จากกรณีนายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา มือปราบสัมภเวสี พร้อม น.ส.รภัสรณ์ ฤทธิธนไพบูลย์ หรือ น้ำฟ้า ภรรยา พร้อมทีมสื่อมวลชน ได้เข้าตรวจสอบภายในที่พักสงฆ์ดงสว่างธรรม ต.โคกนาโก อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร หลังมีคนร้องเรียนพร้อมนำคลิปวิดีโอที่หลวงปู่แสง ญาณวโร อายุ 98 ปี พยายามแตะเนื้อต้องตัวสีกาบนกุฎิมาเผยแพร่ ต่อมาเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของหมอปลาและภรรยา มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม หลังมีการชี้แจงว่าหลวงปู่แสงมีอาการป่วยอัลไซเมอร์ และถูกกระแสตีกลับว่าสิ่งที่หมอปลา และคุณน้ำฟ้าทำนั้นรังแกพระชราที่ป่วยหรือไม่
ด้านเฟซบุ๊ก "พุทธที่แท้จริง" โพสต์ข้อความว่า "แห่ save หลวงปู่แสงจากหมอปลากันเต็มเฟซ แต่ไม่ save หลวงปู่จากลูกศิษย์ หรือหมอปลาไม่ควรเข้าไปตั้งแต่แรก ปล่อยให้ลูกศิษย์ใช้หลวงปู่จับต้องสีกาเพื่อหาเงินแบบเงียบๆต่อไป ?"
นอกจากนี้ ยังมีคลิปวิดีโอจำนวนมากที่แชร์บนโลกออนไลน์ ขณะที่หลวงปู่แสงเอ็นดูเด็ก ๆ ที่เข้าไปหากราบไหว้ มีการเคาะหัวให้พร พูดคุยด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
ส่วนเฟซบุ๊กของ หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก วัดป่านาคำน้อย มีการโพสต์ว่า "หลวงตาท่านแสดงธรรมไป ท่านระลึกถึงเรื่องเก่าที่ท่านต่อสู้กับกิเลสที่วัดดอยธรรมเจดีย์ ในเทศน์กัณฑ์นั้น ท่านน้ำตาร่วง อันนี้ก็เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันไม่ใช่น้อยเหมือนกัน หลวงพ่อก็กลัวคนจะตกนรกเหมือนกันนะ จนถึงมีพระมาจากไต้หวัน มาพูดให้หลวงพ่อฟัง พูดไทยก็ไม่ชัดหรอกพระไต้หวัน “ท่านพระอาจารย์น้ำตาร่วงคราวนั้นนะรู้สึกว่าคนไต้หวันเขาว่าหลวงตามหาบัวไม่ใช่พระอรหันต์ ถ้าพระอรหันต์น้ำตาจะไม่ร่วง ไม่มีการเสียใจ ไม่การดีใจ พวกผมก็ไม่รู้จะทำยังไง ไม่รู้จะสอนเขายังไง” เราได้ฟัง “เออ! มันไม่ใช่เฉพาะแต่เมืองไทยอย่างเดียว มันทะลักไปถึงเมืองนอกเมืองนาเหมือนกัน
เรื่องนี้แต่ตามที่จริงหลวงพ่อพูดน่ะ หลวงพ่อก็ไม่ใช่พระอรหันต์หรอก หลวงพ่อนี่ชี้แนะแนวให้มองดู คำว่า ร้องไห้ของหลวงตานี่กับร้องไห้สำหรับปุถุชนมันคนละเรื่องกัน ถ้าหากว่าการร้องไห้ พระอรหันต์หัวเราะได้ไหม ถ้าใครยังหัวเราะอยู่แสดงว่าระงับอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ ไม่ใช่พระอรหันต์อย่างงั้นใช่ไหม พระอรหันต์ต้องไม่หัวเราะ ต้องไม่ร้องไห้ อยู่แบบซื่อบื้ออยู่เฉยๆ ใช่ไหม ก็ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น พวกครูบาอาจารย์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบถึงคราวดุท่านก็ดุ ถึงคราวด่าท่านก็ด่า ถึงคราวหัวเราะท่านก็หัวเราะได้ อันนี้เป็นเรื่องของขันธ์ เป็นเรื่องของอุปนิสัยบุญวาสนา
