ใบสั่งฆ่า! เปิดตัวตนมาเฟียฝรั่งถูกเด็ดหัว โยงแก๊งข้ามชาติ ปลอมชื่อ-บินหรูซุกไทย (คลิป)
กรณีคนร้าย 2 คนบุกยิงชายชาวแคนาดาจนเสียชีวิต หน้าวิลล่าหรูในพื้นที่หมู่ 5 ถนนวิเศษ ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต จนเสียชีวิต ทราบชื่อต่อมา นายมันดีป ซิงห์ (Singn Mandeep) อายุ 32 ปี สัญชาติแคนาดา ถูกยิงด้วยกระสุนปืนทั่วร่างกาย ประมาณ 10 นัด ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ล่าสุดวันที่ 6 ก.พ.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางลงพื้นที่ไปยังที่วิลล่าหรู ในพื้นที่หมู่ 5 ถนนวิเศษ ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งในวันนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนยังคงปิดกั้นพื้นที่วิลล่า ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนหรือบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปภายใน เนื่องจากยังคงมีการแกะรอยติดตามตัวผู้ก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง โดยชุดสืบสวนยังคงระดมกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 55 นาย แบ่งเป็น ชุดละ 15-20 คน ลงพื้นที่แบ่งกันเก็บข้อมูลและเส้นทางหลบหนี โดยเริ่มต้นจากจุดวิลล่า เดินเรียบไปกับชายหาด จุดสุดท้ายที่กล้องวงจรปิดจับภาพชายต้องสงสัย 2 คนที่หลบหนี และไปจบที่บ้านร้างริมทะเล ห่างจากวิลล่าประมาณ 80 เมตร ชุดสืบสวนเข้าไปหาร่องรอยของการซ่อนตัวก่อนและหลังก่อเหตุ โดยมีการเก็บหลักฐานไปบางส่วน ซึ่งยังไม่ของยืนยันว่าตรวจพบอะไรบ้าง แต่ที่เห็นคือรอยเท้าบนพื้นในตัวบ้านร้างหลังดังกล่าว
ทีมข่าวได้ย้อนเส้นทางสำรวจ จากจุดที่กล้องวงจรปิดของโรงแรม ใกล้กับวิลล่าที่เห็นชาย 2 คน วิ่งสลับเดิน ผ่านกล้องตัวดังกล่าว เป็นหาดทรายติดกับโรงแรม ซึ่งหาดทรายจะมีช่วงเวลาน้ำขึ้นน้ำลง ช่วง 12.00 น. น้ำจะขึ้นเต็มฝั่ง ไม่มีหาดทรายสำหรับเดิน เวลา 24.00 น. น้ำทะเลจะหนุนสูง ไม่มีหาดทรายให้เดินอีกเช่นกัน ดังนั้น นอกช่วงเวลาอื่น ยังพอมีหาดทรายสำหรับเดินเรียบชายทะเลได้ ดังนั้นช่วงเวลาก่อเหตุของคนร้าย จึงได้ศึกษาเส้นทางและสำรวจช่วงเวลาน้ำขึ้นลงเอาไว้แล้ว
ทั้งนี้ ทีมข่าวได้ตั้งต้นจากบ้านร้างที่อยู่ติดกับชายทะเล ห่างจากวิลล่าที่เกิดเหตุประมาณ 80 เมตร โดยตามคาดการณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น คนร้ายสามารถหลบหนีได้ 3 เส้นทาง ได้แก่ 1.จากบ้านร้างผ่านโรงเรียนนานาชาติเก่า ซึ่งปัจจุบันเป็นแคมป์คนงานต่างด้าว ขึ้นไปที่ถนนหมายเลข 4024 เมืองภูเก็ต - แหลมพรมเทพ 2.จากบ้านร้าง ผ่านรีสอร์ตและบ้านคน ออกไปที่ถนนหมายเลข 4024 เมืองภูเก็ต - แหลมพรมเทพ และ 3. จากบ้านร้าง ให้เรือมาเทียบที่หาดทราย และหลบหนีทางเรือมุ่งหน้าไปที่ อ่าวมะขาม
