ชีพจรลงพุง
“ซิซซ์เล่อร์” เปิด 5 สุดยอดเมนูพรีเมียมสเต๊กโฉมใหม่แห่งปี 2023

“ซิซซ์เล่อร์” เปิด 5 สุดยอดเมนูพรีเมียมสเต๊กโฉมใหม่แห่งปี 2023

หากเอ่ยถึงร้านอาหารประเภทสเต๊กและสลัดบาร์ “ซิซซ์เล่อร์” น่าจะเป็นชื่อแรก ๆ ที่ปรากฏขึ้นในใจของใครหลาย ๆ คน ด้วยความที่เป็นร้านอาหารที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 30 ปี และยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจากเมนูขึ้นชื่ออย่าง “สเต๊กสูตรซิกเนเจอร์” พร้อมด้วย “สลัดบาร์” ที่เป็นเอกลักษณ์ประจำร้าน ซึ่งซิซซ์เล่อร์มีเคล็ดลับอะไรที่ทำให้องค์ประกอบของวัตถุดิบต่าง ๆ กลายมาเป็นจุดเด่นสร้างการจดจำให้แก่ผู้บริโภคและสร้างความแตกต่างเหนือคู่แข่ง วันนี้จะชวนทุกคนร่วมย้อนเส้นทางความสำเร็จของซิซซ์เล่อร์ กับการจุดประกายความอร่อยที่มัดใจผู้บริโภคอย่างเหนียวแน่นตลอดสามทศวรรษในประเทศไทย 

1

จุดเริ่มต้น “ร้านสเต๊กและสลัดบาร์เจ้าแรก” ของประเทศไทย
การเดินทางของร้านซิซซ์เล่อร์ประเทศไทยเริ่มต้นตั้นในปีพ.ศ. 2535 เมื่อบริษัท เอส แอล อาร์ ที จำกัด ในเครือบริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) นำเข้าร้านสเต๊กชื่อดังสัญชาติอเมริกามาเปิดบริการในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ณ อาคารฟิฟฟ์ตี้ฟิฟฟ์พลาซ่า แรกเริ่มเดิมทีซิซซ์เล่อร์เป็นร้านอาหารขนาดเล็กที่มีเมนูสเต๊กเพียงไม่กี่รายการเท่านั้น แต่ด้วยความอร่อยตามแบบฉบับอเมริกันแท้ ๆ ของเมนูยอดนิยมอย่างฟิชแอนด์ชิป บาร์บีคิว พอร์ค บอสตัน หรือสเต๊กเนื้อบดเทอริยากิ รวมทั้งความแปลกใหม่ของเมนูสลัดบาร์ที่มีผักให้เลือกมากกว่า 30 ชนิด รวมถึงซุป และขนมหวานพร้อมให้ตักแบบไม่อั้น ไปจนถึงการเสิร์ฟชีสโทสต์สุดคลาสสิก ซึ่งเป็นคอนเซปต์ร้านอาหารที่ไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย ทำให้ซิซซ์เล่อร์กลายเป็นหนึ่งในร้านอาหารที่ได้รับความนิยมสูงสุด และเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะร้านอาหารประเภทสเต๊ก ซีฟู้ด และสลัดสไตล์ตะวันตกแนวหน้าของประเทศ

2

ประวัติศาสตร์ 30 ปี กับการรังสรรค์ความอร่อยที่ไม่เคยหยุดนิ่ง
โจทย์ใหญ่ข้อต่อมาของซิซซ์เล่อร์หลังความสำเร็จในก้าวแรก คือทำอย่างไรจึงจะสามารถยืนระยะและตอบโจทย์การรับประทานอาหารของลูกค้าได้อย่างต่อเนื่องในทุกเทรนด์และยุคสมัย นั่นทำให้ในช่วงหลังยุคบุกเบิกของร้านซิซซ์เล่อร์ เมนูสเต๊กแนวเอเชียนทวิสต์ขวัญใจลูกค้าชาวไทยอย่าง สเต๊กไก่ย่าง ซอสแจ่ว เสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียวร้อน ๆ หรือเมนูบียอนด์ เบอร์เกอร์ อีกหนึ่งเมนูยอดฮิตสำหรับลูกค้าสายรักสุขภาพที่ได้รับการเพิ่มเติมเข้ามา พร้อมกันนี้ ยังได้มีการคิดค้นรายการอาหารในรูปแบบที่สะดวกกับการเดลิเวอรีและซื้อกลับบ้าน ที่ให้ความอร่อยไม่แพ้การรับประทานที่หน้าร้าน ทำให้ซิซซ์เล่อร์จึงยังคงเป็นร้านอาหารยอดนิยมของคนไทยตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี

