อุ้มซ่อนศพ “ยายนิด” เจอภาพลับรถล่องหนหมวดโยเข้าป่า ผัวชี้เป้าเขตทหารมีพิรุธ (คลิป)

จากกรณีการหายตัวไปอย่างเป็นปริศนาของ นางนิด สังวรณ์ อายุ 60 ปี หญิงชาวจังหวัดลพบุรี ที่ถูกร้อยโทพิพัฒพงษ์ เงินลา หรือหมวดโย อายุ 36 ปี ทหารหนุ่มสังกัดกองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 3 ลพบุรี อุ้มหายออกจากบ้าน ไปตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2565 ก่อนที่หมวดโยจะก่อเหตุรมควันฆ่าตัวตายในรถ ในวันที่ 12 เมษายน 2565 เพื่อหนีความผิดนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 3 มิ.ย. 65 ร้อยตรีนพรัตน์ สังวรณ์ หรือ ลุงรัตน์ อายุ 60 ปี สามีของคุณยายนิด ยังคงไม่ลดละความพยายามที่จะตามหาร่างของภรรยาตัวเอง ถึงแม้จะเวลาจะผ่านไปเกือบ 2 เดือนแล้ว โดยตั้งแต่ช่วงเช้าลุงรัตน์ ได้เตรียมออกตามหาภรรยาตัวเองอีกครั้งหนึ่ง และมีทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ช่วยประสานหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อช่วยค้นหาเพิ่มเติมอีกด้วย

ร้อยตรีนพรัตน์ บอกว่า ตลอดเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา หลังจากภรรยาตนเองถูกหมวดโย เป็นทหารรุ่นน้องอุ้มหายตัวปริศนา และหมวดโยได้หนีไปฆ่าตัวตาย ตนเองและครอบครัวได้ออกตามหายายนิดทุกวัน ไม่มีวันหยุด เพราะต้องการทราบว่าตอนนี้ภรรยาตนเองอยู่ที่ไหน และค่อนข้างมั่นใจว่า ภรรยาตนเองถูกหมวดโยลงมือฆ่าเสียชีวิตไปแล้ว แต่ไม่รู้เลยว่าหมวดโยเอาภรรยาตนเองไปฆ่าโบกปูน โยนทิ้งน้ำ หรือฝังดินไว้พื้นที่ในของจังหวัดลพบุรี แต่ถึงแม้ว่าความหวังจะมีน้อยขนาดไหน ตนเองก็จะยังหาต่อไปไม่ยอมแพ้

พร้อมพาทีมข่าวไปที่ห้องนอน ซึ่งตั้งรูปของภรรยาตนเองไว้ โดยวันนี้ทีมข่าวได้ประสานไปยังอาสามูลนิธิร่วมกตัญญูจังหวัดลพบุรี เพื่อขอกำลังมาช่วยค้นหาร่างของยายนิดเพิ่มเติม เนื่องจากว่าที่ผ่านมาลุงรัตน์บอกว่าตำรวจเริ่มนิ่งเฉย ไม่ได้ลงพื้นที่ค้นหาภรรยาตนเองแล้ว และตำรวจใช้งบประมาณในการทำคดีนี้ไปเยอะมากแล้ว แต่ก็ไม่พบร่างยายนิดที่หมวดโยพาขึ้นรถออกจากบ้านไปเมื่อ 11 เมษายน หรือเมื่อ 2 เดือนก่อน

ภาพกล้องวงจรปิด เส้นทางรถหมวดโยวันที่ยายนิดถูกอุ้มหายตัวปริศนา ตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดลพบุรี ได้มอบให้ทีมข่าว หากย้อนกล้องวงจรปิดวันเกิดเหตุ 11 เมษายน ตั้งแต่บ้านของยายนิด ที่ ต.ถนนใหญ่ อ.เมืองลพบุรี ไปจนถึงบ้านของหมวดโย ที่ ต.โพตลาดแก้ว อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี จะพบว่ามี 4 ห้วงเวลาที่รถของหมวดโยขับหายไป และกล้องวงจรปิดจับภาพไม่ได้

ย้อนไปดูตั้งแต่เริ่มเกิดเหตุ ตอนเวลาประมาณ 12.14 น. ยายนิดออกมารอหมวดโยที่หน้าบ้าน จากนั้นเวลา 12.20 น. หมวดโยได้ขับรถกระบะมารับ ได้ขับรถมุ่งหน้าไปทางซอยสุขสำราญ กล้องวงจรปิดภายในซอยจับภาพขณะหมวดโยขับกระบะออกจากซอยบ้านยายนิด

เวลาประมาณ 12.26 น. วงจรปิดของปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง จับภาพรถกระบะของหมวดโยออกมาจากกซอยสุขสำราญ แล้วมุ่งหน้าไปทางแยก รพ.อานันทมหิดล ผ่านหน้าโรงเรียนโคกกะเทียม และขับไปตามทาง มุ่งหน้าไปตามเส้นทางโคกกะเทียม-บางลี่ ในเวลา 12.38 น.

