จากเหตุการณ์ "แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์" นักแสดงสาวชื่อดัง พลัดตกจากเรือกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงใต้สะพานพระราม 7 ท่าเรือพิบูลสงคราม เขตจังหวัดนนทบุรี ระหว่างล่องเรือกับเพื่อน ๆ คืนวันที่ 24 ก.พ. 65 กระทั่งพบร่างของแตงโม เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 26 ก.พ. 65 ล่าสุด 27 ก.พ. 65 ผู้จัดการของดาราสาว เปิดเผยถึงสาเหตุเพราะไปปัสสาวะท้ายเรือทำให้พลัดตกนั้น
เฟซบุ๊ก "คริสตจักรแห่งความสุข" ย่านถนนสุขุมวิท เผยแพร่กำหนดการพิธีไว้อาลัยสาวแตงโมแล้ว ระบุว่า พิธีไว้อาลัยคุณแตงโม ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ วันที่ 11-13 มีนาคม 2565 เวลา 18.30-20.00 น. โดยแต่งกายโทนสีขาว ชมพู และโอลด์โรส
ด้านดาราสาว "อั้ม พัชราภา" รุ่นพี่ในวงการที่สนิทกับแตงโมมายาวนาน โพสต์อินสตาแกรม ระบุว่าขอเป็นเจ้าภาพงานศพให้กับแตงโม พร้อมโพสต์ภาพคู่กัน แคปชั่นว่า “พี่อั้ม-พี่เอ พร้อมเป็นเจ้าภาพส่งแตงโมให้ดีที่สุด"
ล่าสุด "โม อมีนา" น้องสาวคนสนิทของแตงโม เผยว่า "พี่เอ ศุภชัย และพี่อั้ม พัชราภา แจ้งว่าขอดูแลรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกอย่าง จะเปลี่ยนดอกไม้กี่ชุดเอาให้สวยงามที่สุด พี่เอกับพี่อั้มจะซัพพอร์ตตรงนี้เอง ซึ่งคุณแม่ของพี่โมก็รับทราบแล้ว Cr. วันบันเทิง #aumpatchrapa #aum _patchrapa #อั้มพัชราภา"
กลายเป็นคลิปไวรัลที่ทำให้ซึ้งและเศร้า สำหรับคลิปสุดท้ายของนักแสดงสาว "แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์" ซึ่งเป็นคลิปที่เจ้าตัวร้องเพลง "จากนี้ไปจนนิรันดร์" บนเรือ โดยต้นฉบับเป็นเพลงของ เอ๊ะ จิรากร สมพิทักษ์ ที่แตงโมได้ร้องคัฟเวอร์เพื่อเป็นเพลงประกอบละคร "สาวน้อยร้อยเล่มเกวียน"
ล่าสุดวันที่ 2 มี.ค.65 "เอ๊ะ-จิรากร สมพิทักษ์" เปิดเผยว่า ตนตกใจกับเหตุการณ์กับแตงโม ได้ติดตามข่าวอยู่ตลอด ตนเสียใจมากและขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวด้วย ล่าสุดตนเองเจอกับแตงโมช่วงปลายปีที่แล้ว ถ่ายรายการด้วยกัน เขาก็ดูสดใสดี เพราะเขาเพิ่งเริ่มกลับมามีงาน ทุกคนในวงการก็พยายามช่วย และอีกงานที่ขอนแก่นตนเองก็ยังไปเจอแตงโมและได้ร้องเพลง "จากนี้ไปจนนิรันดร์" ด้วยกันอยู่เลย
โลกโซเชียลแชร์กันตอนที่แตงโมร้องเพลงจากนี้ไปจนนิรันดร์บนเรือ ตนเองเห็นแล้ว แต่สายตาเขาดูเศร้า ตนรู้สึกว่าเขาน่าจะทุกข์ใจหรือกดดันอะไรสักอย่าง แต่ก็คิดว่าเขามีความสุข การที่แตงโมนำเพลงตนเองไปร้อง ตนก็ดีใจ เมื่อวานตนเองก็โพสต์โดยบอกว่า ขอบคุณน้องมากที่นำเพลงของตนเองไปร้อง เพลงเพราะขึ้นเยอะเลย น้องเขาชอบเพลงนี้มาก เพราะน้องก็เอาไปร้องบ่อยมีเวอร์ชั่นที่เป็นเสียงน้องด้วย เพลงนี้มันดูเศร้ามากเมื่อเขาเอาไปร้อง เพราะเพลงนี้มันตรงกับชีวิตเขามาก
