กยท.หนุนสวนยางอุทัยธานี มุ่งยกระดับอาชีพ สู่ Smart Farm
กยท.หนุนสวนยางอุทัยธานี มุ่งยกระดับอาชีพ ต่อยอด "สวนยางอารยเกษตร สู่ Smart Farm"ลดต้นทุน เพิ่มรายได้อย่างยั่งยืน
วันนี้ (22 ก.ย. 68) ณ ลานมันวังเกษตรพืชผล จ.อุทัยธานี — การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) จัดโครงการขยายผลความสำเร็จเพิ่มมูลค่าของการทำสวนยางแบบอารยเกษตร ต่อยอดเทคโนโลยี นวัตกรรม Smart Farm โดยได้รับเกียรติจาก ดร.เพิก เลิศวังพง รักษาการแทนผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วยนายสุขทัศน์ ต่างวิริยกุล รองผู้ว่าการด้านปฏิบัติการ และคณะผู้บริหาร กยท. เข้าร่วมพิธีเปิดโครงการฯ มุ่งขับเคลื่อนการทำสวนยางอารยเกษตรควบคู่กับการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมายกระดับการทำสวนยาง ลดต้นทุน-เพิ่มผลผลิต สร้างรายได้ที่มั่นคงในระยะยาว สู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวสวนยางอย่างยั่งยืน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดร.เพิก กล่าวว่า กยท. ได้ส่งเสริมให้เกษตรกรทำสวนยางตามแนวทางอารยเกษตรมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนปัจจัยการผลิตเพื่อให้เกษตรกรทดลองทำสวนยางแบบผสมผสาน รวมถึงการสนับสนุนระบบให้น้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell) ที่เป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ตามแนวคิด BCG Model รวมไปถึงองค์ความรู้และนวัตกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดย กยท. มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรชาวสวนยาง ด้วยการสนับสนุนเทคโนโลยีที่เหมาะสม ตั้งแต่การใช้เอทิลีน หมวกกันฝน ระบบน้ำ ไปจนถึงการปลูกพืชร่วมยาง เพื่อสร้างรายได้และความยั่งยืนในระยะยาว สำหรับเอทิลีน เป็นฮอร์โมนพืชที่ช่วยกระตุ้นการไหลของน้ำยาง เพิ่มปริมาณผลผลิตได้ 3-4 เท่า ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันยังช่วยประหยัดหน้ากรีด รักษาอายุต้นยางให้ยาวนานขึ้น และเปลี่ยนเวลาการกรีดมาเป็นช่วงกลางวัน ลดความเสี่ยงจากสัตว์ป่า ทำให้การจัดการสวนยางสะดวกสบายกว่าเดิม หมวกกันฝน อุปกรณ์ป้องกันไม่ให้น้ำฝนผสมกับน้ำยาง ทำให้กรีดยางได้สม่ำเสมอแม้ในวันที่ฝนตก เพิ่มจำนวนวันกรีดและปริมาณผลผลิต สร้างรายได้ที่มั่นคงยิ่งขึ้น ระบบน้ำ เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับต้นยาง ช่วยให้ต้นยางผลิตน้ำยางได้ดีขึ้น กรีดได้นานขึ้น ใบไม่ร่วงก่อนเวลา รักษาความสมบูรณ์ของต้นยางและทำให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพสม่ำเสมอ สร้างรายได้ต่อเนื่องตลอดทั้งปี ทั้งนี้ ยังรวมถึงการสนับสนุนและส่งเสริมการทำสวนยางแบบผสมผสานกับพืชเศรษฐกิจอื่นๆ ด้วย
"ความสำเร็จของการทำสวนยางในยุคปัจจุบัน ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับความสามารถในการปรับตัวของเกษตรกร หากสามารถจัดการสวนยางแบบผสมผสานได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว นอกจากจะสามารถเพิ่มผลผลิตได้ ยังเป็นการลดต้นทุนการผลิต นำไปสู่การสร้างรายได้ที่มั่นคง และต่อยอดไปสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง"ดร.เพิก กล่าวทิ้งท้าย
นายญาณกิตติ์ ฮารุดีน ผู้อำนวยการการยางแห่งประเทศไทยเขตภาคกลางและภาคตะวันออก กล่าวว่า "โครงการขยายผลความสำเร็จเพิ่มมูลค่าของการทำสวนยางแบบอารยเกษตร ต่อยอดเทคโนโลยี นวัตกรรม Smart Farm" ถือเป็นเวทีสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าและความสำเร็จของเกษตรกรต้นแบบ
พร้อมเปิดโอกาสให้เกษตรกรรายอื่นได้เข้ามาเรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์จริง อันจะนำไปสู่การต่อยอดองค์ความรู้ สร้างรายได้ที่มั่นคง และขยายผลเป็นประโยชน์สู่เกษตรกรชาวสวนยางในวงกว้าง โดยที่ผ่านมา กยท.จ.อุทัยธานี ได้ดำเนินการส่งเสริมให้เกษตรกรทำสวนยางตามแนวทางอารยเกษตรอย่างต่อเนื่อง โดยการสนับสนุนปัจจัยการผลิตเพื่อการทำสวนยางแบบผสมผสาน เช่น การเลี้ยงสัตว์ ปลูกผลไม้ กาแฟ รวมถึงการเลี้ยงผึ้งโพรงและผึ้งชันโรงร่วมกับยางพารา ตลอดจนการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต อาทิ ระบบให้น้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ บ่อเคลือบยางพารา นวัตกรรมฮอร์โมนเอทิลีน และหมวกกันฝนต้นยางพารา ซึ่งล้วนเป็นเครื่องมือที่ช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และสร้างความยั่งยืนให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ได้อย่างแท้จริง
ภายในงานครั้งนี้มีกิจกรรมที่น่าสนใจ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้และการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ให้กับเกษตรกรชาวสวนยาง อาทิ การเสวนาในหัวข้อ "การเก็บเกี่ยวผลผลิตยางด้วยฮอร์โมนเอทิลีน ร่วมกับการกรีดและเจาะต้นยาง" และ "เพิ่มรายได้ ลดต้นทุนอย่างยั่งยืนด้วยแนวคิดสวนยางอารยเกษตร" การจัดนิทรรศการและสาธิตเทคนิคการใช้ฮอร์โมนเอทิลีนร่วมกับการกรีดยางหน้าสั้น การใช้ฮอร์โมนเอทิลีนร่วมกับการเจาะต้นยาง และการอัดแก๊สเอทิลีนด้วยระบบอัตโนมัติ การแสดงผลงานวิจัยและการพัฒนากระบวนการยางพาราด้วยระบบอัตโนมัติควบคุมระยะไกล และการแสดงสินค้าจากอาชีพเสริมของชาวสวนยาง ตลอดจนผลิตภัณฑ์แปรรูปของ กยท.
คอนเทนต์แนะนำ
Advertisement
