เปิดปากโจ๋บุกยิงอริใน รพ. อ้างเอาคืนถูกตีก่อน ป้องแฟนไม่เกี่ยว เพื่อนพาหนีส่อซวยข้อหาหนัก (คลิป)
จากกรณีนายบุญญฤทธิ์ พลขันธ์ หรือ บิว อายุ 21 ปี ก่อเหตุใช้ปืนบุกเข้าไปยิง นายสุริยชัย สุนันทนาม หรือ หำ อายุ 21 ปี 4 นัดซ้อนเสียชีวิตคาห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลปากคาด อำเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬ ซึ่งหลังเกิดเหตุ นายบุญญฤทธิ์ มือยิงได้หลบหนีไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลกาฬสินธ์ ก่อนถูกตำรวจรวบตัวได้เมื่อเมื่อช่วงเย็น วันที่ 9 เม.ย. 65
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 10 เม.ย. 65 ช่วงเช้าตำรวจชุดสืบสวน สภ.ปากคาด ได้เดินทางไปรับตัวนายบุญญฤทธิ์ พลขันธ์ หรือ บิว มือยิง และนายชลิต แมงไธสง หรือ ก้อง รุ่นน้องที่พาหลบหนี กลับมาสอบปากคำที่ สภ.ปากคาด
นายบุญญฤทธิ์ ผู้ก่อเหตุ เปิดใจหลังถูกจับกุมว่า ตนเองเป็นผู้ลงมือยิงนายสุริยชัยจริง เนื่องจากโกรธแค้นที่ถูกนายสุริยชัยและพวก เข้ามาชกหน้า และใช้ขวดเบียร์ที่แตกเป็นปากฉลาม แทงเข้าที่แขนและหัวไหล่ซ้ายจนได้รับบาดเจ็บก่อน ขณะนั้นตนเองพยายามเข้าไปช่วยพรรคพวกกลุ่มตนเองที่ถูกฝั่งนายสุริยชัยหาเรื่องก่อนที่ร้านเหล้า ต่อมาตนเองเมื่อทราบว่าอีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล จึงเกิดความแค้น กลับไปเอาปืนที่บ้าน โดยขอให้เพื่อนคือนายประวิทย์ ขันติวงค์ หรือ ทัด ขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งที่โรงพยาบาล และเมื่อเห็นนายสุริยชัยนอนอยู่บนเปลหน้าห้องฉุกเฉิน ด้วยความโกรธแค้นที่ทำตนเองเจ็บ จึงชักปืนจ่อยิงทันที ยอมรับว่า ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ และสติหลุด ไม่คิดว่าอีกฝ่ายโดนยิงแล้วจะตาย
หลังก่อเหตุเสร็จด้วยความกลัวจึงบอกให้นายประวิทย์ขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งที่บ้าน เข้ากราบเท้ายาย สารภาพผิด และเปลี่ยนรถจักรยานยนต์ของนายประวิทย์ หลบหนีต่อไปที่บ้านญาติในจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมีนายชลิต แมงไธสง หรือ ก้อง เป็นคนขี่รถจักรยานยนต์พาหนี โดยตลอดระยะทางกว่า 260 กิโลเมตร แผลที่ตนเองถูกทำร้ายเลือดไหลไม่หยุด แต่บอกใครไม่ได้ พยายามอดทน เมื่อไปถึงจังหวัดกาฬสินธ์ุ ตนเองกะว่าจะเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเย็บแผลและหายดีแล้วจะติดต่อเข้ามอบตัวตำรวจ แต่ถูกตำรวจตามมาจับตัวได้ก่อน
ตนเองยืนยันว่าปมเหตุที่ทะเลาะกันนั้น เกิดจากอีกฝ่ายเข้ามาหาเรื่องรุ่นน้องตนเองก่อน ตนเองจึงเข้าไปช่วยเท่านั้น ไม่ใช่แฟนสาวของตนเองถูกอีกฝ่ายจับแขนหรือกอดคออย่างที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้ แฟนของตนเองไม่เกี่ยว พร้อมกับขอโทษทุกคน ทั้งเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ตำรวจ และครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย ที่ก่อเหตุยิงในโรงพยาบาล ตนเองคิดน้อยไปหน่อย
นายประวิทย์ ขันติวงค์ หรือ ทัด คนขี่รถจักรยานยนต์พานายบุญญฤทธิ์ไปส่งโรงพยาบาล เปิดใจว่า ตนเองเป็นคนพานายบุญญฤทธิ์ ไปส่งโรงพยาบาลจริง แต่ที่พาไปเพราะตั้งใจจะพาเพื่อนไปรักษาแผล เพราะถูกฝ่ายผู้ตายเอาขวดเบียร์ปากฉลามแทงบาดเจ็บเท่านั้น ไม่คิดว่าเพื่อนจะพกปืนเตรียมเอามาด้วย
ตอนนั้นตนเดินเข้าไปส่งเพื่อนหน้าห้องฉุกเฉิน จากนั้นนายบุญญฤทธิ์ได้บังเอิญไปเจอกับนายสุริยชัยที่กำลังนอนบนเปลคนเจ็บหน้าห้องฉุกเฉินพอดี ตนเองตกใจมากที่เห็นเพื่อนชักปืนจากเอวจ่อยิงนายสุริชัย ได้แต่ยืนดูและตกใจมาก จากนั้นนายบุญญฤทธิ์ได้ขอให้พาไปส่งที่บ้าน เพื่อจะกราบเท้ายายและสารภาพผิด
