พ่อใจสลายลูกเล็กดับปริศนา 2 ศพ เชื่อฝีมือเขยแค้นหนี้พันสอง เมียโต้ล้มตายเอง (คลิป)
กรณีวันที่ 3 พ.ค. 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางมะเดื่อ จ.สุราษฎร์ธานี จับกุมนายเอกวัฒน์ ขวัญจันทร์ หรือ โอ้ต อายุ 20 ปี หลังก่อเหตุทำร้ายร่างกายเด็ก 2 คน อายุ 3 ขวบกับ 2 ขวบ เสียชีวิตทั้งคู่ ผู้ต้องหามีศักดิ์เป็นพี่เขยกับเด็กที่ตาย ครอบครัวได้มาร้องเรียนกับทางนางปวีณา หงสกุล เพื่อช่วยประสานตำรวจให้จับกุมตัวได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ได้แก่ ด.ช.ซูโม่ อายุ 2 ขวบ เสียชีวิต 24 มี.ค. 65 ผลชันสูตรออกมาว่าตับแตก มีรอยช้ำลำตัว หน้าอก และ ด.ช.เปเล่ อายุ 3 ขวบ เสียชีวิต 19 เม.ย. 65 สาเหตุการตาย มีอาการบาดเจ็บที่บริเวณหลัง จากการสังเกตของแม่คนตายพบมีรอยช้ำ และบาดแผลตามลำตัว หน้าอก
วันที่ 4 พ.ค. 65 นายศักดิ์ดา มีอนันต์ อายุ 33 ปี พ่อของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตัวเองมาทราบช่าวว่าเด็กชายซูโม่เสียชีวิต หลังจากที่ลูกเสียชีวิตไปแล้ว 1 วัน เสียชีวิต 24 มี.ค. 65
จากนั้นตัวเองจึงเดินทางมาทีบ้านหลังเกิดเหตุ แต่ก็ไม่ทันงานฝังศพซูโม่ ลูกคนเล็กของตัวเอง ซึ่งตอนนั้นตัวเองก็ได้สอบถามนางสาวอ้อมเดือน อดีตภรรยา เป็นแม่ของเด็กว่าน้องซูโม่ว่าเสียชีวิตเพราะอะไร เขาก็บอกว่า ตกเก้าอี้ล้มทับเหล็กตับแตกตาย
ด้วยความที่ตัวเองสงสัย จึงสอบถามเด็กชายคทาวุธ ลูกคนที่ 3 ตอนนั้นยังไม่เสียชีวิตว่าทำไมซูโม่ถึงตาย เด็กชายคทาวุธ จึงเล่าให้ตัวเองฟังว่า นายโอ้ตเป็นคนทำน้องซูโม่ แล้วเด็กชายคทาวุธยังบอกตัวเองต่อว่าเขาก็เคยถูกนายเอกวัฒน์ หรือ โอ้ต เอาท่อนไม้มาตีตามร่างกายอีกด้วย วันนั้นตัวเองก็สังเกตเห็นบาดแผลรอยฟกช้ำตามร่างกายเด็กชายคทาวุธ จึงพาเขาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล กระทั่งคทาวุธ รักษาตัวถึงวันที่ 19 เม.ย. 65 ต่อมาเขาก็มาเสียชีวิตเป็นรายที่ 2
ส่วนสาเหตุที่นายโอ้ต ทำร้ายร่างกายลูกชาย 2 คนของตัวเองนั้น ตัวเองคิดว่าน่าจะมาจากสาเหตุที่นายโอ้ตเขาไม่พอใจอดีตภรรยาตัวเอง เรื่องยืมเงิน 1,200 บาท ตัวเองอยากให้คนก่อเหตุถูกดำเนินคดีให้ถึงที่สุด สำหรับลูกชายทั้ง 2 คนของตัวเองเป็นเด็กน่ารักยิ้มแย้ม ตัวเองคิดถึงลูกมาก
ส่วนผลชันสูตรของเด็กชายซูโม่ ลูกชายคนเล็กของตัวเอง ที่ออกมาว่า ตับแตก ตัวเองก็คิดว่า ลูกชายคงถูกทำร้ายมาอย่างหนัก และคิดว่าเขาทำเกินกว่าเหตุ แค่เงิน 1,200 บาท ทำไมเขาถึงทำกับเด็กได้เพียงนี้ ที่ตัวเองร้องเรียนมูลนิธิปวีณาฯ เพราะตัวเองอยากได้รับความเป็นธรรม ตัวเองเห็นแผลแล้วไม่เขื่อว่าลูกไปล้มใส่เหล็ก กระทั่งมูลนิธิวีณามีการประสานมายังตำรวจในท้องที่จึงสามารถคุมตัวผู้ก่อเหตุได้ในวันที่ 3 พ.ค. 65 ที่ผ่านมา
นายศักดิ์ดา กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตัวเองอยากจะขอขอบคุณมูลนิธิปวีณาฯ ที่เข้ามาช่วยเหลือครอบครัวตัวเอง เพราะถ้าไม่ได้มูลนิธิปวีณา คดีนี้คงจับคนร้ายไม่ได้
นางสาวอรพิม อายุ 17 ปี แฟนสาวของคนก่อเหตุ และพี่สาวของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย กล่าวว่า ตัวเองไม่เคยเห็นนายเอกวัฒน์ ทำร้ายร่างกายน้องชายทั้ง 2 คนของตัวเองแม้แต่ครั้งเดียว ส่วนใหญ่นายเอกวัฒน์เขาจะแค่ตีขาน้องของตัวเองเพื่อสั่งสอนเท่านั้น ซึ่งตัวเองก็ตีสั่งสอนน้อง ๆ เหมือนกัน
ส่วนบาดแผลตามร่างกายน้องนั้น ตัวเองก็ไม่เคยเห็นมาก่อน ทีมข่าวจึงเปิดบาดแผลที่หลังของเด็กชายคทาวุธให้นางสาวอรพิมดู เจ้าตัวก็บอกว่า แผลดังกล่าวเกิดเมื่อเดือน มี.ค. ซึ่งเด็กชายคทาวุธได้วิ่งไปล้มใส่แท่งเหล็กที่มีความร้อน จึงทำให้เกิดบาดแผลที่หลัง แต่บาดแผลส่วนอื่น ๆ ตัวเองก็ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร ส่วนที่ว่าแฟนตัวเองไม่พอใจแม่ขอตัวเองนั้น ตัวเองขอชี้แจงว่ามีแต่แม่ตัวเองต่างหากที่ไม่พอใจแฟนหนุ่มของตัวเอง
ทั้งนี้ ตัวเองก็ขอยืนยันว่า แฟนหนุ่มของตัวเองไม่ได้ทำร้ายร่างกายจนให้น้องของตัวเองเสียชีวิต เพราะตัวเองจะไปไหนมาไหน กบแฟนตลอด ซึ่งไม่เคยเห็นเขาทำร้ายน้องเลย
Advertisement
