จากกรณีนางสาวสุกัญญา (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี ทำงานด้านบัญชีอยู่ในโรงเรียนหรูย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เดินทางไปงานวันเกิดเพื่อน ที่บ้านย่านคลอง 4 ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 9 ก.ค. 65 เวลาประมาณ 01.00 น. มีชาย 2 คนขับจักรยานยนต์มา 1 คัน ใช้ปืนจี้วัยรุ่นในหมู่บ้านให้พามาบ้านเพื่อนตน ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานวันเกิด
มาถึงตะโกนเรียกชื่อ "เปา" ประมาณ 5 ครั้ง ก่อนจะใช้ปืนยิงเข้ามาในบ้านหลายนัด จนตนได้รับบาดเจ็บ ถูกยิงเข้าที่ก้นกระสุนฝังใน มีการแจ้งความที่ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี ไป 1 เดือนกว่าแล้ว แต่เรื่องยังเงียบ จึงร้องขอความช่วยไปยังเพจ "สายไหมต้องรอด" ให้ช่วยตามคืบหน้านั้น
ล่าสุด วันที่ 19 ส.ค. 65 นายแก้ว (นามสมมติ) อายุ 17 ปี เปิดใจกับทีมข่าวว่า วันนั้นเวลาประมาณ 00.00 น. ตนได้ขี่รถ จยย. ไปหารุ่นพี่ที่บ้าน ชื่นายใบ (นามสมมติ) โดยขณะที่จอดรถรออยู่หน้าบ้านนั้น ก็มีชาย 2 คน ขับรถ 1 คันเข้ามา ซึ่งคนซ้อนท้าย ทราบชื่อภายหลังคือนายพง ได้เดินลงมาหาตน พร้อมกับถืออาวุธปืนมาด้วย ส่วนผู้ชายอีกคนรูปร่างท้วม ขี่รถไปดักรอนายใบที่กำลังเดินเข้าหมู่บ้านมา
ก่อนชายรูปร่างผอมจะบอกตนว่า "ไอ้น้อง ลงมาคุยด้วยหน่อย เอ็ง เรียนที่ไหน" ตนบอกว่าไม่ได้เรียน ชายคนดังกล่าวก็บอกอีกว่า "เอาดี ๆ ไม่งั้นมึงตายนะ รู้จักพี่เคนไหม" ก่อนจะขอดูโทรศัพท์ตน ตนจึงให้ไป บอกว่าไม่รู้จัก ซึ่งตนไม่รู้จักจริง ๆ รู้จักเเต่นายใบ และไม่รู้มาก่อนว่านายใบคือน้องชายของนายเคน ซึ่งหลังจากดูโทรศัพท์ของตนเสร็จเเล้วก็ไม่พบอะไรน่าสงสัย ตนจึงได้โทรศัพท์คืน หลังจากนั้น นายพงก็เดินลากตนไปหาผู้ชายอีกคนหนึ่งที่ดักนายใบอยู่ ก่อนที่ตนจะได้ยินว่ามีการบังคับให้นายใบโทรหานายเคน เเต่นายเคนไม่รับสาย หลังจากนั้นตนก็ไม่ได้ยินอะไรอีก
ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะบังคับให้พวกตนขี่รถของเขา บอกว่า "ข้างในมีบ้านอีกไม่ใช่เหรอ พาไปหน่อย" โดยตนเป็นคนขับ มีนายใบนั่งตรงกลาง ชายรูปร่างผอมนั่งประกบท้าย พร้อมกับบอกตนว่า "อยู่นิ่ง ๆ อย่าตุกติก ไม่งั้นมึงตายนะ" ก่อนที่ตนจะขับรถเข้าไปที่บ้านที่เกิดเหตุ โดยมีนายใบเป็นคนบอกทาง เพราะตนไม่รู้จักอะไรเลย
