สืบเนื่องจากกรณี วันที่ 7 มี.ค.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจ แถลงความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของดาราสาว “แตงโม นิดา” โดยช่วงหนึ่งของการแถลงข่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า “เคยสอบถามโรเบิร์ต แต่ไม่ได้อยู่ในสำนวน โดยโรเบิร์ตบอกว่าเขาไปต่อผมมา เขาเปิดรูปเก่าให้ดูหัวล้าน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะขอเก็บ DNA กับ เส้นผม ซึ่งเขาหวงมากให้เหตุผลก็เลยเอารูปมาดูกัน” ท่ามกลางโลกโซเชียลเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ถึงประเด็นดังกล่าวสนั่น
กระทั่งเมื่อวันที่ 8 มี.ค. 65 ไฮโซปอและโรเบิร์ต เตรียมบวชอุทิศส่วนกุศลให้กับแตงโม ในวันที่ 16 มี.ค.65 ขณะที่ พล.ต.ต.อุดร ยอมเจริญ รองผบช.ภ.1 กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า แม้ไฮโซปอและโรเบิร์ตจะเป็นผู้ต้องหา แต่เมื่อได้รับการประกันตัว และไม่มีทีท่าว่าจะหลบหนี ทางตำรวจก็เป็นสิทธิ์ของทั้ง 2 คนที่จะสามารถทำการบวชได้ แต่ในเรื่องของสงฆ์ต้องเป็นไปตามระเบียบของสงฆ์ว่าสามารถทำได้หรือไม่ ด้านนักแสดงสาว "อ๋อม สกาวใจ" คอมเมนต์ในประเด็นข่าวดังกล่าว พร้อมรีบเบรกเอี๊ยดถาม “โรเบิร์ต” ว่า “เดี๋ยว!!!ต้องโกนผมนะ!!!รักผมไม่ใช่หรอ?!?!”
ล่าสุด วันที่ 9 มี.ค. 65 อ๋อม สกาวใจ เปิดเผยว่า จากที่ได้ติดตามข่าวมา เห็นการแถลงข่าวของตำรวจช่วงหนึ่ง ตำรวจพูดว่าโรเบิร์ตหวงผมเพราะไปปลูกผมมา ไม่สามารถนำไปตรวจ DNA ได้ ต่อมาเขาก็บอกจะไปบวช ตนเลยแปลกใจว่าหากไปบวชมันจะต้องโกนผม แล้วการที่บอกห่วงผมมากและจะไปบวชตนเลยรู้สึกว่ามันย้อนแย้ง
ตนไม่ทราบเหมือนกันว่าเมื่อใครกระทำผิดอะไรมา ทำไมต้องไปบวช ตนสงสัยว่าคนที่ต้องคดีอยู่และยังไม่คลี่คลายทางพุทธศาสนาให้บวชได้เหรอ และตนก็งงเหมือนกันว่าทำไมเมื่อใครมีอะไรเอะอะก็ไปบวช หรืออาจจะเป็นการเยียวยาสภาพจิตใจเขาหรือเปล่า ตนก็ไม่รู้ จากที่ตนทราบมาพระพุทธศาสนาไม่ได้สอนให้คนทำผิดแล้วไปบวช ความผิดที่ทำมาก็จะหาย มันจะต้องอยู่ที่กระบวนการของกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม ส่วนตัวมองว่าผิดก็ต้องเป็นไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูก หากพวกคุณไม่ได้กระทำผิดก็พูดไปเลย ไม่ใช่หนีไปบวชมันก็ไม่ถูก ให้เคลียร์ตัวเองได้ก่อนถึงค่อยจะไปบวช
ตนเดาไม่ออกเลยว่าคดีนี้จะจบอย่างไร แต่เห็นว่าทุกคนต่างช่วยกัน ไม่ว่าจะเป็นชาวเน็ตหรือคนที่รักแตงโม ก็ช่วยกันหาหลักฐาน หาข้อมูล ส่วนเรื่องคดีตนไม่รู้จริง ๆ ตนเป็นแค่ผู้ตามข่าว ตอนนี้ก็มีประเด็นหลายอย่างจนงงไปหมดแล้ว และตนก็อยากให้ทุกเหตุการณ์ในบ้านเรามันเกิดความยุติธรรม ไม่ใช่แค่คดีของแตงโมเท่านั้น บางคดีก็เงียบไปแล้ว เราอยากจะเห็นความยุติธรรมในทุกเคสเลย