กระทั่งจุดสำคัญ ห้วงเวลาที่ 1 ที่พบว่ารถกระบะของหมวดโยหายไปนานถึง 56 นาที กล้องวงจรปิดเวลาจริง 12.50 น. บริเวณหน้าร้านค้า ตรงข้ามโรงเรียนบางลี่ จับภาพรถกระบะของหมวดโยขับผ่านไป พบอีกทีตอนเวลา 12.58 น. กล้องวงจรปิดของเต็นท์รถมือสอง ต.ท่าวุ้ง อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี จับภาพรถกระบะของหมวดโยขับมุ่งหน้าแยกบางงา รถของหมวดโยหายไปเป็นเวลาประมาณ 47 นาที ก่อนจะกลับมาอีกครั้ง ตอนเวลา 13.46 น. เพื่อมุ่งหน้าไปทางแยกท่าวุ้ง ขับไปตามทางเพื่อมุ่งหน้าไปทางแยกบ่อเงิน

ห้วงเวลาที่ 2 ที่พบว่ารถกระบะของหมวดโยหายไปนานถึง 37 นาที เวลาจริงประมาณ 14.01 น. พบรถกระบะของหมวดโยขับผ่านร้าน หน้าร้านโพธิ์เก้าต้นการเกษตร มุ่งหน้าไปทางสะพานสูง ก่อนที่เวลา 14.08 น. พบรถกระบะของหมวดโย ขับรถวนไปวนมา โดยกล้องวงจรปิดของโรงน้ำแข็งใน ต.ป่าตาล อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี จับภาพไว้ได้ เวลาประมาณ 14.29 น. เวลาประมาณ 14.38 น. จะเห็นว่ารถของหมวดโยได้ขับย้อนออกมาผ่านหน้าร้านโพธิ์เก้าต้นการเกษตร ขับมุ่งหน้าไปแยกโพธิ์เก้าต้น

ห้วงเวลาที่ 3 ที่พบว่ารถกระบะของหมวดโยหายไปนานถึง 29 นาที เวลาประมาณ 14.48 น. หมวดโยขับผ่าน สภ.บ้านกุ่ม จากนั้นเวลาประมาณ 14.51 น. ขับผ่านร้านค้าแถววัดชีแวะ ก่อนที่จะหายไป 4 นาที ย้อนกลับมาอีกครั้งเวลาประมาณ 14.55 น. ก่อนรถของหมวดโยจะขับกลับเข้าเส้นทางเดิม ผ่าน สภ.บ้านกุ่ม เพื่อมุ่งหน้าไปแยกบ่อเงิน เวลาประมาณ 15.17 น.

สุดท้ายห้วงเวลาที่ 4 รถกระบะของหมวดโยหายไปนานถึง 50 นาที เวลาประมาณ 15.28 น. พบว่ารถของโหมดโย ขับผ่านตลาดต้นไทร มุ่งหน้า สภ.ท่าหิน ผ่านโค้งวัดโพธิ์เงิน ตอนเวลาประมาณ 15.34 น. เป็นช่วงเวลาสุดท้ายที่กล้องวงจรปิดจับภาพได้ ก่อนที่รถของรถของหมวดโยจะหายไปนานถึง 44 นาที กล้องวงจรปิดไปพบอีกครั้ง เวลา 16.18 น. รถของหมวดโยได้ขับผ่านเทศบาลตำบลโพตลาดแก้ว มุ่งหน้าแยกบ่อเงิน จากนั้น 16.24 น. รถกระบะของหมวดโยขับผ่านสะพานก่อนถึงโรงเรียนดอนทองราษฏร์วิทยา เส้นทางกลับบ้าน ถึงบ้านเวลาประมาณ 16.25 น.

