พนักงานร้านทองเผยนาทีโจรหมวกกากบาทปืนจี้หัวชิงทอง 193 บาท เชื่อดูคนน้อยก่อนลงมือ (คลิป)
จากกรณี คนร้ายควงปืนบุกเดี่ยว จี้ร้านทองห้างดังเมืองตาก กวาดทอง 193 บาท พร้อมเงินสด 1 แสนบาท รวมมูลค่ากว่า 5.7 ล้านบาท ขี่ จยย.เผ่นหนี ตำรวจตั้งด่านสกัดทั่วเมืองไล่ล่าตัว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
วันที่ 16 พ.ค.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ บริเวณภายในห้างบิ๊กซีสาขาตาก ริมถนนพหลโยธิน ตรงข้ามกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก ต.ระแหง อ.เมือง จ.ตาก ห้างสรรพสินค้ายังคงเปิดให้บริการตามปกติ แต่ร้านทองเยาวราช สินทวี ยังคงไม่เปิดให้บริการ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการนำโพลิสไลน์กั้นล้อมร้านจุดเกิดเหตุ ห้ามบุคคลไม่เกี่ยวข้องเข้า-ออกพื้นที่
เวลา 12.30 น. พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. พร้อมเจ้าหน้าที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เพื่อหาแนวทางการเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุ ตามขั้นตอน
น.ส.สุจินดา วงษ์จุ้ย อายุ 24 ปี พนักงานร้านทอง เล่าว่า เหตุเกิดวานนี้ช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. ขณะห้างสรรพสินค้ากำลังใกล้ปิด พนักงานร้านทองจำนวน 4 คน ก็กำลังจัดเก็บทองรูปประพันธ์เตรียมปิดร้าน แต่มีผู้ก่อเหตุเป็นชายอายุประมาณไม่เกิน 30 ปี ลักษณะรูปร่างผอมสูง ใส่เสื้อคลุมแขนยาวสีเทา กางเกงขายาวสีน้ำตาล สวมถุงมือผ้าสีขาว และสวมหมวกกันน็อกแบบครึ่งใบสีแดง บนหมวกกันน็อกมีสติกเกอร์สีขาวคาดเป็นกากบาท เดินถือถุงดำ เข้าห้างมาจากประตูทางเข้าห้าง ฝั่งฟู้ดคอร์ด
ก่อนเดินตรงมาที่ร้านทอง และชักอาวุธปืนออกมา ข่มขู่พนักงานบอกให้รีบหยิบถาดทอง จำนวน 7 ถาด และเงินสดยืนให้ผู้ก่อเหตุหยิบใส่ถุงดำ ขณะเกิดเหตุผู้ก่อเหตุเองไม่ได้มีทีท่าตื่นตระหนกหรือเร่งรีบ ใช้เวลาก่อเหตุไม่ถึง 2 นาที ผู้ก่อเหตุก็เดินถือถุงใส่ทอง เดินออกจากห้าง เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตามคลิปที่ปรากฏ
เบื้องต้น ทรัพย์สินของทางร้านที่ถูกขโมย คือ ทองคำรูปประพันธ์ประมาณ 193 บาท มูลค่าประมาณ 5.79 ล้านบาท เงินสดที่ถูกบังคับเอาไปอีก 100,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ตนในฐานะพนักงานที่อยู่ในเหตุการณ์ก็รู้สึกตกใจเพราะไม่เคยเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวมาก่อน โชคดีที่พนักงานภายในร้านไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ซึ่งส่วนตัวมองว่าการก่อเหตุในครั้งนี้ ผู้ก่อเหตุไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายพนักงาน แต่ตั้งใจจะมาเอาทองคำและเงินสดโดยเฉพาะ เพราะฉวยโอกาสใช้ช่วงวันหยุดยาวหลายวันลงมือก่อเหตุ ซึ่งคาดว่าเจ้าหน้าที่หยุดงาน และใช้โอกาสช่วงที่ไม่มีคนพลุกพล่านใกล้ห้างจะปิดลงมือ
ทั้งนี้ หากผู้ก่อเหตุได้ติดตามกระแสข่าว ก็อยากจะให้รีบเดินทางกลับมามอบตัว เนื่องจากมองว่าอย่างไรก็คงหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่พ้น ส่วนทางด้านคดีความก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย
ด้าน น.ส.ตัง (นามสมมติ) แม่ค้าร้านโทรศัพท์ เล่าว่า ช่วงขณะเกิดเหตุตนอยู่ในเหตุการณ์ ขณะนั้นเป็นเวลาช่วงห้างใกล้ปิดพนักงานห้าง รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าต่างทยอยเก็บร้านเตรียมกลับบ้าน ซึ่งขณะเกิดเหตุคนร้ายก่อเหตุค่อนข้างเงียบ ไม่ส่งเสียงดังกระโตกกระตาก ตนจึงหันไปเห็นในช่วงที่คนร้ายกำลังกวาดถาดทองใส่ถุงดำพอดี แต่ขณะนั้นยอมรับว่าเห็นคนร้ายมีอาวุธปืนอยู่ในมือ จึงไม่กล้าส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือหรือขยับตัวไปไหน เวลาผ่านไปไม่นาน หลังคนร้ายกวาดทองไปได้จนพอใจ ก็เดินออกจากห้างไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้ยังถือว่าโชคดีที่ไม่มีการยิงจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บเกิดขึ้น ส่วนตัวมองว่าการที่คนร้ายมาก่อเหตุดังกล่าวน่าจะมีความจำเป็นต้องใช้เงิน เนื่องจากขณะนี้เศรษฐกิจค่อนข้างแย่ ตนที่เป็นแม่ค้าเองยังขายของค่อนข้างลำบาก จึงน่าจะเป็นปมการก่อเหตุในครั้งนี้ ส่วนด้านคดีก็อยากให้ตำรวจเร่งติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุโดยเร็ว เนื่องจากเสมือนเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น
Advertisement
