ปราบกลิ่นอับให้สิ้นซาก! 5 เทคนิคกู้ชีพเสื้อผ้าให้หอมละมุนช่วงหน้าฝน
เสื้อผ้าเหม็นอับเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนหรือเมื่อการตากผ้าไม่ถูกวิธี กลิ่นอับเกิดจากเชื้อราและแบคทีเรียที่เจริญเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ชื้น ต่อไปนี้คือวิธีแก้ไขและป้องกันกลิ่นอับที่ได้ผลดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
วิธีแก้ไขเมื่อเสื้อผ้ามีกลิ่นอับแล้ว
• ใช้น้ำส้มสายชู เติมน้ำส้มสายชูประมาณครึ่งถึงหนึ่งถ้วยลงในช่องใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มก่อนเริ่มซัก น้ำส้มสายชูจะช่วยกำจัดแบคทีเรียและกลิ่นอับได้ดี
• ใช้เบกกิ้งโซดา ใส่เบกกิ้งโซดาประมาณครึ่งถ้วยลงไปในถังซักพร้อมกับผงซักฟอก เบกกิ้งโซดาช่วยดูดซับกลิ่นและทำความสะอาดผ้าได้
• ใช้มะนาวและเกลือ บีบน้ำมะนาว โรยเกลือตามลงไป บริเวณจุดที่มีกลิ่นอับเป็นพิเศษ ใช้นิ้วถูหรือแปรงขัด จากนั้นนำผ้าไปตากแดด ก่อนนำผ้าไปซักตามปกติ กรดของมะนาวช่วยลดกลิ่นเหม็นอับบนเสื้อผ้าได้
• ซักด้วยน้ำร้อน หากเนื้อผ้าทนความร้อนได้ ให้ซักด้วยน้ำร้อนที่อุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียสขึ้นไป เพื่อฆ่าเชื้อโรคและเชื้อราที่ทำให้เกิดกลิ่นอับ
• ตากแดดจัด หลังซักเสร็จ ให้นำผ้าไปตากแดดจัดทันที แสงแดดช่วยฆ่าเชื้อและทำให้ผ้าแห้งสนิทเร็วขึ้น หากไม่มีแดด ควรตากในที่ที่มีลมพัดผ่าน
วิธีป้องกันไม่ให้เสื้อผ้ามีกลิ่นอับ
• อย่าหมักผ้าไว้นาน ไม่ควรทิ้งผ้าเปียกที่ใช้แล้วไว้ในตะกร้านานเกินไป เพราะจะทำให้เกิดกลิ่นอับได้ง่าย ควรซักทันทีหรือนำไปผึ่งลมให้แห้งก่อน
• ใช้ผงซักฟอกที่มีประสิทธิภาพ เลือกผงซักฟอกที่ออกแบบมาเพื่อลดกลิ่นอับหรือมีส่วนผสมที่ช่วยยับยั้งแบคทีเรีย
• ไม่ใส่เสื้อผ้าแน่นเกินไป เวลาซักผ้า อย่าใส่ผ้าในเครื่องซักผ้าแน่นเกินไป ควรให้มีช่องว่างเพื่อให้ผ้าหมุนเวียนและทำความสะอาดได้ทั่วถึง
• ทำความสะอาดเครื่องซักผ้า ควรทำความสะอาดเครื่องซักผ้าเป็นประจำ โดยเฉพาะส่วนยางขอบประตูและช่องใส่น้ำยาต่างๆ ซึ่งเป็นแหล่งสะสมของเชื้อราและแบคทีเรีย
• ตากผ้าให้แห้งสนิท การตากผ้าในที่โล่งและมีอากาศถ่ายเทจะช่วยให้ผ้าแห้งเร็ว และลดโอกาสการเกิดกลิ่นอับ หากไม่มีแดด ควรใช้พัดลมช่วยเป่า หรือตากในห้องที่มีหน้าต่างเปิดกว้าง
หากลองทำตามวิธีเหล่านี้แล้วแต่ปัญหากลิ่นอับยังไม่หาย อาจเป็นไปได้ว่าเสื้อผ้ามีเชื้อราฝังแน่นจนเกินไปในระดับที่การซักปกติไม่สามารถช่วยได้ อาจต้องพิจารณาเปลี่ยนเสื้อผ้าตัวนั้นไปเลยหรือลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการทำความสะอาดผ้า
Advertisement