หลังจากนั้น ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี และลุงรัตน์ได้เริ่มค้นหา ทีมข่าวได้เดินทางไปยังจุดบริเวณโรงงานทำน้ำแข็ง จากภาพจากกล้องวงจรปิดที่เราได้มานั้น เป็นเวลาประมาณ 15.00 น. ของวันที่ 11 เมษายน จับภาพรถกระบะหมวดโย ขับขี่ไปในเขตพื้นที่ ตำบลป่าตาล เมืองลพบุรี เป็นจุดที่หมวดโยจอดรถ ก่อนจะมีการเดินลงมาจากรถ เดินอ้อมท้ายกระบะไปฝั่งข้างคนขับ ไม่นานก็เดินกลับมาฝั่งประตูคนขับ ขึ้นรถขับรถออกไป ตำรวจสันนิษฐานว่าช่วงเวลานี้อาจจะก่อเหตุทำร้ายยายนิดเสร็จแล้ว และจุดนี้เป็นจุดเดียวที่กล้องวงจรปิด 1 ใน 60 ตัวที่ตำรวจได้มา เห็นหมวดโยเดินลงจากรถ

วันนี้คุณลุงรัตน์ขอทีมข่าวให้เดินทางมาดูจุดนี้เพิ่มเติม เพราะสงสัยเช่นกันว่าทำไมหมวดโยถึงลงจากรถ และเดินไปท้ายรถคล้ายกับทิ้งอะไรบางอย่าง สงสัยว่าหมวดโยอาจจะทิ้งของส่วนตัวของภรรยา หรือพวกของเล็ก ๆ เช่น ซิมโทรศัพท์ เพื่อทำลายหลักฐานหรือไม่ จากการค้นหาพบถุงมือช่างข้างหนึ่ง ลักษณะค่อนข้างเก่า แห้งติดกันแล้ว ถูกดินถมอยู่ต้องขุดขึ้นมา พบว่าถุงมือดังกล่าวถูกม้วนเป็นก้อนกลม เมื่อเอาไม้เขี่ยดูพบสีถุงมือบางแห่งมีสีคล้ายคราบเลือด ไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ แต่ลุงรัตน์ก็บอกว่าเป็นเรื่องน่าแปลก

พันตำรวจเอกรักศักดิ์ เมฆจินดา ผู้กำกับ สภ.เมืองลพบุรี ยืนยันว่า ที่ผ่านมาผู้บังคับบัญชา ตนเอง และลูกน้องต่างพยายามค้นหาร่างของคุณยายนิดตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา บางทีญาติอาจจะไม่รู้ เพราะไม่ได้เห็นว่าตำรวจทำอะไรไปแล้วบ้าง แต่ตนเองยืนยันว่า ในส่วนของพยานหลักฐาน ตนเองทำไปจนเสร็จสมบูรณ์แล้ว เหลือเพียงต้องค้นหาร่างของยายนิดให้เจอ

ที่ผ่านมา ตำรวจได้แกะรอยภาพจากกล้องวงจรปิดกว่า 100 ตัว รอบพื้นที่ในจังหวัดลพบุรีที่รถของหมวดโยได้ขับผ่าน กล้องวงจรปิดที่จับภาพรถหมวดโยได้ มีทั้งหมดกว่า 60 ตัว พบว่าหมวดโยวนรถอยู่รอบตัวอำเภอเมืองลพบุรี และอำเภอท่าวุ้ง ซึ่งเป็นบ้านของหมวดโย จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า หมวดโยวันที่ 11 เมษายน ไม่ได้เดินทางไปที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน อย่างที่บอกว่าจะพาคุณยายนิดไปส่งที่ธนาคาร เชื่อว่าหมวดโยน่าจะโกหก และพายายนิดไปทำร้ายที่อื่น และซุกซ่อนศพมากกว่า

แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่ทราบว่าร่างคุณยายนิดถูกซุกซ่อนอยู่ที่ใด พื้นที่อำเภอลพบุรีหากขับออกไปนอกเมือง กล้องวงจรปิดก็แทบไม่มี ส่วนโทรศัพท์มือถือ ในวันที่ 11 โทรศัพท์ของคุณยายนิดถูกปิดเครื่องตั้งแต่ออกจากบ้านแล้ว ส่วนโทรศัพท์ของหมวดโย ยังพอได้ข้อมูลมาบ้าง แต่ก็ไม่ได้ละเอียด ไม่สามารถระบุที่อยู่ได้ชัดเจน

ปมการเสียขีวิตตำรวจให้น้ำหนักไปเกี่ยวกับเรื่องปมหนี้สินที่หมวดโยได้หยิบยืมเงินของคุณยายนิดไปกว่า 2.1 ล้านบาท เพราะก่อนคุณยานิดจะหายไปมีข้อความคุยกันว่าจะมีการจ่ายเงินค่าเรื่องหนี้สิน ตนเองยืนยันว่า ตำรวจยังคงทำงานอย่างหนัก และอยากเจอร่างของคุณยายนิดไม่แพ้กับครอบครัว แม้ว่าจะหมดงบประมาณไปเยอะ แต่ก็ไม่ได้หยุดที่จะทำคดี คดียังดำเนินต่อ อยากให้ทางครอบครัวเข้าใจ เพราะบางจุดที่ญาติบอกว่าตำรวจไม่ได้ไปหา จริงแล้วตำรวจก็เดินทางไปตรวจสอบ แต่ไม่ได้บอกญาติก็มี บางจุดก็ที่ไม่ไปเพราะญาติไปเพราะหมอดู ตำรวจทำงานยึดหลักฐานและข้อเท็จจริงเป็นหลัก และหากญาติยังสงสัยจุดเพิ่มเติม ก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เลย