สุดท้ายอยากจะบอกว่าแตงโมไปอยู่กับพ่อแล้ว ขอให้น้องไปเป็นนางฟ้าบนสวรรค์ ไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นก็ขอให้เป็นไปตามกฎหมาย ถือว่าเราเสียคนสำคัญในวงการบันเทิง ขอให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ของการใช้ชีวิต
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ยังคงติดตามความคืบหน้าในคดีดังกล่าว เวลา 14.30 น. แม่ของสาวแตงโมหรือ นางพนิดา ศิริยุทธโยธิน ได้เดินทางมาที่ สภ.เมืองนนทบุรี เนื่องจากลืมเอกสารสำคัญของลูกสาว จึงจะมาคัดลอกเอกสารใหม่ ซึ่งใช้เวลาเกือบ 30 นาที
นางพนิดา เปิดเผยว่า ในวันนี้ตนมาคัดเอกสารสำคัญเพื่อยื่นขอออกใบมรณะบัตร นำไปรับศพลูกสาวประกอบพิธีทางศาสนา ตนยืนยันว่าขณะนี้เตรียมปรึกษาทนายที่จะยกเลิกสิทธิผู้รับประโยชน์ประกันอุบัติเหตุที่ลูกสาวทำไว้ให้ลูกสาวของกระติก แต่ตนก็ไม่ได้กังวลอะไร ส่วนคดีความที่ลูกชายโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ลักษณะตั้งความหวังในความยุติธรรมของตำรวจนั้น ตนยังเชื่อใจและเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม แต่มีเพียงเรื่องเดียวที่ตนยังติดใจ คือ กระติกอ้างว่ายน้ำไม่เป็น แต่เห็นจากคลิปวิดีโอแล้ว กระติกว่ายน้ำได้ และว่ายเป็นปลา จากเดิมที่ตนพอจะรับได้และให้โอกาสมาเข้าขอขมาและพูดความจริง แต่เขาก็โกหกแม้กระทั่งต่อหน้านักข่าว ตนเห็นแบบนี้แล้วรู้สึก “HOT” ร้อนมาก ๆ และทำให้ความรู้สึกโกรธทวีคูณเพิ่มมากขึ้นด้วย
เรื่องประกันอุบัติเหตุที่แตงโมทำไว้ 1 ล้านบาทหลังเสียชีวิต และคนที่จะได้รับเงินคือลูกสาวของกระติก ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ว่าใครจะเป็นคนรับผลประโยชน์ และกำลังจะให้ทนายความตรวจสอบ เพราะตอนนี้ลูกสาวกระติกเพิ่งจะอายุ 6 ขวบ แตงโมยังไม่ได้แจ้งรับว่าเป็นลูกบุญธรรม จึงยังไม่มีเอกสารใด ๆ ที่แสดงว่าแตงโมรับลูกกระติกเป็นลูกบุญธรรมถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ดังนั้น ผลประโยชน์หลังเสียชีวิตจึงควรต้องตกเป็นของทายาท หรือบุคคลในครอบครัว
ทั้งนี้ ตนยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า เมื่อคืนนี้ (1 มี.ค.65) กระติกพูดต่อหน้าตนว่า "ว่ายน้ำไม่เป็น" แต่มีคลิปวิดีโอออกมาเผยแพร่ตามสื่ออย่างที่ทุกคนเห็นว่าว่ายน้ำเก่งเป็นปลา แถมยังนำลูกสาวขี่หลังได้ด้วย ตนจึงอยากให้สื่อมวชนช่วยชั่งน้ำหนักว่า "นี่คือการโกหกอย่างยิ่งใหญ่ต่อหน้าสื่อมวลชน" และยังไปเชื่อมโยงกับเรื่องประกันที่ตนสงสัยว่า ทำไมถึงเพิ่งเปิดเผยว่ามีประกันดังกล่าวหลังจากแตงโมเสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าแตงโมมอบอะไรให้ลูกกระติกบ้าง
