ามะเขือ ม.2 ต.ท่ามะเขือ อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร

พบศพเด็กชายอยู่ในแม่น้ำปิง จึงได้ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำศพไปชันสูตรพลิกศพ หาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง ที่โรงพยาบาลคลองขลุง

จากสอบสวนพ่อของเด็กให้การว่าช่วงกลางดึกวันที่ 17 ก.ย. ที่ผ่านมา ดื่มสุรากลับมาบ้าน ก่อนทำร้ายร่างกายลูกจนเสียชีวิต จากนั้นในวันที่ 18 ก.ย. จึงนำศพไปทิ้งริมแม่น้ำปิงเพื่ออำพรางคดี อ้างว่าก่อเหตุไปเพราะลูกไปทำร้ายเด็กคนอื่นจนฟันหัก แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ

ล่าสุด 20 ก.ย. 65 หลังนำตัวพ่อเด็กไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพตั้งแต่ช่วงเช้า ทีมข่าวย้อนรอยไปที่จุดทิ้งศพ ริมตลิ่งแม่น้ำปิง ม.1 ต.วังยาง อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร พบว่าอยู่ติดกับท่าทรายแม่น้ำปิง ลับตาคน ไม่มีไฟส่องสว่าง สองข้างทางเป็นสวนอ้อย จากการสังเกตแม่น้ำกว้างมาก แต่พบศพเด็กเพราะจุดที่ทิ้งเป็นน้ำวน

ตรวจสอบกล้องวงจรปิดห่างจากกับจุดทิ้งศพมาประมาณ 1 กม. พบว่านายบอลอุ้มลูกนั่งซ้อนหน้า จยย. วิ่งบนถนนท่ามะเขือ-คลองขลุง มุ่งหน้าปากซอยท่าทราย ซึ่งเป็นซอยที่จะเข้าไปทิ้งศพ

ผ่านในจุดนี้ไปช่วงประมาณ 07.38 น. โดยนายบอลสวมเสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน ขี่รถ จยย. สีขาว-น้ำเงิน ลักษณะใช้ความเร็ว คาดว่าตัวเด็กอ่อนตัวลงมายังอานหน้ารถ และบริเวณด้านข้างพบลักษณะลำตัวหรือแขนของคนห้อยลงมาตรงที่พักเท้าหน้า

จากนั้นทีมข่าวเดินทางไปที่บ้านเช่า ม.2 ต.ท่ามะเขือ อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร พบว่าห้องเช่ามีทั้งหมด 5 ห้อง ที่เกิดเหตุห้องที่พ่อเด็กเช่าอยู่ห้องที่ 4 พบบริเวณหน้าห้องมีเสื้อผ้าเด็ก พร้อมของเซ่นไหว้ มีเศษธูปปักอยู่ คาดว่ามีการทำพิธีเซ่นไหว้ไปก่อนหน้านี้

นายอนันต์ ใจตา อายุ 68 ปี พี่ชายเจ้าของห้องเช่า เล่าว่า ตนไม่คิดเอะใจ ถ้าไม่มีหญิง 2 คนไม่มาถามตนว่าเห็นเด็กอีกคนไหม แต่ย้อนไปปกติมักเห็นเด็กชาย 3 คน วิ่งเล่นกันหน้าห้องเป็นประจำ แต่หลังวันที่ 16 ก.ย. 65 ไม่พบน้องนิคแล้ว กระทั่งวันที่ 18 ก.ย. เวลาประมาณบ่ายโมงกว่า พบหญิง 2 คนมาถามตนว่า "ลุงเห็นลูกหนูไหม หนูไปทำงานกลับมาไม่เจอลูก ปกติลูกจะวิ่งเล่นหน้าบ้าน"

ตนจึงบอกว่าตอนบ่าย 2 ฝนตก ยังเห็นวิ่งเล่นกันอยู่ ยังดุอยู่เลยว่า "หนูเข้าบ้านไป เดี๋ยวฟ้าผ่า" แต่ตนก็ไม่รู้ว่าอีกคนไปไหน จริง ๆ ต้องมี 3 คน ตนก็ไม่นึกสงสัยอะไร เพราะเด็ก ๆ ซนกันมาก ชอบวิ่งไล่กัน จนมาวันนี้ถึงรู้ว่าเด็กที่หายไปตายแล้ว สำหรับตนกับพ่อเด็ก ไม่ค่อยยุ่งสุงสิงกันเลย แทบไม่รู้จักกันเลย ตั้งแต่หลายเดือนก่อนเขามายืมไขควงหรือซากุไรไปซ่อมรถก็ไม่เคยคุยกันเพราะจากการสังเกตตัวเขามีนิสัยนักเลง