ต่อมาเมื่อช่วง 12.00 น. ทีมข่าวโทรศัพท์ติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญูจังหวัดลพบุรี เพื่อขอความช่วยเหลือ และขอกำลังเจ้าหน้าอาสาร่วมเดินทางไปค้นหายายนิด จุดที่ลุงรัตน์สงสัย จุดแรกที่เจ้าหน้าที่เดินทางไป คือจุดที่ลุงรัตน์สงสัยว่าหมวดโย อาจจะเข้ามาฝังศพในพื้นที่ของทหาร เพื่อไม่ให้ใครเห็นหรือไม่ เพราะหมวดโยก็เคยมาฝึก โดยช่วงหลังหายตัวไปมีทหารที่ไปซ่อมฝึกยิงปืนใหญ่ บริเวณหลังเขาพุโลน ตำบลเขาพระงาน อำเภอเมืองลพบุรี ซึ่งเป็นเหตุพื้นที่ทหาร

ระหว่างพักนอนแถวบริเวณนั้นกลางดึก พวกทหารคนรู้จักกับลุงรัตน์ ได้กลิ่นเหม็นรุนแรงคล้ายกลิ่นศพ จึงได้โทรแจ้งให้ลุงรัตน์รู้ และลุงรัตน์ซึ่งเคยเป็นอดีตทหาร เคยเข้าไปหาแล้ว แต่ยังหาไม่หมด จึงอยากเข้าไปดูอีกรอบ แต่เมื่อเดินทางไปทนายแจ้งความต้องขออนุญาตทำเรื่องก่อนถึงเข้าได้ และต้องได้รับอนุญาตก่อนเท่านั้น เพราะเป็นพื้นที่ของทหาร หากเข้าไปเองจะผิดกฎหมาย

จุดที่ 2 เป็นจุดภายในถ้ำ บริเวณหลังวัดเขาสมอคอน ตำบลสมอคอน อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี จุดนี้เป็นอีกจุดที่ลุงรัตน์สงสัย เพราะ ก่อนหน้านี้ หมวดโยเคยเป็นลูกศิษย์วัดสมอคอน และเดินทางมาเช่าพระไหว้พระบ่อย ๆ และคุ้นชินพื้นที่ดี โดยถ้ำตรงนี้อยู่ไม่ไกลจากวัดมาก ลุงรัตน์สงสัยว่าหมวดโยอาจจะนำศพภรรยาไปฝังในถ้ำก็ได้

จุดที่ 3 ที่ไปค้นหา คือบริเวณสำนักสงฆ์ร้าง ซึ่งมีลักษณะเป็นบ้านหลังถึงสร้างอยู่ติดเขา ห่างจากจุดที่ 2 ไม่ไกลมากนัก ซึ่งเป็นพื้นที่น่าสงสัยอีกจุด แต่เข้าไปสำรวจก็บังไม่พบเบาะแส ใช้เวลาค้นหาประมาณ 15 นาที

และจุดที่ 4 สุดท้าย บริเวณตีนเขาใกล้จุดที่ 3 ประมาณ 50 เมตร ซึ่งเป็นจุดปล่องทิ้งขยะของชาวบ้านในพื้นที่ โดยลุงรัตน์สงสัยว่า จุดนี้น่าสนใจตรงที่ หมวดโยอาจจะนำศพห่อ และโยนลงปล่องขยะซึ่งมีความลึกประมาณ 2-3 เมตร และเมื่อชาวบ้านทิ้งขยะลงไปทับถม ก็จะทำให้แยกไม่ออกว่าศพหรือขยะ เพราะกลิ่นเหม็นผสมปนกัน เมื่อตรวจดูก็ยังไม่พบใช้เวลาประมาณ 30 นาทีในการค้นหา จากนั้นจึงยกเลิกการค้นหา เนื่องจากเริ่มจะค่ำแล้ว

การค้นหาวันนี้มีเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญอยู่เดินทางมาร่วมช่วยค้นหาจำนวน 30 คน ครอบครัวของคุณยายนิด 10 คน และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ลพบุรีอีก 5 นาย รวมทั้งสิ้นกว่า 45 คน ร่วมการค้นหา