อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ให้ความเห็นกรณีสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งยังคงยืดเยื้อ ทหารไทยยังคงตรึงกำลังวางใจไม่ได้ และมีการตั้งคำถามว่าในขณะนี้สมควรเปิดด่านได้หรือไม่ อย่างไร
อาจารย์ปานเทพ บอกว่า ก่อนตั้งคำถามว่าควรเปิดด่านหรือไม่ ให้เราย้อนกลับไป สารตั้งต้นที่เราปิดด่านเพราะทหารไทยเหยียบกับระเบิด เป็นสาเหตุทำให้สถานการณ์ลุกลาม ต่อมาทำให้ไทยตัดสินใจตัดไฟตัดเน็ต จากข้อเสนอของกองทัพไทยในที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ เพราะปัญหาสแกมเมอร์และพนันออนไลน์ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์อาชญากรรม ตลอดแนวชายแดนไทย ซึ่งเป็นการตัดวงจรเพื่อไม่ให้ทำร้ายคนไทย เหมือนที่ประเทศไทยเคยทำกับประเทศเมียนมา ซึ่งก็ประสบความสำเร็จ ซึ่งนี่คือวัตถุประสงค์ของการปิดทุกอย่าง เพื่อกดดันให้กัมพูชาไม่สามารถอยู่ได้ จนต้องสิ้นสภาพ การเป็นภัยความมั่นคงต่อรัฐเมื่อไหร่ไทยถึงทำการเปิดด่าน
ดังนั้นอาจารย์ปานเทพมองว่า การจะเปิดด่านไม่ใช่นึกอยากจะเปิดก็เปิด ต้องย้อนไปดูสารตั้งต้นว่าเราปิดทำไม และสิ่งที่เราต้องการได้มาจากการปิด และเราได้สิ่งนั้นกลับมาแล้วหรือยัง จึงมองว่าวันนี้ถ้าเรายังไม่ได้ จึงเปิดด่านไม่ได้เพราะยังไม่มีเหตุผลเพียงพอ
ส่วนท่าทีลงนาม GBC ที่อ่อนลง แต่ยังเสริมกำลัง ยุทธโธปกรณ์ แต่กัมพูชาก็รับข้อเสนอในการที่จะร่วมปราบปรามปัญหาสแกมเมอร์นั้น
อาจารย์ปานเทพบอกว่า เป็นไปได้ว่าตอนนี้กัมพูชาอยู่ในฐานะที่เพลี่ยงพล้ำ เศรษฐกิจที่มากกว่าไทย โดยเฉพาะกรณีที่กัมพูชาไปเยือนจีน ลดท่าที ในการเป็นภัยคุกคามต่อไทยให้น้อยลง แต่นั่นคือเหตุผลที่เขาต้องการความช่วยเหลือจากจีน ในภาวะมีปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ ข้าวยากหมากแพง เงินเฟ้อ คนตกงาน ตลอดจนแรงงานจากไทยกับประเทศไม่มีงานทำ ทำให้คนกัมพูชาอยากกลับมาฝั่ง นั่นคือแรงกดทางการเมืองภายในประเทศ
"ดังนั้นเขาต้องหาทางลง กรณีที่ไทยเปลี่ยนรัฐบาลแล้ว นั่นคือการรีบเจรจาให้สำเร็จโดยเร็ว แต่ปัญหาสำคัญที่กัมพูชาหยุดไม่ได้คือปัญหาสแกมเมอร์และพนันออนไลน์ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์อาชญากรรม เพราะคือรายได้หลักของรัฐบาล และของคนที่เกี่ยวเนื่องทางการเมือง และเงินที่ได้มา ก็นำไปสร้างกองกำลัง BHQ ปกป้องสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา โดยเฉพาะการขาดรายได้ จากสแกมเมอร์และพนันออนไลน์
จะทำอย่างไรกับสถานการณ์นี้ นั่นคือการขอให้เปิดไปก่อน นั่นคือความคิดของกัมพูชา และความคิดเช่นนี้จึงใช้แรงสนับสนุนสองส่วน หนึ่งประธานหอการค้าของไทย สองรัฐบาลญี่ปุ่น เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ซึ่งสองแรงนี้จะอาศัยเป็นเงื่อนไขทำให้เป็นอ้างเหตุเปิดด่าน เพราะประเทศที่สาม ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับสงครามความขัดแย้งแต่กลับได้รับผลกระทบปัญหา ขณะที่ พล.อ.ณัฐพล นาคพานิชย์ รักษาการ รมช.กลาโหม ก็พูดประโยคนี้เอาไว้ ขณะที่ฝั่งกัมพูชาก็แถลงการณ์เช่นกันโดยไม่คำนึงถึงสาเหตุของการปิดด่าน"
อาจารย์ปานเทพ ย้ำว่า อย่าลืมเรามีทหารขาขาด เรามีพลเรือนที่ถูกยิงระเบิด แก้ปัญหาหมด เราต้องการแก้ปัญหาประชาชนหมดตัวจากการถูกมอมเมาพนันออนไลน์ ตลอดจนคนไทยถูกหลอกลวงจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จากฝีมือของกัมพูชา ดังนั้นตราบใดที่เรายังไม่ได้สิ่งที่เราต้องการเราเปิดด่านไม่ได้ ต้องคิดให้ครบ คิดถึงเหตุผล เพราะรายได้หลักของเขาคือพนันออนไลน์ เมื่อมีเงินก็มาสร้างอาวุธมีโอกาสกลับมาปะทะไทยได้มากขึ้น