เมื่อไปถึงผู้ก่อเหตุก็ได้ให้ตน และนายใบไปจอดรถอยู่ที่ซอยข้าง ๆ ขอยึดโทรศัพท์ตนทั้ง 2 คน โดยบอกว่า "เอาโทรศัพท์มานี่ เดี๋ยวพี่ใช้เสร็จจะเอาไปวางคืนหน้าบ้านให้" ต่อมาคนก่อเหตุก็เดินไปที่หน้าบ้าน ก่อนจะตะโกนเรียกชื่อ "เปา" ตนได้ยินเสียงปืนดังตามมาอีกหลายนัด ตอนนั้นพวกตนกลัวมาก ต้องเเอบอยู่ข้างในซอย ไม่กล้าออกไป หลังเสียงปืนสงบตนก็ออกไปดูว่ามีคนเจ็บหรือไม่ หลังจากนั้นพวกตนก็ไปเเจ้งความเรื่องที่ถูกเอาปืนจี้ ตำรวจก็บอกว่าจะช่วยดำเนินการให้ ตอนนั้นตนก็ได้เข้าไปให้ปากคำ เเต่จนตอนนี้ผ่านมา 1 เดือนเเล้วก็ยังจับตัวคนร้ายไม่ได้ เมื่อวานหลังจากข่าวออกไปตำรวจก็ยังไม่ได้เรียกตนเข้าไปให้ปากคำเพิ่มเติม ยอมรับว่าตอนนี้ค่อนข้างกังวล เพราะยังไม่สามารถจับคนก่อเหตุได้
ตนยืนยันว่าตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับเหตุการณ์นี้เลย ไม่รู้จักกับผู้ก่อเหตุมาก่อน ตนจำได้เพียงรูปพรรณสัญฐานของนายพง ตัวสูงประมาณ 176 ซม. รูปร่างผอม ส่วนชายร่างท้วม ตนเเทบจะจำไม่ได้ เพราะเขาไม่ได้มาคุยอะไรกับตน
ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางมาที่ หมู่ 5 ต.พยอม อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา บ้านของนายพงศธร คำวันดี หรือ นายพง ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดธัญบุรี ข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร, ร่วมกันยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดไม่กระทำการใดหรือจำนนต่อสิ่งใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกายเสรีภาพชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจหรือของผู้อื่น
พ่อของนายพงศธร เปิดเผยว่า ตอนนี้ตนติดต่อลูกชายไม่ได้มานานเเล้ว เเละไม่มีเบอร์โทรลูกชาย เพราะตนเล่นโทรศัพท์ไม่ค่อยจะเป็น เพราะบางทีลูกชายก็จะโทรมาหาแม่มากกว่า หากติดต่อลูกชายได้จะพาไปมอบตัว ตนก็ทราบข่าวที่ว่าลูกชายไปยิงคนมาเเล้ว แต่ตนเชื่อว่าลูกชายไม่ได้ทำแบบนั้นแน่นอน เพราะลูกชายไม่มีปืน ไม่ได้มีนิสัยแบบนั้น มีเเต่กลุ่มวัยรุ่นไม่ทราบกลุ่มที่มาตามหาลูกชายเเละจะยิงลูกชายมากกว่า โดยจะมีวัยรุ่นชายขับขี่รถ จยย. มาประมาณ 2-3 คัน ขับวนดูช่วงกลางคืนที่หน้าบ้านของตน เเต่ก็ไม่ได้ลงมาทำอะไร เเละไม่ได้โยนข้าวของอะไรใส่บ้าน ลักษณะคล้ายกับมองหาลูกชายของตน เหตุการณ์นี้เกิดมานานประมาณ 1 ปีได้
ตนไม่ทราบจริง ๆ ว่ากลุ่มวัยรุ่นที่มาหาเรื่องลูกชายเป็นใคร ชื่ออะไร ส่วนปมสาเหตุก็น่าจะมาจากความขัดเเย้งระหว่างสถาบันมากกว่า หรือไม่ก็จำคนผิด ส่วนอาวุธปืนเเม้จะหาได้ง่ายดายในยุคนี้ เเต่ลูกชายไม่เคยมีปืนมาก่อน ตนเองไม่ทราบรายละเอียดจริง ๆ เพราะทำเเต่งาน เจอลูกไม่บ่อยมากนัก ส่วนภรรยาก็ทำงานเช่นกัน ส่วนความคืบหน้าคดี ตำรวจก็มาหาภรรยาต ไม่ได้มาคุยกับตนโดยตรง ตอนนี้ตนไม่ทราบจริง ๆ ว่าลูกชายไปอยู่ที่ไหน เพราะลูกชายก็ต้องระวังตัว เกรงว่าจะถูกคู่อริเล่นงาน หากตนติดต่อได้จะพาเข้ามอบตัวเเน่นอน
Advertisement