กรณีวันที่ 21 ม.ค. 65 ตำรวจ สภ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ได้รับแจ้งพบศพขึ้นอืดถูกฆาตกรรมในอ่างถ่ายน้ำมันเครื่อง ปั๊มน้ำมันร้าง หมู่ 1 ต.ดีลัง จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบร่าง นายสามารถ หย่างถึง อายุ 46 ปี
ล่าสุด วันที่ 22 ม.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่มายังจุดเกิดเหตุ ปั๊มร้างตั้งอยู่ที่หมู่ 1 ต.ดีลัง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี บริเวณปั๊มมีสภาพเก่าทรุดโทรม ตามพื้นมีขี้นกกระจายอยู่เต็มบริเวณ ด้านหลังมีต้นไม้ หญ้าขึ้นรกทึบ
ทั้งนี้ จากการสำรวจบ่อถ่ายน้ำมันเครื่องที่พบศพมีขนาดยาว ประมาณ 6.50 เมตร กว้าง 80 เซนติเมตร ลึกประมาน 2 เมตร
นอกจากนี้ ภายในห้องสำนักงานของปั๊มร้าง ทีมข่าวยังได้เข้าไปสำรวจพบถุงข้าวต้ม 2 ถุง ถูกวางทิ้งไว้ ส่วนห้องโล่งข้าง ๆ เป็นจุดที่รถจักรงานยนต์ของผู้เสียชีวิตที่ถูกนำมาจอดก่อนกลายเป็นศพ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำของกลางไปไว้ที่ สภ.พัฒนานิคม
นายน้อย (นามสมมติ) อายุ 44 ปี พนักงานปั๊มใกล้เคียง ผู้เจอศพ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 15.30 น. ระหว่างที่ตนกำลังทำงานอยู่นั้น ตนรู้สึกปวดปัสสาวะ จึงเดินไปปัสสาวะที่ปั๊มร้าง ซึ่งอยู่ติดกับปั๊มของตน ตนฉี่ตามกอหญ้าตรงลานด้านหลังปั๊ม ระหว่างที่ยืนปัสสาวะอยู่นั้น ได้กลิ่นเน่าเหม็นอย่างรุนแรง ตอนแรกตนคิดว่าน่าจะเป็นซากศพสุนัขหรือแมวตาย จึงได้เดินตามกลิ่นไปดู ห่างกันประมาณ 15 เมตร
โดยระหว่างที่เดินไป ก็มาหยุดอยู่บริเวณบ่อถ่ายน้ำมันเครื่อง ตนได้ก้มลงไปมองเห็นมือ 2 ข้างตั้งขึ้นมา จึงรู้ว่าเป็นศพคน สภาพศพตอนนั้นขึ้นอืดแล้ว ตนจึงรีบเดินออกมาแล้วโทรศัพท์แจ้งตำรวจ แล้วเดินกลับไปด้วยความตกใจ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจมายังที่เกิดเหตุ พร้อมกู้ภัย ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่จำนวนมาก
จากเหตุกาณ์ที่เกิดขึ้น ตนรู้สึกตกใจตั้งแต่ทำงานที่นี้มา 5 ปี ไม่เคยพบเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน และไม่เคยมีใครเข้ามาก่อเหตุหรือเสียชีวิตที่ปั๊มร้างแห่งนี้เช่นกัน อีกทั้งหลายวันที่ผ่านมานี้ ตนก็ไม่เห็นอะไรผิดปกติ ปกติคนทั่วไปก็ไม่เคยเข้าออกปั๊มร้าง มีเพียงคนเก็บขยะที่อาจจะแวะเวียนมาเก็บของเก่าที่คนเอามาทิ้งบ้านเป็นบางครั้ง
ทีมข่าวเดินทางมายังร้านท่อไอเสีย ห่างจากปั๊มประมาณ 450 เมตร เป็นร้านที่นายสามารถ หย่างถึง อายุ 46 ปี ผู้เสียชีวิต ทำงานเป็นช่างท่อไอเสียอยู่ นายสมชาย (นามสมมติ) อายุ 45 ปี เถ้าแก่ เปิดเผยว่า ตนได้เจอกับผู้เสียชีวิตครั้งสุดท้ายเมื่อวันจันทร์ที่ 17 ม.ค. 65 ที่ผ่านมา โดยผู้เสียชีวิตขี่รถจักรยานยนต์มาทำงานเหมือนทุกครั้ง ตั้งแต่เวลา 08.00 น. และทำงานนอกเวลาจนถึงเวลา 19.00 น. โดยตนทำข้าวต้มและได้บอกให้ผู้เสียชีวิตเอาข้าวต้มไปกิน เพราะเห็นว่ายังไม่ได้กินข้าว ผู้เสียชีวิตจึงขอตักข้าวต้มใส่ถุงกลับบ้าน 2 ถุง เพื่อจะเอาไปแบ่งให้ลูกชายกินด้วย
