Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
อดีตอธิการบดีฯช็อก! ถูกหลอกร่วมลงทุน สูญเงินไปเกือบ 40 ล้าน

อดีตอธิการบดีฯช็อก! ถูกหลอกร่วมลงทุน สูญเงินไปเกือบ 40 ล้าน

12 ก.ย. 68
17:29 น.
แชร์

อดีตอธิการบดีฯช็อก! ถูกเพจหลอกร่วมลงทุน สูญเงินไปเกือบ 40 ล้าน โชคดีเจ้าหน้าที่พบผิดสังเกต ช่วยอายัดไว้ได้ทัน โดยเจ้าตัวยังไม่รู้ว่าถูกหลอก 

วันที่ 12 ก.ย. 68 ที่สน.บางซื่อ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาเข้าร่วมสอบปากคำผู้เสียหาย พร้อมให้ข้อมูล กรณีอดีตอธิการบดีคนนี้ถูกหลอกในลักษณะของการให้ร่วมลงทุน จากเพจหนึ่ง และได้ผลตอบแทนสูง โดยมูลค่าความเสียหายเกือบ 40 ล้านบาท 

ซึ่งจากวอร์รูมศูนย์ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ได้ร่วมกับพนักงานสถาบันการเงิน ได้ตรวจสอบความเคลื่อนไหว แล้วพบว่ามีเส้นเงินจากบัญชีของผู้เสียหายวิ่งเข้าไปยังบัญชีอื่นอย่างผิดปกติ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินการอายัดไว้ได้ทัน โดยที่เจ้าตัวยังไม่รู้ว่าตัวเองถูกหลอก ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะติดต่อไปที่ผู้เสียหาย เพื่อแจ้งให้ทราบว่ากำลังถูกมิจฉาชีพหลอกอยู่ 

ส่วนตัวเลขที่อายัดเงินไว้ได้ทันว่ามีจำนวนเท่าไหร่ ในขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเงินส่วนใหญ่ถูกโอนไปยังบัญชีม้า ก่อนที่จะมีการไปแปลงเป็นสกุลเงินดิจิทัล และกดเป็นเงินสด 

ภายหลังการซักถามข้อมูลนานเกือบ 2 ชั่วโมง พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะรักษาราชการแทน ผบก.น.2 ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ตำรวจพบว่าผู้เสียหายได้ไปเจอเพจให้ร่วมเทรดหุ้นเมื่อเดือน ส.ค.โดยมิจฉาชีพที่อ้างตัวเป็นโบรกเกอร์ ให้ร่วมเทรดหุ้น ก่อนที่จะถูกดึงเข้าไปในกลุ่มไลน์โดยเทรดไปหลายครั้ง โดยมิจฉาชีพจะสร้างพอร์ตปลอมขึ้นมา เสมือนว่าเทรดได้เงินจริงๆ 

จากนั้น ก็ชักชวนให้ผู้เสียหายเข้ากลุ่มไลน์ ที่มีสมาชิกเป็นร้อยคน เพื่อร่วมเทรดหุ้นแบบบิ๊กล็อต ซื้อในราคาถูก และได้กำไรเยอะ โดยเป็นการร่วมลงทุนหลายคน จำนวนหลาย 10 ล้านบาท ทำให้เหยื่อหลงเชื่อ และมีการโอนเงินไป 10 กว่าครั้งสูญเงินทั้งสิ้น 38 ล้านบาท 

โดยล่าสุดเมื่อวานนี้ ผู้เสียหายต้องการจะถอนเงิน 1.9 ล้านบาทจากธนาคาร ก่อนที่จะโอนเข้าสู่บัญชี 3 บัญชี ซึ่งทางธนาคารพบความผิดปกติ จึงโทรไปเตือนเหยื่อ และรีบเข้าไปหาเหยื่อ จึงทำให้สามารถอายัดเงินได้ 3 ล้านบาท 

และจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการขยายผลเพิ่มเติม ก็พบว่าเงินมีการเคลื่อนไหวไปกว่า 22 บัญชี และทางมิจฉาชีพจะใช้เป็นบัญชีบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชี่อถือให้เหยื่อ และพบว่าไปกดเงินตามตู้ในต่างจังหวัด ส่วนสมาชิกในกลุ่มไลน์จะต้องตรวจสอบก่อนว่า มีใครเป็นหน้าม้า หรือใครเป็นผู้เสียหายบ้าง 

ขณะที่ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เล่าว่า ทางตำรวจได้เข้าไปหาเหยื่อเมื่อวานนี้ และแจ้งว่ามิจฉาชีพหลอก ซึ่งตอนแรกเหยื่อยังไม่เชื่อ ยังเข้าใจว่าตนเองเทรดหุ้นได้จริง ทางตำรวจจึงติดต่อไปทางธนาคารว่า ไม่มีบัญชีของเหยื่อที่นำไปเทรดหุ้นอยู่ ทำให้เหยื่อค่อยๆ ยอมรับ แต่ก็ยังมีความหวังว่าจะได้เงินคืน และยังดีที่ตำรวจเข้าไปถึงตัวเหยื่อได้ทัน ไม่อย่างนั้น เหยื่ออาจจะโอนเงินเพิ่มอีก 40 ล้านบาทให้มิจฉาชีพ 

ส่วนที่มิจฉาชีพใช้ บัญชีบริษัทเป็นบัญชีปลายทางในการรับโอน เพราะมีความน่าเชื่อถือ และไม่ต้องสแกนหน้าเพื่อยืนยันตัวตน ซึ่งบริษัทเหล่านี้ถูกตั้งขึ้นมา เพื่อฟอกเงินโดยเฉพาะ 

ขณะที่ในท้องที่ สน.หัวหมากก็มีผู้เสียหายอีกหนึ่งรายที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอนเงินอีก 6 ล้านบาท ซึ่งเป็นการหลอกในลักษณะเดียวกัน โดยพบว่าเส้นเงินบางส่วน ปลายทางไปยังธนาคารต่างประเทศ

Advertisement

แชร์
อดีตอธิการบดีฯช็อก! ถูกหลอกร่วมลงทุน สูญเงินไปเกือบ 40 ล้าน