โดยเส้นทางที่ 3 ชาวบ้านในพื้นที่ ยืนยันว่าหลังจากที่เกิดเหตุ ได้ยินเสียงสตาร์ตเครื่องยนต์ของเรือหางยาวลักษณะคล้ายเรือประมง หากคนร้ายก่อเหตุแล้วสามารถหลบหนีหรือซ่อนตัวอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าวได้สักระยะ เพราะไม่มีไฟส่องสว่าง และไม่มีกล้องวงจรปิดละแวกบ้านร้าง ที่สามารถบันทึกเหตุการณ์ได้ ดังนั้นจากการคาดการณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจและกองพิสูจน์หลักฐานที่มีการเก็บหลักฐานเบื้องต้นไปแล้ว ทราบว่ามีร่องรอยของรอยเท้าผู้ต้องสงสัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว จึงเชื่อว่าอาจมีการพักคอยหลังจากที่ก่อเหตุ และรอให้เรือหางยาวมารับเพื่อหลบหนี โดยข้ามไปที่อ่าวมะขาม เพราะสามารถหลบเลี่ยงกล้องวงจรปิดจากถนนสาธารณะได้
พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ร่วมกับประชุมกับตำรวจในพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เปิดเผยว่า จากการสืบสวนและติดตามผล ทราบว่าผู้เสียชีวิตได้เช่าเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวบินมาเพียงลำพัง จากประเทศมาเลเซีย มายัง จ.ภูเก็ต เข้าโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ พักอาศัยอยู่ที่โรงแรมในย่านหาดป่าตอง ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จนครบ กักตัว 7 วัน
ในวันที่ 4 ก.พ.65 เข้าพักโรงแรมที่เกิดเหตุ ถูกยิงเสียชีวิต ซึ่งชุดคลี่คลายคดีนำลายนิ้วมือของผู้เสียชีวิตไปตรวจสอบกับฐานข้อมูลอาชญากรข้ามชาติ ปรากฎว่าลายนิ้วมือไปตรงกับชื่ออาชญากร 1 ราย ที่ไม่ใช่ชื่อตามหนังสือเดินทาง จึงตรวจสอบประวัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
อีกทั้ง ยังพบประวัติอาชญากรของผู้เสียชีวิต ในประเทศอินเดียและแคนาดา ขณะเดียวกันมีรายงานว่าผู้เสียชีวิต หรืออีกชื่อหนึ่ง คือ นาย Sandhu เป็นที่รู้จักกันในแวดวงมาเฟีย มีบาดแผลขนาดใหญ่ที่ใบหน้าขวา และจากรายงานยังระบุว่าผู้เสียชีวิต ถูกเนรเทศจากประเทศแคนาดา เมื่อต้นปี 2559 ต่อมาถูกจับกุมตัวที่ประเทศอินเดีย หลังลักลอบเปิดโรงงานผลิตเคตามีน เมื่อเดือน มิ.ย.2561 จากนั้นได้ประกันตัวและหลบหนีออกนอกประเทศ โดยหายตัวไปตั้งแต่นั้น เป็นที่ต้องการตัวของทางการแคนาดา เนื่องจากเป็นบุคคลที่มีส่วนพัวพันกับคดีอาชญากรรมหลายคดี จนมาถูกยิงเสียชีวิตในประเทศไทย
สำหรับแนวทางการสืบสวนเชิงลึกให้น้ำหนักไปที่ 2 คนร้าย อาจเป็นมือปืนต่างชาติที่ถูกจ้างมาจากต่างประเทศ หรืออาจเป็นมือปืนชาวต่างชาติที่พักอยู่ในไทยเพื่อมาปิดบัญชี ขณะพักผ่อนหรือกบดานในจ.ภูเก็ต ตำรวจจึงพุ่งปมฆ่าล้างแค้นหรือหักธุรกิจมืดในต่างประเทศ
นายทองดี (นามสมมติ) ชาวบ้านในละแวกที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า จากภาพกล้องวงจรปิดที่จับภาพว่ามีการวิ่งผ่านชายหาดหลังโรงแรมใกล้กับวิลล่าที่เกิดเหตุ จากลักษณะการเดินสลับวิ่ง ตนยืนยันว่าไม่ใช่คนในพื้นที่ และไม่เคยพบเห็นมาก่อน แต่คาดว่าเป็นชาวต่างชาติ เพราะเนื่องจากมีรูปร่างสูงใหญ่ ไม่ใช่บุคคลที่อยู่ในพื้นที่อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ภายหลังก่อเหตุ พวกเขาไม่ได้เดินขึ้นมาบนถนน เพราะหากใช้เส้นทางหนีออกถนนหมายเลข 4024 อย่างน้อยก็ต้องผ่านพื้นที่ส่วนบุคคลของบ้านตน จึงยืนยันว่าในคืนนั้นไม่มีใครผ่าน คาดว่าอาจลงเรือออกทะเล เป็นเส้นทางที่ง่ายและสะดวกที่สุด เพราะหากก่อเหตุแล้วกลับขึ้นมาบนถนน จะมีกล้องวงจรปิดจับภาพได้ ดังนั้นตนจึงเชื่อว่ากลุ่มคนก่อเหตุไม่ได้มีการใช้เส้นทางออกถนนใหญ่อย่างแน่นอน
Advertisement