จากนั้น ผู้เสียชีวิตขี่รถจักรยานยนต์ออกจากร้านไป และติดต่อไม่ได้อีก เนื่องจากผู้เสียชีวิตไม่ใช้โทรศัพท์มือถือ และอีกหนึ่งสาเหตุที่ตนไม่เแปลกใจที่ผู้เสียชีวิตเงียบหายไป เพราะผู้เสียชีวิตปกติจะมาทำงานแค่เพียง 3-4 วันต่อสัปดาห์ กระทั่งวันพฤหัสที่ 20 ม.ค. 65 เวลา 11.00 น. ลูกชายของผู้เสียชีวิตได้มาถามตนที่ร้านว่าพ่อได้มาทำงานหรือไม่ เนื่องจากพ่อไม่กลับบ้านตั้งแต่วันจันทร์แล้ว ตนจึงบอกกับลูกชายผู้เสียชีวิตว่าให้ไปแจ้งความกับตำรวจ
จนเมื่อวันที่ 21 ม.ค. 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาบอกกับตนว่าลูกน้องเสียขีวิตแล้ว ทำให้ตนตกใจมาก ไม่คาดคิดมาก่อน ที่ผ่านมารู้จักกับผู้เสียชีวิตมาเป็นเวลานาน เป็นคนนิสัยดี มีความรับผิดชอบ ขยัน เป็นคนซื่อ ๆ แต่เสียอย่างเดียวติดเหล้า ดื่มเหล้าทุกวัน แต่ดื่มแค่กรึ่ม ๆ ไม่ถึงกับขาดสติ ไม่เคยทะเลาะวิวาทหรือมีปัญหากับใคร ผู้เสียชีวิตเคยทำงานกับตน 3 ครั้ง ครั้งแรกทำได้ประมาณ 3 ปี จากนั้นลาออกไปช่วยงานพี่ชายผ่านมาอีกประมาณ 3 ปี ผู้เสียชีวิตได้กลับมาทำงานครั้งที่ 2 เป็นเวลา 2 เดือน และลาออกไป ซึ่งตนไม่ทราบสาเหตุ
จนกระทั่งครั้งที่ 3 ล่าสุดร้านของตนมีงานที่ค่อนข้างเยอะ จึงได้ไปขอให้ผู้เสียชีวิตกลับมาช่วยทำงานที่ร้านตั้งแต่เดือนตุลาคมจนถึงปัจจุบัน โดยตนให้ค่าแรงวันละ 400 บาท ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตนั้นตนไม่ทราบ ก่อนหน้านี้ผู้เสียชีวิตไม่เคยตัดพ้อ และไม่เคยมีปัญหาด้านการเงินหรือหนี้สิน ไม่เคยมีเรื่องกับใคร สุดท้ายนี้ ตนรู้สึกเสียใจและเสียดายการจากไปของผู้เสียชีวิต คนที่จะทำงานและซื่อสัตย์ เป็นคนดีคนหนึ่ง ซึ่งสมัยนี้หายาก
ทั้งนี้ ครอบครัวของผู้เสียชีวิตอยู่ในอาการเสียใจ หากผู้เสียชีวิตฟังอยู่ตนอยากบอกว่าหลับให้สบาย ไม่ต้องห่วงครอบครัว ตนจะช่วยดูแลให้ดี
นางสาวนิตินา พัดยนต์ อายุ 32 ปี ลูกเลี้ยงของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า น้องชายบอกกับตนว่าพ่อหายออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค. 65 หลังจากออกจากบ้านไปทำงานที่ร้านท่อไอเสียตามปกติ ต่อมาพ่อไม่กลับบ้าน จนกระทั่งวันที่ 18 ม.ค. 65 น้องชายได้โทรมาบอกกับตนว่าพ่อไม่กลับบ้านตั้งแต่เมื่อวาน ตนจึงบอกให้น้องไปตามหาพ่อที่ร้านท่อไอเสีย น้องได้ถามเถ้าแก่ก็ไม่พบ
ทั้งนี้โดยจุดที่ห่างจากศพคือห้องในสำนักงาน จะมีรถของพ่อจบหลบอยู่ด้านใน สิ่งที่ครอบครัวสงสัยคือพ่อเป็นคนขี่รถเวลาจอดรถ จะเสียบกุญแจค่ารถไว้ตลอด แต่ที่จุดเกิดเหตุไม่พบกุญแจรถของพ่อ แต่พบถุงข้าวต้ม 2 ถุงที่พ่อนำกลับจากร้านเถ้าแก่ ทั้งหมดมีจุดที่ทำให้ครอบครัวเกิดความสงสัย เพราะพ่อเป็นคนที่รักครอบครัวมาก แม้แม่จากไปนานแล้ว พ่อไม่เคยมีเรื่องชู้สาว แต่พ่อมีพฤติกรรมชอบดื่มเหล้า และมักดื่มคนเดียว แต่ไม่เคยดื่มจนขาดสติ ไม่เคยก่อเหตุทะเลาะวิวาท เสพยา หรือติดการพนัน พ่อไม่ค่อยคบใคร เพราะเป็นคนชอบสันโดษ ชอบอยู่กับครอบครัว
Advertisement