5 สิ่งในบ้านที่ทำให้เสี่ยงเกิดมะเร็งปอด ภัยเงียบที่หลายคนอาจมองข้ามไป
นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กชื่อ หมอเจด โดยระบุว่า 10 เรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับมะเร็งปอด พร้อมเผย 5 สิ่งในบ้าน ที่ทำให้เสี่ยงมะเร็งปอดได้ ใจความระบุว่า
1.ไม่สูบบุหรี่ก็เป็นมะเร็งปอดได้ และก็ไม่ใช่บุหรี่อย่างเดียวบุหรี่ไฟฟ้าหรือพอตแม่งก็ทำให้เกิดมะเร็งปอดได้ เพราะคนที่ไม่สูบได้รับควันจากพวกคนที่สูบนั่นแหละ
2.การเอกซเรย์ปอดธรรมดาอาจไม่พอ ต้องใช้ Low-dose CT ถึงจะเห็นระยะต้น มันมีหลายเหตุผลเนื่องจากว่าบางครั้งก้อนมันเล็กเกินไปหรือบางครั้งเงาหัวใจก็บังก้อนมะเร็งได้ แต่ในประเทศไทยยังไม่ได้ให้ตรวจแบบนี้ทุกคน
3.มะเร็งปอดมักเงียบ ไม่มีอาการ จนกว่าจะลาม หลายคนกว่าจะมีอาการก็มาเป็นเรื่องไอเรื้อรัง หรือหลาย ๆ คนที่เป็นโควิดมาก่อนก็อาจจะบอกว่าเป็นอาการหลังโควิดซึ่งจริง ๆ แล้วบางครั้งอาจจะเป็นมะเร็งปอดระยะ 3 หรือระยะ 4 ก็ได้
4.ไอเรื้อรัง เสียงแหบ น้ำหนักลดเร็ว ต้องรีบตรวจ ถ้าโชคดีอาจจะเป็นแค่วัณโรคปอดถ้าโชคร้ายก็ไม่ต้องพูด
5.ฝุ่น PM2.5 และควันจากการทำอาหารในบ้าน ก็เพิ่มความเสี่ยงได้ เอาจริง ๆ ทุกวันนี้อยากจะบอกว่าถ้าไม่เห็นควันก็ไม่ได้แปลว่า PM 2.5 มันดีนะ บางครั้งถ้าต้องออกแดดออกข้างนอกบ้านอย่าลืมพกหน้ากากเถอะ
6.มะเร็งปอดเป็นสาเหตุการตายอันดับต้น ๆ ของคนไทย ซึ่งที่ผ่านมาเป็นมะเร็งอันดับ 2 ของคนไทยแต่เชื่อว่าก็น่าจะอยู่แบบนี้แหละเพราะฝุ่น PM 2.5 มันเป็นปัญหาที่สำคัญจริง ๆ
7.การตรวจคัดกรองเร็วช่วยให้รักษาหายได้ในบางราย ซึ่งการตรวจคัดกรองถ้าให้ดีที่สุดก็อย่างที่เขียนไว้ในข้อ 2 ครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าไม่ได้ก็เอกซเรย์ธรรมดายังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
8.ผู้หญิงที่ไม่สูบบุหรี่ก็เป็นได้ โดยเฉพาะคนอยู่ในเมือง เป็นเพราะแฟนผู้ชายชอบสูบบุหรี่ใกล้ ๆ แต่จริง ๆ แล้วผมก็ต้องบอกว่ามลภาวะในเมืองมันแย่กว่าที่นอกเมืองหรือชานเมือง
9. 5 สิ่งในบ้านที่ทำให้เสี่ยงมะเร็งปอด : ควันธูป, ควันจากการทอดอาหาร, น้ำหอมปรับอากาศ, สเปรย์ทำความสะอาด, ฝุ่นสะสมในห้องแอร์
10.อย่ารอให้คนดังเป็นก่อนแล้วค่อยดูแลตัวเอง ปอดของคุณก็สำคัญเหมือนกัน เพราะทุกคนก็มีคนที่รักและก็มีคนที่รักเรา เพราะฉะนั้นหันมาดูแลตัวเองครับ
โดย 5 สิ่งในบ้านที่ทำให้เสี่ยงมะเร็งปอดนั้น ได้แก่
ควันธูป ภัยเงียบที่เต็มไปด้วยสารก่อมะเร็ง โดยธูปมักมีส่วนประกอบของผงไม้หอมหรือขี้เลื่อย ผสมด้วยกาวเพื่อยึดเกาะตัวก้าน และกลิ่นที่สกัดจากพืชหรือสารเคมี ซึ่งเมื่อธูปถูกเผาไหม้จะทำให้เกิดฝุ่นละอองและมีสารพิษระเหยออกมา ไม่ว่าจะเป็น เบนซีน บิวทาไดอีน และเบนโซเอไพรีน ซึ่งเมื่อสูดดมเข้าไปเป็นเวลานาน จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอดได้