อาจารย์ปานเทพ ยังกล่าวถึง ท่าทีฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ไม่ว่าเช่นไรวางใจ ฮุน มาเนต ไม่ได้ อันดับแรกคือมีวาระซ่อนเร้นในการทำร้ายคนไทยมานาน เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติมาหลายปี โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์แก๊งพนันออนไลน์ บ่อนคาสิโนทุกจุด ที่มีด่านกลับมีทุกจุดอยู่ตลอดตะเข็บชายแดนฝั่งไทย นั่นคือจุดประสงค์หลักที่กัมพูชาต้องการดูดเงินจากคนไทย และหัวคิดของการหารายได้หลักจากพนันออนไลน์ก็มาจากนโยบายของผู้นำกัมพูชา ทั้งที่สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายแบบนี้จะมองว่าเขาเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อเราได้อย่างไร นั่นแปลว่า ฮุน มาเนต เน้นทุกเรื่องเพื่อประโยชน์ส่วนตัว โดยไม่สนใจเพื่อนบ้าน ไม่สนใจการทำร้ายคนไทย ทำคนไทยเดือดร้อน และเงินรายได้ก็ไปสร้างประโยชน์ให้กับผู้นำ และธุรกิจของผู้นำ และเงินเหล่านี้ก็วนกลับมาซื้ออาวุธเพื่อทำร้ายคนไทย ดังนั้นหากเรารู้แล้วเราต้องตัดแหล่งเงิน ดังนั้นเศรษฐกิจและพ่อค้าจะไปได้ต้องไม่เห็นแก่ตัว
อาจารย์ปานเทพ ย้ำว่านาทีนี้ไทยควรเด็ดขาดทั้ง 3 เรื่อง ยังเชื่อว่าการปิดด่านจำเป็นมากตลอดจนการตัดสาธารณูปโภคตัดน้ำตัดไฟทุกอย่างที่เราส่งไป เพราะการส่งสิ่งเหล่านี้คือการส่งกำลังบำรุงให้กัมพูชาแข็งแรงมาโจมตี ส่วนกัมพูชาจะไปหาแหล่งสาธารณูปโภคที่ไหนเป็นเรื่องของเขา และต้องทำให้เดือดร้อนจนไม่กล้าทำอะไรประเทศไทย
ประการที่สองเมื่อเรามีอำนาจต่อรอง จะต้องดูแลคนไทยที่ได้รับผลกระทบ ได้รับการเยียวยา
ประการที่สามในยามที่ไทยได้เปรียบและดูแลคนไทยแล้ว และเมื่อมีอำนาจต่อรองมากขึ้น ต้องอาศัยจังหวะนี้ยกเลิกเอ็มโอยู 43 และ 44 ทำให้กัมพูชาลดความคาดหวังที่จะใช้แผนที่ 1:200,000 และลดความคาดหวังเส้นไหล่ทวีปค่อมเกาะกูดประเทศไทย หวังทรัพยากรคนไทย ตลอดการชักจูงมหาอำนาจ จะต้องรีบตัดเพราะเป็นเงื่อนไขที่ไทยทะเลาะกับกัมพูชามา 20 กว่าปี พร้อมย้ำว่า 3 ประการนี้ไทยต้องทำให้เร็ว และเชื่อว่าจะได้ใจคนไทย เมื่อ 3 ประการนี้เสร็จสิ้นเราก็เริ่มทำรั้วในพื้นที่ที่ชัดเจน และเชื่อรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล สามารถทำได้ในกรอบเวลา 4 เดือน
ส่วนกรณีตนเป็นหนึ่งบทบาท คือปรึกษาประจำกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding : MOU) 2543 และ 2544 ระหว่างประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา สภาผู้แทนราษฎร นั้น ขอย้ำว่าเป็นแค่ที่ปรึกษา ไม่มีอำนาจในการยกมือเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบในคณะกรรมธิการ และเนื่องจากกรรมาธิการชุดนี้มาจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย มีการเลือกส่วนข้าราชการที่กอด MOU มาเต็มทีม จึงมองว่าโอกาสที่จะยกเลิกไม่ใช่เรื่องง่าย ในกรณีที่จะอาศัยกรรมาธิการ แต่ตนในฐานะที่ปรึกษาก็จะเข้าไปชี้แจงแสดงเหตุผลตั้งคำถาม แต่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ส่วนได้ผลหรือไม่ อยู่ที่รัฐบาลนายอนุทิน เพราะมองว่าหากรัฐบาลต้องการยกเลิก แค่นำเสนอเข้า ครม. ขอความเห็นชอบยกเลิกก็สามารถยกเลิกได้ทันที
"ก็เพราะ MOU ที่ผ่านมาระหว่างรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร กับ ฮุน มาเนต เซ็นสนับสนุนงบกัน โดยไม่ต้องผ่านใคร ดังนั้นการบันทึกความเข้าใจด้วยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเห็นชอบแล้ว เพราะการถูกละเมิดมาตลอด 25 ปี เรามีความชอบธรรม และต้องทำในยามที่กำลังมีเหตุปะทะ ให้สากลทั่วโลกจะได้เข้าใจ ว่าการถูกละเมิดมา 600 กว่าครั้ง จึงมีความชอบธรรมที่จะยกเลิก MOU"
Advertisement