มีแต่พระพุทธเจ้าองค์เดียวที่ละบุญและวาสนาได้ พระพุทธเจ้านี่ ถ้าจะว่าไปท่านไม่ยิ้มนะ ท่านไม่หัวเราะ ท่านไม่หัวเราะเหมือนพระสงฆ์ทั่วๆ ไป อย่างพระพุทธเจ้าท่านไปเห็นสันติมหาอำมาตย์
อันนี้พระพุทธเจ้ายิ้มมีความหมายมีหลายๆ อย่างที่พระพุทธองค์ยิ้ม ที่นี่ที่พระพุทธเจ้าร้องไห้ เขาร้องไห้ก็ออกมาจากจุดเดียวไม่ใช่เหรอ จากใจดวงนั้น จากใจของท่าน ท่านเกิดความสลดสังเวชใจ อย่างท่านพระสารีบุตรถึงท่านจะเป็นอัครสาวกของพระพุทธเจ้า แต่ว่าท่านเดินข้ามคลองนี่ ท่านกระโดดนะ พระสงฆ์ทั้งหลายว่า อัครสาวกของพระพุทธเจ้าเป็นพระอรหันต์ ไม่น่าจะเดินแบบนี้ ไม่น่าจะกระโดดแบบนี้ แล้วพากันมากราบพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์บอกว่าพระสารีบุตรเคยเป็นลิงมาก่อน เพราะฉะนั้นไปที่ไหนชอบกระโดด เห็นคลองนี่กระโดดเลย เป็นนิสัยเก่า เป็นลิงติดภพติดชาติมารหลายร้อยชาติ เพราะฉะนั้นละไม่ได้ เพราะฉะนั้นการละบุญและวาสนาบารมี พระพุทธเจ้าพระองค์เดียวละได้ เปลี่ยนนิสัยตัวเองได้ นอกนั้นเปลี่ยนไม่ได้
หลวงพ่อเองเคยอยู่กับครูบาอาจารย์หลายๆท่านก็เคยเห็นอย่างนี้เหมือนกันนะ แต่หลวงพ่อไม่เคยตำหนิ แล้วก็ไม่เคยที่จะพูดไม่กล้าแสดงความคิดเห็น ที่ท่านทำอาการอย่างนั้น ท่านทำได้หลายๆ อย่าง
อย่างท่านอัสสชินี่ ลูกศิษย์พระพุทธเจ้าองค์สุดท้าย โกณทัญญะ วัปปะ มหานามะ อัสสชิ องค์อัสสชินะ พออายุแก่มา ท่านหลงลืม แต่ว่าอันที่จริงท่านก็รู้แก่ใจว่าการหลงลืมนั้นคืออะไร พระอรหันต์ท่านไม่ได้โง่เหมือนปุถุชนว่างั้นเถอะ แต่นี้กลัวปุถุชนนี่จะเป็นบาป พระลูกศิษย์ลูกหาปฏิบัติใกล้ชิดจะว่า เอ้า! ทำไมพระอรหันต์จึงได้หลงได้ลืมได้ ตามที่จริงพระอรหันต์ต้องมหาสติ มหาปัญญาต้องรอบรู้อยู่ตลอด แต่ทำไมท่านอัสสชิหลงลืม หลงลืมนั้น หลงลืมนี้ พระอัสสชิก็บอกว่า ท่านกราบพระพุทธเจ้าดูซิว่าทำไมเราจะหลงอย่างนี้ ขอให้ไปกราบทูลพระพุทธเจ้าด้วยว่าทำไมเราหลงอย่างนี้ ลืมอย่างนี้ พระอัสสชิให้มากราบทูลถามพระพุทธเจ้าว่าทำไมพระอัสสชิหลงลืม ทำไมเป็นพระอรหันต์แล้วจึงมีการหลงลืม
พระพุทธองค์บอกว่าให้ไปถามพระอัสสชิดูซิ อริยสัจสี่หัวใจของท่านน่ะ ท่านลืมไหม ถ้าหากว่าไม่ลืมนั่นล่ะ จุดนั้นน่ะคือพระอรหันต์ จุดอื่นนั้นเป็นเรื่องสังขาร ความจำได้หมายรู้เป็นสังขาร สัญญาก็เป็นอนิจจังเหมือนกัน สังขารา การปรุงแต่งก็เป็นอนิจจังเป็นสัญญา อนิจจาเหมือนกัน เพราะฉะนั้นสัญญาและสังขารเหล่านั้นไม่ใช่พระอรหันต์ แต่สิ่งที่เป็นพระอรหันต์คือ ท่านพิจารณาอริยสัจ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค เหตุที่เกิดทุกข์ ท่านหลงไหม จุดนั้นท่านลืมไหมจุดนั้น พระอัสสชิบอกว่า ไม่มีลืมเลย แน่นปึ๋งในหัวใจ อริยสัจในหัวใจแน่นปึ๋งไม่มีลืมไม่หลวงไม่ลืมตัวนั้นพอ จุดอื่นจะเป็นอย่างไรก็เป็นเรื่องสังขารสัญญาไป อย่าไปติดยึดกับสิ่งเหล่านั้น