นายชวลิต แมงไธสง หรือ ก้อง ซึ่งเป็นคนขี่รถจักรยานยนต์พานายบุญญฤทธิ์หนีไปที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดใจว่า หลังจากนายบุญญฤทธิ์ก่อเหตุเสร็จ ได้โทรศัพท์มาหาตนเองให้ช่วยพาไปส่งที่บ้านญาติในจังหวัดกาฬสินธุ์ ตนเองจึงเดินทางไปหานายบุญญฤทธิ์ที่บ้าน และเปลี่ยนรถจักรยานยนต์จากรุ่น ฮอนด้าเวฟ 110i สีดำแดง รถที่นายประวิทย์ ขี่พาไปก่อเหตุ เปลี่ยนเป็น ยามาฮ่า R15 สีดำ ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์บิ๊กไบก์ของนายประวิทย์ ซึ่งเป็นรถที่ทำความเร็วได้ดีกว่า ขี่พานายบุญญฤทธิ์หนีแทน แต่เมื่อถึงจังหวัดกาฬสินธุ์ เลือดที่แขนของเพื่อนไหลไม่หยุดและเริ่มไม่ไหวแล้ว จึงพาเพื่อนไปรักษาที่โรงพยาบาลหนองกรุงศรี และส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลกาฬสินธ์ุ ก่อนจะถูกตำรวจจับกุมตัวได้ในที่สุด ตนเองอยากขอโทษทุกคนที่สร้างความเดือดร้อน ตนรู้สึกผิดเช่นกันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นางสาวบี (นามสมมติ) อายุ 28 ปี แฟนสาวผู้ก่อเหตุ เปิดใจว่า ตนเองเพิ่งคบหากับนายบุญญฤทธิ์ ได้เพียง 2 เดือน โดยต้นเหตุที่ทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายยกพวกทะเลาะกัน ตนเองไม่เกี่ยวข้อง และตนเองก็ไม่เคยเป็นอดีตแฟนสาวของนายสุริยชัยด้วย คาดว่าน่าจะเกิดจากความเข้าใจผิดมากกว่า วันเกิดเหตุยอมรับว่าเดินทางไปที่ร้านเหล้าด้วยกับแฟนหนุ่มจริง แต่ไม่ได้นั่งโต๊ะเดียวกัน ระหว่างที่นั่งอยู่ ตนเองเห็นแฟนหนุ่มมีเรื่องกับวัยรุ่นอีกกลุ่ม และพบว่าแฟนหนุ่มบาดเจ็บ จึงได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามไปที่โรงพยาบาล โดยตนเองไม่คิดว่า แฟนจะกลับไปเอาปืนที่บ้านและเอามายิงคู่อริ ตอนนั้นยืนดูแฟนอยู่หน้าทางเข้าโรงพยาบาล ตนเองตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูก หลังก่อเหตุเสร็จแฟนรีบหลบหนีไปทันที ได้พูดคุยกันตลอดว่าจะเข้ามอบตัว แต่ไม่รู้ว่าแฟนหนีไปไหน ก่อนที่แฟนจะถูกจับ ตนเองเสียใจมากที่แฟนตัดสินใจแบบนี้
พลตำรวจตรีธรรมจักร คงมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ เปิดเผยว่า ล่าสุดตำรวจได้จับกุมตัวผู้ต้องทั้งหมดมาลงโทษครบทุกคนแล้ว โดยนายบุญญฤทธิ์ พลขันธ์ ผู้ก่อเหตุมือปืน ถูกแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง และพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยนายบุญญฤทธิ์ ถูกโทษหนักสุดถึงขั้นประหารชีวิต เนื่องจากก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยมในโรงพยาบาล
ส่วนนายชลิต แมวไธง ผู้ที่ขี่รถจักรยานยนต์พาผู้ก่อเหตุหลบหนี ถูกแจ้งข้อกล่าวหา ช่วยเหลือผู้อื่นซึ่งเป็นผู้ต้องหากระทำความผิด เพื่อไม่ให้รับโทษ มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ, นายประวิทย์ ขันติวงค์ ผู้ที่พาผู้ก่อเหตุไปโรงพยาบาลก่อนจะก่อเหตุยิงคนตาย เบื้องต้นถูกแจ้งข้อหาเสพยาเสพติดเอาไว้ก่อน และอยู่ระหว่างสอบปากคำเพิ่มเติม หากพบความผิดจะแจ้งข้อหาเพิ่มต่อไป
ส่วนอาวุธปืนที่ผู้ก่อเหตุใช้ หลังก่อเหตุนายบุญญฤทธิ์ได้มอบให้นายประวิทย์ นำไปฝังดินไว้ที่สวนยางพาราหลังบ้าน ซึ่งตำรวจได้ตามไปเอาเอาวุธปืนของกลางมาเมื่อช่วงเช้าวันนี้ อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์สลดที่เกิดขึ้นตนเองได้กำชับและประชุมหารือเจ้าหน้าที่ทุกส่วน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก โดยจะเพิ่มความเข้มงวดในการดูแลความปลอดภัยในโรงพยาบาลมากยิ่งขึ้น เพราะครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ที่โรงพยาบาลถูกกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่บุกมาทำร้ายคนไข้
Advertisement
