ทำความเข้าใจข้อมูลที่ถูกต้อง hiv ไม่ใช่ เอดส์ และการใช้ชีวิตประจำวันร่วมกัน ไม่ทำให้ติดเชื้อเอชไอวี
ปัจจุบัน HIV และ เอดส์ (AIDS) ยังคงเป็นคำที่หลายคนสับสนและมักใช้แทนกัน แม้ว่าทั้งสองคำจะเกี่ยวข้องกันอย่างใกล้ชิด แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทั้งสองมีความหมายที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับ HIV และเอดส์ไม่เพียงแต่ช่วยลดความกลัวหรืออคติที่มีต่อผู้ติดเชื้อเท่านั้น แต่ยังสามารถนำไปสู่การป้องกันและการดูแลรักษาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
เอชไอวี (HIV : Human Immunodeficiency Virus) เป็นเชื้อไวรัสที่ทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายโดยเฉพาะเม็ดเลือดขาวชนิด ซีดี 4 (CD4)
เอดส์ (AIDS : Acquired Immune Deficiency Syndrome) เป็นระยะที่ภูมิคุ้มกันของผู้ติดเชื้อเอชไอวีถูกทำลายอย่างรุนแรง หากไม่ได้รับการรักษา หรือรักษาล่าช้า อาจเสียชีวิตได้
ผู้ติดเชื้อเอชไอวี หากได้รับยาต้านเอชไอวีโดยเร็ว และกินยาสม่ำเสมอ จะไม่ป่วยเป็นโรคเอดส์
- 1-6 เดือนแรก หลังจากเริ่มกินยาต้านเอชไอวี เป็นช่วงที่ปริมาณไวรัสในเลือดลดลงอย่างรวดเร็ว
- 6 เดือนต่อมา กรณีกินยาทุกวัน จะทำให้ปริมาณเชื้อไวรัสในเลือด ตรวจไม่พบเชื้อ (Undetectable)
"ผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีวินัยการกินยาดี กินยาต้านเอชไอวีต่อเนื่องตลอดชีวิต จะตรวจไม่พบเชื้อ และมีสุขภาพที่ดี หากหยุดกินยาต้านเอชไอวีปริมาณเชื้อเอชไอวีในเลือด จะเพิ่มสูงขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์ และสามารถถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีไปสู่ผู้อื่นได้"
- เรียนร่วมกันได้
- ทำงานร่วมกันได้
- ใช้ห้องน้ำร่วมกันได้
- ใช้สระว่ายน้ำร่วมกันได้
- พูดคุยกันได้
- เป็นเพื่อนกันได้
- จับมือกันได้
- กินข้าวร่วมกันได้
ข้อมูล : กรมควบคุมโรค
Advertisement