สันติแชะภาพก่อนฆ่า 4 ศพ สลด "มี่" ไว้ใจรักยิ่งกว่า "แตงโม-กระติก" ยังถูกทรยศ (คลิป)
ความคืบหน้าคดีฆาตกรรมโหดที่ไต้หวัน หลังผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นคนไทย คาดว่าจะเป็น "นายสันติ" ซึ่งเป็นเพื่อนกับทางผู้ตาย "นางลี่" หรือ น.ส.พจนีย์ แซ่หลี่ อายุ 35 ปี และรู้จักกับทางนายประเสริฐ โนราษ อายุ 32 ปี สามีของนางลี่ที่เสียชีวิตเช่นกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
วันที่ 13 มิ.ย. 65 ช่วงเช้าที่ผ่านมาทาง ทีมข่าวเดินทางไปยังบ้านเกิดของนายประเสริฐ โนราษ หมู่ที่ 1 ตำบลท่าลาด อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี คุณพ่อและคุณแม่ของเจ้าตัวได้เดินทางไปติดต่อราชการเรื่องของเอกสารทะเบียน และใบมรณบัตรที่ต้องส่งไปให้ทางครอบครัวของ นางพจนีย์ หรือ ลี่ สามีของนายประเสริฐ ในการจัดการเรื่องของศพ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โคตรอำมหิต! ฆ่าผัวเมียท้องแฝด 4 ศพยัดรถหรู ตร.แจงไม่รู้ปล่อยเข้าไทย พ่อสุดช็อก (คลิป)
นายยิ่งยศ แซ่หลี่ อายุ 38 ปี พี่ชายของนางสาวพจนีย์ ผู้เสียชีวิต เดินทางเข้าพบตำรวจภูธรภาค 5 เพื่อร้องขอความเป็นธรรม บอกว่าผู้ต้องสงสัยเป็นชายอายุ 35 ปี สนิทสนมกับน้องสาวเพราะโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก สมัยยังอยู่ที่ อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่
ก่อนหน้านี้นายสันติทำงานเปิดบริษัททัวร์ พอช่วงสถานการณ์โควิด-19 ธุรกิจปิดตัวจึงเดินทางไปที่ไต้หวัน ไปทำงานเป็นล่ามกับน้องสาวที่ไต้หวัน และเมื่อช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ผู้ต้องสงสัยค่อนข้างสนิทสนมกับครอบครัวน้องสาว เข้าออกบ้านไปกินข้าวที่บ้านด้วยกันเป็นประจำ เบื้องต้นยังไม่ทราบว่ามีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งอะไรกัน แต่น่าจะเป็นเรื่องเงิน เพราะก่อนเกิดเหตุช่วง 20.00 น. ของวันที่ 8 มิ.ย. น้องสาวได้โทรศัพท์มาปรึกษากับตน บอกว่าได้ให้ผู้ต้องสงสัยยืมเงินประมาณ 800,000 บาท สร้อยทองคำหนักกว่า 10 บาท จากนั้นผู้ต้องสงสัยมาบอกกับน้องสาวว่าเงินกับสร้อยคอที่ให้ยืมถูกคนงานขโมยไป แต่น้องสาวไม่ปักใจเชื่อ จึงโทรศัพท์มาปรึกษาตนว่าจะทำอย่างไรดี ซึ่งตนก็เตือนว่าให้ระมัดระวังชายคนนี้ไว้ ก่อนจะวางสายไป และหลังจากนั้นไม่รู้ว่าเขามีเรื่องทะเลาะอะไรกันอีก ก่อนจะมาทราบข่าวว่าน้องกับครอบครัวถูกฆ่าอย่างโหดร้าย
ที่อยู่ในประเทศไทยของผู้ต้องสงสัยอยู่หมู่บ้านเดียวกับน้องสาวที่ อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ หลังเกิดเหตุช่วงวันที่ 9 มิ.ย. มีชาวบ้านบอกว่าเห็นผู้ต้องสงสัยกลับมาที่หมู่บ้านจริง มารับส่งลูกไปโรงเรียนใช้ชีวิตปกติก่อนจะหายตัวไป ปกติแล้วผู้ต้องสงสัยเป็นคนพูดจาดีและสนิมสนมกับน้องสาวมาก ยิ่งกว่าแตงโมกับกระติกอีก ถึงขั้นเวลาที่อยู่ไต้หวันด้วยกัน น้องสาวให้คีย์การ์ดเปิดประตูบ้านเข้า-ออกได้อย่างสบาย ไม่คาดคิดว่าจะฆ่าน้องสาวของตนที่กำลังตั้งท้องกับสามีได้อย่างโหดเหี้ยม ตอนนี้จึงอยากขอความช่วยเหลือให้ตำรวจช่วยติดตามคดีคืนเป็นธรรมให้กับน้องสาว
พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ ผบ.ตร. เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนกองปราบที่อยู่ระหว่างการสอบปากคำเจ้าหน้าที่กงสุลไต้หวัน เพื่อหาข้อมูลหลักฐานต่าง ๆ ขณะเกิดเหตุ ส่วนผู้ต้องหาเวลานี้เจ้าหน้าที่ได้ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่เร่งติดตามตัว ยืนยันว่าจะดำเนินคดีผู้ต้องหาตามกฎหมายไทยที่ให้อำนาจแม้ว่าจะก่อเหตุที่ต่างประเทศ ส่วนข้อตกลงเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ยังไม่คิดถึงเรื่องดังกล่าว ขอให้จับกุมตัวผู้ต้องหาได้ก่อนซึ่งจะดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
นางสอดศรี จำปาษา อายุ 43 ปี ป้าของนายประเสริฐ เปิดเผยว่า สำหรับเรื่องคดีล่าสุดนั้นทางครอบครัวเองก็ไม่ทราบว่าไปถึงขั้นไหนแล้ว ตอนนี้ทางพ่อและแม่ของนายประเสริฐเองก็รอความชัดเจน และรับข้อมูลมาจากฝั่งของครอบครัวภรรยาเขาที่ไต้หวัน ซึ่งก็ยังไม่ได้มีการอัปเดตมากนัก ส่วนใหญ่จะทราบจากข่าวในประเทศไทย ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองคาดการว่าบุคคลต้องสงสัยนั้นน่าจะเป็นนายสันติ คนรู้จักทางผู้ตายฝั่งผู้หญิง ส่วนนี้ทางญาติเองก็ยังไม่ได้รับการยืนยันจากทางครอบครัวของภรรยาลูกชายที่ไต้หวัน
สภาพจิตใจของครอบครัวนั้น ยอมรับว่าทางพ่อและแม่รวมถึงญาติค่อนข้างเครียด ทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถึงขั้นที่พ่อของนายประเสริฐกินข้าวไม่ได้มา 3-4 วันแล้ว ในใจก็ไม่อยากให้เขาเองรับรู้ข่าวสาร ยิ่งดูข่าวยิ่งเศร้าและคิดมาก ถึงขั้นนอนละเมอถึงลูก แต่ในอีกมุมลูกชายทั้งคนเสียเ ขาเองก็อยากรู้ความคืบหน้าคดี ภาวนาให้จับคนร้ายให้ได้
ส่วนเรื่องพิธีทางศาสนา ทางญาติของภรรยาเองอยากให้เก็บอัฐิของทั้งคู่ไว้คู่กันที่ไต้หวัน ไม่อยากให้แยกจากกันเพราะทั้งคู่รักกันมาก ทางครอบครัวเลยได้ตกลงกันว่าอาจจะเอาเสื้อผ้าของลูกชายมาทำพิธีที่เมืองไทยแทนอัฐิ ส่วนเรื่องกฎหมายหรือเงินเยียวยาตามกฎหมายนั้น ตอนนี้ญาติไม่ทราบ ไม่ได้โฟกัสในเรื่องดังกล่าว ขอดูเรื่องของการจับคนร้าย และเรื่องของพิธีให้เเล้วเสร็จก่อน
ขณะที่ต่อมาเวลา 20.00 น. ทีมข่าวเดินทางไปยังบ้านพ่อของนายประเสริฐ หมู่ที่ 1 ตำบลท่าลาด อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี น้องสาวและญาติอีกคนที่นั่งอยู่ด้านหน้าบ้าน ขณะที่ประตูบ้านกลับปิดไว้
นอกจากนี้ ทีมข่าวตรวจสอบบนโซเชียลฯของผู้ตาย โพสต์เฟซบุ๊ก โดย น.ส.พจนีย์ หรือ มี่ ลงภาพตามปกติ และมีภาพของนายสันติ มีความสนิทสนมกันอย่างมาก รวมถึงบางโพสต์ระบุถึงการตั้งครรภ์ด้วย
Advertisement