ทีมข่าวเดินทางไปยัง สภ.คลองขลุง พบ น.ส.เพียงใจ (นามสมมติ) 26 ปี แม่น้องนิค ผู้เสียชีวิต เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ตั้งแต่คบหากับนายบอลมา นายบอลดูแลลูกดีมาโดยตลอด โดยเริ่มคบกันปี 57 อยู่กินกันปี 58 กระทั่งมีลูกสาวคนแรกปี 59 ก็ยังรักกันเป็นปี แต่พอมามีน้องนิค ตอนปี 60 นายบอลตกงาน ก็เริ่มมากินเหล้าขาวและนิสัยเปลี่ยนไป พอเหล้าเข้าปากก็เปลี่ยนเป็นคนละคน ทั้งนิสัยใจร้อน ขี้โมโห อารมณ์ร้าย และตีลูก และมีลูกคนเล็กก็ไม่เบาลงเลย แต่ตนอยู่ตนก็จะปกป้องลูกตลอด นายบอลจึงไม่ได้ทำรุนแรง

กระทั่งวันที่ 7 ก.ย. 65 ทะเลาะกันเรื่องเล็กน้อยตนเลยหนีไปพักใจ ไม่ได้เลิกราหรือมีคนใหม่ อีกทั้งที่ทิ้งลูกไปเพราะคิดว่านายบอล ไปทำงานและจะพาลูกไปอยู่กับย่า เพราะปกติถ้าตน 2 คนไปทำงาน ก็จะเอาลูกไปฝากย่าอยู่แล้ว อีกทั้งตนก็กำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะกลับมารับลูก แต่สุดท้ายก็ไม่ทันแล้ว "ลูกเป็นผ้าขาว หากตนอยู่คงได้ปกป้องลูก ๆ คงไม่ตาย"

สำหรับตนได้คุยกับนายบอลแล้ว เขาสารภาพว่าตีลูกจริง แต่ไปเพราะสั่งสอนที่ลูกไปทำลูกเพื่อนฟันหัก ไม่ได้ตั้งใจทำ พลาดพลั้งมือ เขาสำนึกผิด และนึกถึงลูก เขาบอกว่าเขาออกมาจะดูแลลูก ๆ ส่วนตนไม่อาฆาตแค้น เพราะคงไม่ได้ลูกกลับมา พร้อมบอกเขาว่าให้นึกถึงลูกอีก 2 คน โดยเฉพาะลูกสาวติด และรักเขามาก ส่วนตนก็ต่างคนต่างอยู่

ด้านพนักงานสอบสวน ได้ทำการคุมขังนายบอล ที่ สภ.คลองขลุง อีก 1 คืน เบื้องต้นแจ้ง 1 ข้อหาหนัก ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย เร่งหาหลักฐานเพิ่ม และพาไปชี้จุด เตรียมแจ้งข้อหาอำพรางซ่อนเร้นศพ ก่อนนำตัวส่งศาลฝากขังในวันพรุ่งนี้ 21 ก.ย. 65

น.ส.กิตติยา อายุ 18 ปี เพื่อนร่วมงานแม่น้องนิค คนไปแจ้งความเด็กหาย เล่าว่า หลังแม่เด็กหนีไป ตนกับพี่แก้วหรือ น.ส.แก้วตา คุณวุฒิ อายุ 28 ปี แม่ของเด็กที่เล่นกับน้องนิคจนฟันหัก จะช่วยกันดูแลน้องนิคกับน้องไนท์ ลูกของนายบอลให้ ซึ่งก่อนเกิดเหตุวันนั้นตนอยู่ข้างนอก ส่วนพี่แก้วอยู่ห้องได้โทรมาบอกตนปกติว่าว่าพี่บอลกลับมาแล้ว เด็ก ๆ อยู่กับพี่บอลแล้ว ซึ่งทุกอย่างปกติดี