"ตอนที่แตงโมยังมีชีวิต ถ้าจะซื้อของอะไรที่มีราคาแพงให้ลูกกระติก จะต้องบอกแม่ก่อนทุกครั้ง ให้แม่เป็นคนไปซื้อ อย่างเปียโนราคา 3,000 บาท แม่ก็เป็นคนไปซื้อให้ตอนวันเกิดหลาน แต่เรื่องประกันนี้แม่ไม่รู้เลย จึงตั้งข้อสังเกตว่าเรื่องนี้มีความเป็นไปได้ว่า แตงโมเป็นคนทำประกันและเซ็นเอกสารเองจริง ส่วนรายละเอียดในกรมธรรม์ แตงโมอาจไม่ได้เป็นคนกรอก โดยมีกระติกเป็นผู้ดูแลจัดการให้ เพราะปกติแตงโมจะงานยุ่งมาก ๆ ขนาดจะโทรหาแม่ยังไม่ค่อยมีเวลาเลย" แม่แตงโม กล่าวให้ฟัง
อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่ตนเสียงสั่นเครือขณะที่พูดกับกระติก ก็เพราะว่า “แม่โมโหมาก ๆ มันโกหกเรื่องว่ายน้ำไม่เก่ง แต่มันว่ายน้ำเป็นปลาเลย และที่นั่งเถียงเมื่อคืนก็นิสัยไม่ดี อยู่บ้านหรือเวลาเจอกันก็ทำเป็นนอบน้อมอ่อนโยน พูดจากับแม่นอบน้อมมาก ไหว้ตลอด แต่พฤติกรรมนั่งเถียงและก้าวร้าวแบบนี้ไม่เคยเห็น เวลาไปร่วมงานหรือไปออกรายการด้วยกัน เขาก็จะนั่งอยู่ของเขา ไม่มีมาเจ๊าะแจ๊ะชวนคุยกับแม่ แม่ก็คิดว่าใช่ธาตุแท้ เพราะตำรวจก็บอกกับแม่แบบนั้นเหมือนกัน”
ทั้งนี้ จากรายงานก่อนหน้านี้ว่า ตำรวจเรียกสาวชุดดำ แต่งกายภูมิฐาน และผู้ติดตามอีก 2 คน เข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติมนั้น ผู้สื่อข่าวตรวจสอบข้อเท็จแล้ว พบว่าสาวชุดดำคนดังกล่าว ไม่ใช่อดีตแฟนสาวของนายจ๊อบ แต่บุคคลทั้ง 3 คน เดินผ่านจุดที่สื่อมวลชนปักหลักรอทำข่าว เพื่อต้องการเบี่ยงเบนความสนใจ และเปิดทางให้นายจ๊อบ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน โดยไม่ต้องเผชิญหน้ากับสื่อมวลชนด้านหน้า
“เจ็ง วิไลลักษณ์” ภรรยาของนักแสดงชื่อดัง “พีท ทองเจือ” เป็นอีกหนึ่งคนที่โพสต์อาลัยสาวแตงโม โดยโพสต์ภาพคู่ของ “แตงโม และเบิร์ด” แฟนหนุ่ม พร้อมระบุข้อความว่า “เมื่อวันที่ 15 เจ็งกับพี่พีท ยังบังเอิญเจอแตงโมกับแฟนที่ร้านอาหารร้านนี้อยู่เลย น้องมานั่งโต๊ะข้าง ๆ ทานข้าวกับแฟน แล้วก่อนกลับพี่พีทเห็นว่าไม่มีใครถ่ายรูปคู่ให้น้อง เลยไปบอกว่าให้เจ็งถ่ายรูปคู่ให้มั้ย ยังทักทายกันก่อนน้องกลับ เมื่อวานได้ข่าวน้องตกใจมาก ได้แต่ภาวนาว่าน้องจะปลอดภัย จนวันนี้เจอร่างน้องแล้วปาฏิหาริย์ไม่มีแล้ว ขอให้น้องหลับสบายไปสู่สุขคติด้วยนะคะ ? #RIP”
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี มีโอกาสได้สัมภาษณ์พูดคุยกับ “พีท ทองเจือ” จึงขอถามถึงโพสต์ดังกล่าว ของภรรยา โดยพีท - ทองเจือ เล่าให้ฟังว่า ภาพของน้องแตงโม และเบิร์ด เป็นรูปที่ตนและภรรยาได้เจอกับเขาทั้งคู่โดยบังเอิญในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 65 ที่ผ่านมา ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ย่านสุขุมวิท ทั้งคู่นั่งอยู่โต๊ะข้าง ๆ ก็ทักทายกันตามปกติ และเห็นว่ามากันแค่ 2 คน และพยายามถ่ายรูปคู่กัน แต่ดูแล้วมุมยังไม่ได้ตนเลยอาสาว่าจะช่วยถ่ายรูปให้ โดยให้ภรรยาของตนเป็นคนถ่าย