ขอให้พวกเรามองหลายๆมุม มองหลายๆด้าน หลวงพ่อที่พูดในครั้งนี้เพื่อเป็นการให้พวกเราได้มองครูบาอาจารย์โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์หลวงตาของเรา ท่านน้ำตาร่วง บางคนดูถูกเหยียดหยามอย่างมาก แต่ถึงจะดูถูกอย่างไร เหยียดหยามอย่างไรหลวงตาก็อย่างเก่า ไม่มีปัญหา ความบริสุทธิ์ของท่าน ท่านก็ยืนยันอย่างเก่า แต่พวกเรามันแพ้เรานะ ถ้าหาว่าเราดูถูกไม่ถูกที่ถูกทาง แพ้เรา บาปกรรมตัวนั้นจะแพ้เรา ถ้าหากว่าใครประมาทพลาดพลั้งท่านละก็ ให้ยกมือไหว้ท่านซะ เพราะกายกรรม วจีกรรม มโนกรรมที่พวกเราได้ประมาทพลาดพลั้งครูบาอาจารย์ เพราะเราก็ไม่รู้ว่าท่านได้สำเร็จได้มรรคได้ผลอย่างไร
ขอให้เราอย่าได้ประมาทพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ความสุขความเจริญก็จะเกิดขึ้นในตัวของพวกเรา
ฉะนั้นขอฝากไว้กับญาติโยมที่มาฟังหลวงพ่อ ฟังแล้วก็นำไปคิดไปไตร่ตรองไปพิจารณา ถ้าจะว่าไปหลวงพ่อดึงกระตุกแขนพวกเราอย่าตกนรกนะที่ว่าคำพูดของหลวงพ่อวันนี้บอกว่าพวกเราผลักหน้าอกไว้ ดึงแขนเอาไว้ อย่าลงนรกนะต้องคิดดูให้ดี
หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
จากพระธรรมเทศนา "มองรอบจึงเข้าใจชอบองค์หลวงตา"
แสดงธรรมเมื่อวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๔๘
สำหรับประวัติของ “หลวงปู่แสง” ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Gai Areerath” ระบุว่า ตนเป็นหลานสายตรงของหลวงปู่แสง ญาณวโร ได้เผยข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า “ประวัติหลวงปู่แสง ญาณวโร เพิ่มเติม ท่านได้เกิดในตระกูลนักบุญสายวัดป่า” พ่อแม่ ขายไร ขายนา ให้ลูกๆได้ออกบวช เป็นตระกูลที่มีจิตใจในธรรมะ ฝึกจิตให้ผ่องใส ตามทันจิตของตัวเอง และบำรุงพระพุทธศาศนา ทั้งตระกูล
หลวงปู่แสงท่านมีจิตใจฝึกจิตกรรมฐานตั้งแต่ท่านเด็กก่อนท่านจะบวช มีพ่อชื่อ หลวงปู่บุญเพ็ง มรณภาพในผ้าเหลือง แม่ชื่อ อ้ม ดีหอม หลวงปู่มีพี่น้องทั้งหมด 6 คน หลวงปู่แสง เป็นคนที่ 4
ครอบครัวประกอบด้วย 1.หลวงปู่คำ มรณภาพ 2.ยายทองแดง เสียชีวิตแล้ว 3.แม่ชีแพง เสียชีวิตขณะเป็นแม่ชี 4.หลวงปู่แสง ญาณวโร อายุ 97 ปี 5.พระอาจารย์นวล มรณภาพช่วงอายุ 30 กว่าปี 6.แม่ชีสวน เสียชีวิตขณะเป็นแม่ชี 7.พ่อมี ดีหอม เสียชีวิตแล้ว 2 ปี พวกเราเป็นลูกหลานตามี
Advertisement