หลังจากนั้นเวลา 03.00 น. ของวันที่ 18 ก.ย. 65 ตนกลับไปห้องพี่แก้ว พบห้องพี่บอลปิดเงียบ พี่แก้วจึงบอกตนว่าตอนตี 2 ได้เสียงดังตุ๊บตับ และดังแอ๊ก ๆ ตนก็ตกใจว่าคืออะไร ตนจึงถามพี่แก้วว่าได้ไปดูไหม พี่บอกว่าไม่ได้ไปดูเพราะไม่เอะใจ ตนจึงไม่คิดอะไร

เช้าวันที่ 18 ก.ย. 65 พี่แก้วพบนายบอลได้ออกจากห้องไปทำงานปกติ เหมือนไม่รู้สึกรู้สา หรือมีพิรุธสงสัยอะไรเลย พี่แก้วจึงเข้าห้องนายบอลไปเอาเงิน ที่ปกตินายบอลจะทิ้งไว้ให้เด็ก 100 บาททุกวัน เพราะพวกตนช่วยเลี้ยงดูเด็กให้ แต่กลับเจอน้องไนท์คนเดียว อีกคนหายไป จึงถามน้องไนท์บอกว่า "พ่อพาพี่ไปโรงพยาบาล" ตนจึงถามต่อว่าพี่เป็นอะไร น้องก็บอกว่าพี่เจ็บ ใจตอนนั้นคิดว่าพี่บอลพาลูกไปหาหมอแล้วพาไปฝากย่าเลี้ยง ตนจึงไปสอบ แต่กลับไปช่วงเย็นก็ไม่เจอน้อง แถมในห้องเงียบผิดปกติ จากเดิมที่พี่บอลจะต้องเปิดเพลงเสียงดัง แต่ไม่มีเสียเพลงเลย จึงเอะใจขี่รถตามหา เพราะโทรหาพี่บอลก็ไม่มีการรับ พวกตนตามหาน้องจนไม่ได้นอน

กระทั่งเช้าวันที่ 19 ก.ย. 65 ช่วงสายช่วยกันรื้อหาเงิน 100 บาทอีกครั้ง เพราะคาดว่าคงเก็บเงินไว้ให้ลูกตรงไหนสักแห่ง แต่ก็พบคราบเลือดและสุดท้ายโทรหาพี่บอลให้แจ้งลูกหาย แต่ดูมีพิรุธ ตนเองจึงไปตัดสินใจไปแจ้งความตอน 12.00 น. ไว้ก่อน เพราะสิ่งที่เจอตนมองว่าเด็กไม่น่าจะหายไปแบบธรรมดา จากนั้นตำรวจไปตามพี่บอลถึงบ้านที่ ต.แม่ลาด บ้านย่าน้องนิค มาสอบปากคำช่วงประมาณ 17.00-18.00 น. ความจริงจึงปรากฏ

ตนไม่เชื่อว่าพี่บอลโกรธลูกเรื่องลูกทำลูกเพื่อนฟันหัก คิดว่าโกรธแฟนสาวมากกว่าที่หนีไป ตนก็บอกเองว่าจะช่วยเลี้ยง ลูกสาวอีกคนอยู่กับยาย ที่ผ่านมาก็ทะเลาะกันบ่อย เป็นคนใจร้อน หัวรุนแรง เจ้าตัวดูรักลูก เล่นกับลูก ดูรักลูก ไม่คิดว่าจะทำลูกได้ขนาดนี้ น้องเป็นคนดี น่ารักมาก ตนก็รักเด็กคนนี้มาก เพราะเป็นเพื่อนลูกตน

ด้านนางสาวแก้วตา คุณวุฒิ อายุ 28 ปี เพื่อนข้างห้อง แม่เด็กชาย 5 ขวบ เพื่อนของน้องนิค ผู้ตาย ยอมรับว่าเมื่อวันที่ 10 ก.ย. 65 หรือประมาณ 1 สัปดาห์ เด็ก ๆ เล่นกันปกติ โดยลูกตนใช้ปากกัดเชือก แต่น้องนิคได้มาดึงเชือก ทำให้เชือกกระตุกฟันน้ำนมลูกตนหัก ตอนนั้นไม่ได้พูดกับนายบอลโดยตรง แต่บ่นกับ น.ส.กิตติยา ว่าเล่นกันแรงฟันลูกหัก ซึ่งน้องก็บอกว่า "เดี๋ยวบอกพี่บอลให้ ให้เขามาทำโทษลูก" หลังน้องไปบอกนายบอลก็ทำโทษลูกไปแล้ว น้องนิคก็ไม่ร้องด้วย และก็ไม่น่าจะเอาเรื่องนี้มาเป็นสาเหตุในการตีลูกจนตาย