ในวันนั้นพวกตนก็ทักทายพูดคุยและลากันตามปกติด้วยความรู้สึกดี ๆ แต่พอมาทราบว่าหลังจากวันนั้นแค่ไม่กี่วันก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น ก็ทำให้ตนรู้สึกใจหายและเสียใจมาก ๆ มันเร็วเกินไปและไม่ควรเกิดขึ้น ในคืนวันที่เกิดเหตุตนทำงานเสร็จช่วงดึก ๆ แล้วจึงได้เห็นหน้าฟีดข่าวต่าง ๆ เริ่มแจ้งข่าวการตามหาน้องแตงโม ซึ่งในใจตนไม่เชื่อและคิดว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นจริง แต่ก็คอยติดตามข่าวการช่วยเหลือและค้นหาตลอดทั้งคืน ในมุมมองของตนขอยกตัวอย่าง จากประสบการณ์ส่วนตัวที่เคยประสบอุบัติเหตุรถชน คู่กรณีดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับรถมาข้างหน้ารถของตนจนเกิดอุบัติเหตุขึ้น ซึ่งตอนนั้นตนตกใจและควบคุมสติตัวเองยากมาก ๆ
ทั้งนี้ หากการพลัดตกเรือเป็นอุบัติเหตุและเกิดขึ้นจริง สิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นคือทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ควรพูดความจริง โดยไม่ต้องนัดแนะกัน ส่วนในตอนนี้ความจริงที่ออกมาทั้งหมดถือว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่ตนเชื่อว่าทุกคนเห็นแล้วแต่ละคนที่ออกมาพูดหรือไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด อันไหนคือความจริงที่ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ตนไม่รู้จักกระติก เป็นการส่วนตัว แต่เขาดูเป็นคนคบยาก ซึ่งไม่ว่าเขาจะมีความรู้สึกดี ๆ กับน้องแตงโม อย่างไรก็ตาม คนที่ออกมาชี้แจงกับสังคมไม่จำเป็นต้องพูดเก่งหรือแสดงความรู้สึกเก่ง แค่ทำทุกอย่างจากใจ ก็น่าจะตอบโจทย์ทุกอย่างได้ แต่ถ้าสิ่งที่เขาทำแล้วทำออกมาจากใจ แต่ทุกคนไม่รู้สึกว่าออกมาจากใจ ก็คงจะเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะชี้แจงให้ทุกฝ่ายเข้าใจได้ สำหรับเรื่องนี้ตนมองว่าน่าจะไม่ต้องพูดอะไร และคนที่ได้ติดตามการสัมภาษณ์ของเขา คงจะรู้สึกแบบเดียวกัน ตนเป็นผู้ชายจึงไม่อยากซ้ำเติม แต่หากเป็นความรู้สึกจริง ๆ ของเขาตนต้องขอโทษด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- กรมสุขภาพจิต แนะประชาชนติดตามข่าว แตงโม เสียชีวิต อย่างเป็นกลาง
- โลกออนไลน์เผยอีกด้าน แตงโม นิดา รับอุปการะลูกบุญธรรมจากมูลนิธินานกว่า 15 ปี
- วุ่น! ใบพัด เรือสปีดโบ๊ตที่ แตงโม พลัดตก หลุดจมน้ำเจ้าพระยา ก่อนจำลองเหตุการณ์
Advertisement