สอบถาม นายจตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการด้านศาสนา เปิดเผยว่า การบวชได้หรือไม่นั้น ตามระเบียบของมหาเถรสมาคม อุปัชฌาย์ไม่พึงบวชให้กับบุคคลที่มีโทษทางกฎหมาย เทียบกับตำรวจที่ขับรถชนหมอกระต่าย การบวชไม่ได้คือไม่ได้ ไม่ควรจะไปตื้อให้บวช รวมถึงพระอุปัชฌาย์เองก็ไม่ควรหาเรื่องบวชให้ ไม่ว่าจะด้วยลาภยศอะไร ซึ่งก็ถือว่ามีความผิด
ซึ่งการบวชของผู้ต้องหา ตนเองมองว่าวัดสามารถปฏิเสธได้ เนื่องจากยังมีความสงสัยทางกฎหมาย อีกทั้งยังสงสัยในความศรัทธาอีกด้วย เนื่องจากมีข้อสงสัยการนับถือศาสนา เพราะศาสนาพุทธไม่ควรเป็นที่ฟอกตัวให้ใคร การดึงดันว่าจะบวชอาจจะเป็นการหวังผลทางกฎหมาย ซึ่งอาจต้องการให้การบวชนั้นไปอยู่ในสำนวนของตำรวจ หรืออยู่ในสำนวนก่อนอัยการสั่งฟ้อง ถือเป็นการหวังผลทางกฎหมาย เพราะต้องการให้ศาลท่านเห็น พิจารณาเพื่อเมตตาบรรเทาโทษ
ส่วนตัวมองว่าเราไม่ควรใช้ศาสนาใดในการฟอกตัวลดโทษ หากผู้ต้องหารู้สึกผิดจริงสำนึกจริง ควรเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก่อน และมีการอนุมัติประกันตัวแล้วคุณค่อยมาบวชก็ได้ อย่างน้อยถือเป็นการบวชภายใต้คำสั่งศาลระหว่างประกันตัว จะทำให้ตัวผู้ต้องหาดูดีกว่าในสถานการณ์เช่นนี้ การกระทำเช่นนี้ไม่ใช่เจตนาของคนสำนึกหรือยอมรับผิด แต่เป็นเจตนาของคนรู้กฎหมายเพื่อได้ประโยชน์ทางกฎหมาย
ทีมข่าวมีโอกาสโทรไปพูดคุยกับน้องชายแท้ ๆ ของปอ เปิดเผยว่า ตนเองได้ติดต่อหาปอ เพื่อสอบถามเรื่องอุปสมบท และประเด็นที่ว่าวัดท่าไม้ไม่ให้ปอและโรเบิร์ตอุปสมบท แต่ปอยังไม่รับโทรศัพท์ ตนก็ยังไม่ทราบรายละเอียดเรื่องนี้ ส่วนกรณีที่มีการ์ดหมายกำหนดการอุปสมบทของปอตามที่สื่อเสนอข่าว "ไม่มีหรอก ลองคิดถึงความเป็นจริง นาทีนี้ถ้าจะบวช ปอจะเชิญคนอื่นไหม ผมว่าไม่มีหรอก" ส่วนที่สื่อเสนอว่าปอจะบวชพราหมณ์ ตนเองก็ไม่รู้ ถ้าถามผมก็ไม่รู้จะคุยอย่างไร เพราะตอนนี้ทุกคนเหนื่อยกันหมด หากมีรายละเอียดอะไรจะแจ้งให้ทราบ "ตอนนี้คุณพ่อสุขภาพไม่ค่อยดี เพราะเพิ่งออกจากโรงพยาบาลมาไม่นาน ระหว่างที่ป่วยรักษาตัวอยู่นั้นก็เกือบเสียชีวิต ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและคดีของปอ หรือปอจะบวชอย่างไรนั้นเดี๋ยวค่อยมาว่ากัน ขอเวลาให้ครอบครัวผมหน่อย"
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปที่วัดท่าไม้ ใน ต.ท่าไม้ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร บรรยากาศที่วัดมีญาติโยมมาทำบุญที่วัดปกติ แต่ช่วงเช้าทางเจ้าอาวาสยังไม่ได้เดินทางกลับมาที่วัด
จากข้อมูล หลวงพี่อุเทน เจ้าอาวาสวัดท่าไม้ ยอมรับว่าปอและโรเบิร์ต ติดต่อขอบวชจริง แต่เป็นการบวชพราหมณ์แบบอินเดียสมัยก่อน เป็นการโกนผมทั้งคู่ โดยจะปลงผมในวันที่ 16 มีนาคม เวลา 14.00 น. หลวงพี่อุเทนเป็นผู้บวชให้ หลังจากนั้นจะไปเดินธุดงค์กับหลวงพี่อุเทน ที่สำนักปฏิบัติธรรมพุทธสถานวิโมกสิวาลัย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี เป็นเวลาอย่างต่ำ 15 วัน การแต่งกายจะเป็นชุดขาว ถือศีล 8 ไม่ทานข้าวเย็น โดยเหตุผลที่รับบวชให้นั้น เพราะทั้งคู่ตั้งใจบวชอุทิศส่วนกุศลให้กับแตงโม โดยมีโยมพามาขอบวช