กระทั่งประมาณตี 2 ของวันที่ 18 ก.ย. 65 ตนอยู่ในห้องกับลูก 2 คน และเปิดเพลงฟัง ก็ได้เสียงนายบอลขี่รถกลับมาและตะโกนบ่นลูกว่า "ใครให้พวกมึงไปเล่นข้างนอก" ไม่มีเสียงเด็ก ๆ ตอบรับแต่อย่างใด สักพักก็ได้ยินเสียงนายบอกพูดว่า "ไม่ตอบ" ก่อนได้ยินเสียงดัง "อึก อึก" ตนก็รู้สึกแปลกใจว่านายบอลตีลูกอีกแล้ว

หลังจากนั้นพบนายบอลนั่งเงียบเครียด ไม่เปิดเพลง ไม่มีการพูดคุยกับใครเลย เช้าก็ไปทำงาน เย็นก็กลับมาปกติ ส่วนตนก็เลยเอาน้องไนท์มาอยู่ด้วย กระทั่งได้ถามน้องไนท์ถึง 3 ครั้ง ในคืนวันที่ 18 ก.ย. รอยต่อเช้า 19 ก.ย. น้องบอกว่า "พ่อเอาพี่นิคไปส่ง รพ. พ่อกระทืบ และทุบพี่นิค" ครั้งที่ 2 พอเข้าไปหาเงินในห้อง เพื่อเอามาซื้อขนมให้คนเล็ก และรื้อในที่นอน ตอนนั้นรู้สึกขนลุก ก็เลยได้ถามน้องไนท์ เป็นครั้งที่ 2 น้องตอบว่า "พ่ออุ้มพี่นิคไป พี่เจ็บ เลือดไหลเต็มหมดเลย อุ้มไปตอนพี่นิคหลับ และพี่ลืมตาข้างเดียว"

จนกระทั่ง น.ส.กิตติยา กังวลใจเดินกลับมาหาตนมาพูดคุยถามไถ่กันปกติ แต่น้องดันไปสังเกตเห็นที่นอนภายในห้องนายบอล เมื่อชวนกันไปในห้องก็พบว่ามีกองเลือดที่หมอน และที่นอนเต็มไปหมด จนน้องไนท์ พูดขึ้นว่า "ป้าเลือดเต็มไปหมดเลย หนูว่าพี่นิคน่าจะตายแล้ว" ตนจึงดุว่าอย่าพูดแบบนั้น ปากไม่ดี พี่อาจจะยังไม่ตาย น้องพูดอีกว่า "พี่ไม่ตายได้ไง พ่อทำพี่ขนาดนั้น" ก่อนน้องไนท์จะพูดชวนให้ขนลุกอีกว่า "ตอนที่พ่ออุ้มพี่นิคเขาเอาแต่วิญญาณไป แต่ตัวพี่นิคยังอยู่ตรงนี้ แต่พ่ออุ้มพี่นิคไปแล้ว" ตนคาดว่าน้องเห็นวิญญาณ แต่ตนไม่ปักใจเชื่อ เพราะยังคิดในทางที่ดีคือน่าจะเอาลูกไปฝากย่า แต่เมื่อติดต่อนายบอล กลับยืนยันว่าลูกอยู่ในห้อง ทั้งที่ไม่เจอน้องตั้งแต่วันที่ 17 ก.ย. 65 สุดท้ายจึงตัดสินใจพากันไปแจ้งความ เพราะก็ขัดแย้งกับที่น้องพูด สุดท้ายทุกอย่างก็ปรากฎ

อย่างไรก็ตาม ตนรู้สึกเสียใจหากเหตุนี้มันเกี่ยวข้องกับการที่ตนไปฟ้องว่าน้องเล่นกับลูกตนจนฟันหัก แต่อีกมุมก็มองว่าเพราะนายบอล คิดถึงเมีย มีปัญหากับเมียแล้วมาลงที่ลูกมากกว่า