เมื่อเวลา 19.50 น. วันที่ 15 พ.ค.65 พ.ต.ท.ธนัช ศรีประมาณ สารวัตรสอบสวน สภ.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีคนถูกอาวุธปืนยิงเสียชีวิต ภายในร้านอาหารตำสะเด็ด ซอยรุ่งโรจน์ ม.4 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ในที่เกิดเหตุพบร่าง นายไพรัตน์ รุ่งโรจน์ อายุ 50 ปี นอนจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่ข้างโต๊ะม้าหินอ่อน ในสภาพสวมกางเกงขาสั้นเพียงตัวเดียว ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่บริเวณ ศีรษะ ลำคอ และมือจำนวน 3 นัด
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ควบคุมตัวมือปืนผู้ก่อเหตุได้ภายในร้าน ทราบชื่อ นายกานพงศ์พิสุทธิ์ ใหญ่เฉียงเหนือ อายุ 45 ปี พร้อมอาวุธปืนลูกซอง เจ้าตัวรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ
วันที่ 16 พ.ค. 65 ทีมข่าวเดินทางมาที่ ร้านอาหารตำสะเด็ด ซอยรุ่งโรจน์ ม.4 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นบ้านของผู้ตายที่เปิดเป็นร้านอาหาร พบว่าร้านดังกล่าวถูกปิดไว้ มีเพียงรอยคาบเลือดหลงเหลืออยู่
นางสาวสมศรี (นามสมมติ) เพื่อนบ้าน เผยว่า เมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 19.50 น. กลุ่มเจ้าหนี้จำนวนหลายคนได้เดินเข้ามาในร้านอาหาร และเข้ามาทวงเงินภรรยาของผู้ก่อเหตุ แต่ภรรยาของผู้ก่อเหตุไม่อยู่ จึงทวงเงินกับผู้ก่อเหตุแทน ทางผู้ก่อเหตุพยายามประนีประนอมว่าไปกู้เงินจากที่ทำงานมาคืนให้ เพราะผู้ก่อเหตุเป็นทหาร แต่ผู้ตายมีอาการมึนเมาอยู่เลยไม่ยอมฟัง และด่าทอผู้ก่อเหตุ พร้อมกับปรี่เข้าไปชกต่อย ทั้งที่ผู้ก่อเหตุอุ้มหลานอายุประมาณ 1 ปีไว้
ตอนนั้นตนได้ยินแค่เสียงของลูกเลี้ยงที่ขอร้องให้หยุด ตนเลยรีบโทรศัพท์ไปแจ้งความ ซึ่งระหว่างที่โทรแจ้งความ ตนได้ยินเสียงปืนดังขึ้นประมาณ 3 นัด หลังจากที่เกิดเหตุยิง ทางกลุ่มของผู้ตายที่มาทวงเงินได้วิ่งหนีกระจัดกระจายออกจากที่เกิดเหตุ ส่วนผู้ก่อเหตุยังคงถือปืนตั้งการ์ดไว้ราวกับพยายามป้องกันตัว เกรงว่าจะมีคนเข้ามา จนตำรวจเข้ามาในพื้นที่ เหตุการณ์จึงสงบ
ทั้งนี้ตอนที่เกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุพยายามไกล่เกลี่ย และพูดจาดีมาก แต่อีกฝ่ายมากันเยอะ เลยน่าจะรู้สึกหวาดกลัว ก่อนหน้านี้ ตนไม่เคยเห็นกลุ่มคนมาทวงเงินเช่นนี้ แต่เท่าที่ทราบภรรยาของผู้ก่อเหตุนั้น ไปทวงเงินจำนวนหลายเจ้าอยู่เหมือนกัน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนรู้สึกกังวลใจ เพราะรุนแรงมาก และเป็นครั้งแรกที่เกิดเหตุถึงขั้นยิงกันตาย
เวลาประมาณ 17.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ก่อเหตุกลับมาที่ สภ.สัตหีบ หลังจากพาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล โดยระหว่างที่นำตัวเข้าห้องขังนั้น ทีมข่าวพยายามสอบถามว่า มีอะไรจะชี้แจง หรือขอโทษไหม แต่ทางผู้ตายปิดปากเงียบ และวิ่งหนีทีมข่าวอย่างเดียว โดยมีทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนคอยกันเพื่อดูแลความปลอดภัย
นางสมพร (นามสมมติ) อายุ 85 ปี แม่ของผู้ตาย เผยว่า เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ตนได้ขายที่ดินได้ และนำเงินไปแบ่งลูกทุกคน ซึ่งนายไพรัตน์ ผู้ตายได้เงินไปประมาณ 1.5 ล้านบาท หลังจากที่ได้เงินนั้นก็นำไปใช้จ่ายส่วนตัว แต่ด้วยความที่เป็นคนใจดี เลยมักจะมีคนแถวบ้านมายืมเงินเป็นประจำ และคาดว่าภรรยาของผู้ก่อเหตุก็น่าจะเป็นหนึ่งในนั้น
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนมองว่ารุนแรงเกินไป น่าจะพูดคุยกันดี ๆ เพราะนายไพรัตน์นิสัยดี มีน้ำใจ แต่เป็นคนปากร้าย และพูดเสียงดัง
Advertisement