ควันจากการทอดอาหาร โดยเฉพาะจากการใช้น้ำมันใช้ซ้ำหลายๆ ครั้ง จะทำให้เกิดสารประกอบโพลาร์ (Polar compounds) และสารประกอบโพลีไซคลิก อะโรมาติก ไฮโดรคาร์บอน (Polycyclic Aromatic Hydrocarbon; PAHs) โดยสารโพลาร์มักเป็นสาเหตุทำให้เกิดความเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูงและโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ส่วนสารโพลีไซคลิก อะโรมาติก ไฮโดรคาร์บอน ผู้ที่สูดดมไอระเหยของน้ำมันทอดอาหารเป็นเวลานานจึงมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอด
น้ำหอมปรับอากาศ ภัยก่อให้เกิดมะเร็งปอดที่หลายคนอาจจะไม่รู้ตัว ที่ก่อให้เกิดสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่ายเช่น ฟอร์มัลดีไฮด์ (Formaldehyde) และ เบนซีน (Benzene) ที่มักพบในน้ำหอมบางชนิด ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เสี่ยงต่อโรคหัวใจ มะเร็งปอด และหลอดลมอักเสบเรื้อรังได้
สเปรย์ทำความสะอาด บางชนิดปล่อยสารเคมีอันตรายออกมา เช่นสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) ซึ่งเป็นกลุ่มสารเคมีที่สามารถระเหยเป็นไอในอากาศได้ง่ายที่อุณหภูมิห้อง สารเหล่านี้พบได้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น สี วานิช แว็กซ์ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และเครื่องสำอางต่างๆ การสัมผัสกับ VOCs อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ ทำให้เกิดปัญหาทางระบบทางเดินหายใจเรื้อรัง อาการแพ้ ปวดหัว และเสี่ยงให้เกิดมะเร็งปอดได้ อย่างไรก็ตามการใช้สเปรย์ทำความสะอาด ควรเปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศระบายอากาศในบริเวณนั้นให้ดี และอย่าใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดในพื้นที่ปิดแคบๆ
ฝุ่นสะสมในห้องแอร์ ภัยเงียบขนาดเล็กที่ถูกพัดพามาในอากาศและเกิดขึ้นได้จากหลายแหล่งกำเนิด มีทั้งฝุ่นบนพื้นที่มองเห็นและฝุ่นลอยในอากาศที่มองไม่เห็น เป็นตัวการที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ในร่างกาย โดยเฉพาะฝุ่นที่มาจากเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น เครื่องปรับอากาศ หรือพัดลมที่ไม่ได้ทำความสะอาด จะทำให้ฝุ่นเกิดการสะสมและฟุ้งกระจายไปทั่วบ้านเมื่อเปิดใช้งาน โดยเฉพาะเชื้อรา Aspergillus ที่เล็กมาก และเมื่อเราหายใจเข้าไปสะสมในปอดทุกวัน อาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคทางเดินหายใจเรื้อรังหรือมะเร็งปอดได้
Advertisement