เมื่อเวลา 07.00 น. ที่บริเวณองค์พระปฐมเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม กลุ่มของนายปอร์และโรเบิร์ตมาไหว้พระที่องค์พระปฐมเจดีย์ พระร่วงโรจนฤทธิ์ พระศิลาขาว พระอุโบสถองค์พระปฐมเจดีย์ เพื่อเป็นสิริมงคล
ลุงเปี๊ยก (นามสมมติ) ชาวบ้านที่มาปฏิบัติธรรมที่วัด ให้ข้อมูลว่า เรื่องที่มีข่าวว่านายปอ และนายโรเบิร์ต มาพบท่านเจ้าอาวาส เพื่อปรึกษาเรื่องบวช ส่วนตัวเห็นเขาทั้ง 2 คนมาที่วัดจริง เมื่อประมาณ 2-3 วันก่อน ซึ่งวันนั้นเห็นมาด้วยกัน 5-6 คน เป็นผู้ชายทั้งหมด มาถึงก็เดินไหว้พระทำบุญรอบวัด ก่อนจะเดินเข้าไปพบท่านเจ้าอาวาสในกุฏิ ปรึกษาเรื่องบวช ซึ่งตนเองก็ไม่รู้ว่าเขาทั้ง 2 คนจะบวชได้หรือไม่ได้ เนื่องจากตัวเองก็ไม่ได้ไปอยากยุ่งเรื่องของเขา
ด้าน นางวันเพ็ญ แม่ค้าขายอาหารตามสั่ง ที่อยู่บริเวณหน้าวัดท่าไม้ บอกว่า ในฐานะที่เป็นคนในพื้นที่ ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกอะไรเพราะรู้อยู่แล้วว่าพระอุปัชฌาย์ไม่บวชให้กับคนที่มีคดีอยู่ แต่ถ้าจะมาบวชพราหมณ์ เพื่อปฏิบัติธรรมใครก็ทำได้ ซึ่งการบวชพราหมณ์ของทั้งคู่ มีกำหนดการมาบวชที่วัดท่าไม้จริง และหลังจากบวชเสร็จทั้งคู่ก็ไม่ได้มาปฏิบัติธรรมถือศีลยู่ที่นี่ เนื่องจากทางวัดมีสถานที่ปฏิบัติธรรม ที่สร้างเอาไว้รองรับคนที่บวชพราหมณ์ อยู่ที่สำนักปฏิบัติธรรมพุทธสถานวิโมกสิวาลัย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ชาวบ้านในพื้นที่ ยังไม่มีใครออกมาต่อต้านเรื่องนี้ อีกทั้งไม่เคยมีใครรู้จักหรือเคยเห็นทั้งคู่มาก่อน เพราะทั้งคู่ไม่ได้เป็นดาราหรือเป็นคนที่มีชื่อเสียง ชาวบ้านในพื้นที่ก็เพิ่งมารู้จักก็ตอนที่เป็นข่าวโด่งดังในขณะนี้
ด้านพระครูศิริสาครธรรม เจ้าอาวาสวัดท่ากระบือ เปิดเผยว่า พระเลขาของหลวงพี่อุเทน วัดท่าไม้ ได้ติดต่อมาหาเพื่อจะให้อาตมาไปเป็นพระอุปัชฌาย์ปอและโรเบิร์ตจริง ซึ่งอาตมาได้ติดตามข่าวสาร เห็นว่าทั้ง 2 คนมีคดีความในคดีการเสียชีวิตของแตงโม จึงปฏิเสธแจ้งกับพระเลขาเจ้าเอาวาสวัดท่าไม้ไปว่าไม่สามารถอุปสมบทให้ได้ การที่ทั้งคู่มีคดีความอุปสมบทเป็นพระ อาตมามองว่าไม่เหมาะสม ขาดคุณสมบัติในการบวชเป็นพระ ตามระเบียบมหาเถระสมาคมถือว่าเป็นบุคคลต้องเว้นบวชไม่ได้ แต่หากจะบวชต้องไปจัดการเรื่องคดีความให้เรียบร้อยก่อน
สำหรับการที่จะบวชพราหมณ์ นุ่งขาวห่มขาวถือศีล 8 ปฏิบัติธรรมก็สามารถทำได้ จะนุ่งขาวไปให้ปากคำกับตำรวจหรือขึ้นศาลก็สามารถทำได้เพราะถือว่ายังเป็นฆราวาส หากพระอุปัชฌาย์หรือวัดใดบวชให้ก็อาจมีข้อครหาผิดกฎสงฆ์ คนจะมาบวชต้องเป็นผู้ปราศจากบรรพชาโทษ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สายลึกลับโทรฯ แนะ ทนายกฤษณะ ดูแผลที่ศีรษะ แตงโม คล้ายถูกขวดไวน์ตี
- ทนายตั้ม โพสต์คลิป หลักฐานสำคัญชิ้นใหม่ ช่วยกันดูเกิดอะไรขึ้นบนเรือ?
- ชาย อานันท์ทวีป เผยจุดสำคัญอีกหนึ่งจุด กุญแจที่ช่วยไขปริศนาคดี แตงโม นิดา
Advertisement