มนุษย์ป้าสุดแสบกรีดเบาะรถขวางทาง พอนัดเคลียร์ย้ายบ้านหนีชิ่งจ่าย 2 พัน (คลิป)
กรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก "เจ๊ม้อยv plus" โพสต์ข้อความระบุว่า "ป้ามือกรีดมีปัญหาอะไรก็ไม่ควรทำลายทรัพย์สินของใคร เจรจากันด้วยเหตุผลนะคะ ป้ามหาประลัยภัยสังคม กรีดเบาะรถมอไซค์ผมแล้วก็หนี พิกัดขายลูกชิ้นนึ่ง โชคชัย 4 พักอยู่ที่แยก 29 ผมไปตามถึงห้อง แต่แกหนีแล้วครับ ท่านใดเจอช่วยแจ้งพิกัดหน่อยครับ"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ล่าวันที่ 17 ม.ค.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เดินทางมายังหอพักแห่งหนึ่ง ภายในซอยโชคชัย 4 แยก 29 ลักษณะเป็นหอพักสูง 4 ชั้น โดยลานจอดรถจักรยานยนต์จะติดกับหน้าห้องพักชั้น 1
นายเสรี พลมนตรี อายุ 49 ปี เจ้าของรถจักรยานยนต์ เล่าให้ฟังว่า รถคันที่ปรากฏในคลิปกล้องวงจรปิดเป็นรถของตน โดยที่ตนให้ลูกสาวนำไปขี่ กระทั่งช่วงเช้าวันที่ 12 มกราคม 65 ลูกสาวได้โทรศัพท์มาแจ้งว่า เบาะรถถูกของมีคมกรีด ตนจึงแนะนำให้ลูกสาวไปขอดูกล้องวงจรปิด จนพบว่า มีป้าคนหนึ่งที่พักอาศัยอยู่ที่ชั้น 1 เป็นผู้ก่อเหตุ ขณะนั้นตนอยู่ต่างจังหวัด จึงแนะนำให้ลูกสาวไปพูดคุย คุณป้าได้ขอโทษ พร้อมจะรับผิดชอบ
ทั้งนี้ ตนและลูกสาวได้เรียกเงินค่าซ้อมเบาะรถ จำนวน 2,000 บาท แต่ราคาประเมิน จำนวน 1,100 บาท ตนยอมรับว่าหมั่นไส้ ไม่ได้กลั่นแกล้ง แต่คุณป้าก็ไม่สมควรที่จะนำมีดมากรีด ควรที่จะเดินมาบอกกล่าวหรือย้ายรถออกไปจากหน้าห้องของคุณป้าก็ได้ แต่คุณป้ากับเลือกที่จะกรีดเบาะรถ และหากเปลี่ยนเบาะรถแล้ว เบาะอันเก่าตนก็จะนำไปให้คุณป้าไปกรีดเล่นอยู่ในห้อง
หลังจากนั้น ตนได้ให้ลูกสาวนัดคุยกับป้า ในวันนี้ (17 ม.ค.65) เวลา 09.30 น. ตนได้เข้าไปหาป้าที่หอพัก พบว่าป้าได้หนีไปแล้ว ไปตามหาที่ขายของก็ไม่พบเจอ ส่วนสาเหตุที่ป้ากรีดเบาะนั้น คาดว่าน่าจะไม่พอใจที่ลูกสาวจอดรถขวางหน้าประตูห้องเขาหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านตนไม่ได้คาดหวังว่าจะได้เงินจากป้า แต่ตนอยากดัดนิสัย หลังจากนี้ขอให้ป้าหยุดทำลายข้าวของผู้อื่น
ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับนางสาวอ้อม อายุ 50 ปี เพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า ป้าที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดชื่อว่า ป้าสา เพิ่งจะย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ที่หอพักได้ 2 เดือนแล้วเพียงลำพัง เป็นคนที่น่าสงสาร ลูกหลานไม่ดูแล ทุกวันนี้จะประกอบอาชีพขายลูกชิ้นปิ้ง ภายหลังจากที่เกิดเหตุตนยอมรับว่าตกใจ เพราะป้าสาไม่เคยมีพฤติกรรมที่รุนแรง ตนได้คุยกับป้าสาแล้ว เขาไม่ได้บอกสาเหตุที่กรีดเบาะรถ ได้แต่เงียบ และขอโทษกับ พร้อมที่จะรับผิดชอบค่าเสียหาย ด้วยการขอจ่ายวันละ 100 บาท
ขณะเดียวกัน ตนยอมรับว่าผู้เสียหายเรียกค่าเสียหายมากเกินไป เพราะป้าสาเป็นคนหาเช้ากินค่ำ และขายลูกชิ้นไม่ค่อยจะได้กำไร ซ้ำต้องนำเงินมาจ่ายค่าห้องพักเดือนละ 2,000 บาท ไม่รวมค่าน้ำค่าไฟ ตนคาดว่าป้าสาน่าจะไม่พอใจที่ผู้เสียหายนำรถมาจอดขวางทางเข้าห้อง เพราะป้าสาจะยกถังแก๊สเข้าห้อง แต่แก๊สคงหนักจึงทำให้ป้าโกรธและนำมีดมากรีดเบาะรถ
นอกจากนี้ ภายหลังจากเกิดเหตุ ป้าสาได้หลบหนีออกไปจากห้องพักตั้งแต่คืนวันที่เกิดเรื่อง เหลือเพียงเสื้อผ้าเท่านั้น ซึ่งตนพยายามติดต่อแต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้ต่างฝ่ายต่างเห็นอกเห็นใจกัน เพราะอาศัยอยู่ห้องใกล้เคียงกัน ลักษณะนิสัยของป้าสา เป็นคนเงียบ ๆ และไม่ทราบว่าป้าสาป่วยเป็นโรคซึมเศร้าหรือไม่ แต่ป้าสาป่วยเป็นโรคเบาหวาน
Advertisement