3

เดินหน้าสานต่อตำนานบทใหม่ ส่งมอบความ Fresh, Premium และ Quality ลุยปี 2023 ทั้งสลัดบาร์เมนูใหม่ๆ และล่าสุด 5 เมนูสเต๊กระดับพรีเมียม และไม่ว่าสไตล์ของอาหารจะมีการปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัยเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่มีไลฟ์สไตล์แตกต่างกันไป แต่สิ่งหนึ่งที่ซิซซ์เล่อร์ยังคงรักษาไว้อย่างเหนียวแน่นตลอดมา คือเอกลักษณ์ของ “สเต๊กและสลัดบาร์” ซึ่งเป็นดีเอ็นเอหลักของร้าน จากการสั่งสมประสบการณ์กว่า 30 ปี ซิซซ์เล่อร์พร้อมแล้วที่จะสร้างตำนานบทใหม่ที่เน้นเรื่องการส่งมอบความสดใหม่ (Fresh) ความพรีเมียม (Premium) และคุณภาพ (Quality) โดยเมื่อช่วงต้นปี 2023 ได้รังสรรค์เมนูสลัดบาร์สุดพิเศษที่สร้างความตื่นเต้นแก่ลูกค้า เช่น สลัดบาร์ “Farmer’s Festival Watermelon” กับสารพัดเมนูสลัดจากแตงโมหวานฉ่ำชื่นใจส่งตรงจากไร่เกษตรกรไทย และล่าสุดกับการรังสรรค์เมนูสเต๊กภายใต้คอนเซปต์ “OVER 30 YEARS OF SIZZLING EXPERIENCE” การนำเข้าสุดยอดวัตถุดิบจากต่างประเทศ ผสานกับการสรรค์สร้างความอร่อยโดยเชฟด้านสเต๊กตัวจริง สู่การยกระดับเมนูสเต๊กให้มีคุณภาพระดับพรีเมียมขึ้นไปอีกขั้น โดยไม่มีการเพิ่มราคาเมนูอาหาร พร้อมให้ลูกค้าเปิดประสบการณ์การลิ้มลองสเต๊กระดับโลกในหลากหลายรูปแบบ

4

เริ่มด้วย สเต๊กริบอายจานร้อนพร้อมหินร้อนสไตล์ญี่ปุ่น (Sizzling Ribeye Steak) เนื้อวัวส่วนติดซี่โครงนำเข้าจากออสเตรเลีย ย่างให้ได้ความสุกของเนื้อตามต้องการตั้งแต่ระดับ Rare ไปจนถึง Well-done เพิ่มลูกเล่นด้วยหินร้อนสไตล์ญี่ปุ่น ที่เมื่อวางเนื้อสเต๊กลงไป ก็จะได้ยินเสียงฉ่าของเนื้อที่ค่อย ๆ สุกขึ้น ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกเพิ่มระดับความสุกของเนื้อได้ตามความต้องการ ยิ่งรับประทานคู่กับซอสสุดพิเศษเฉพาะของซิซซ์เล่อร์ พร้อมด้วยผักย่างและมันอบ ก็จะได้สัมผัสกับความอร่อยที่ไม่ว่าใครก็ยากจะต้านทาน ทั้งหมดนี้ในราคา 999 บาท ต่อด้วย สเต๊กเนื้อนิวยอร์กจานร้อนพร้อมหินร้อนสไตล์ญี่ปุ่น (Sizzling New York Striploin Steak) อีกหนึ่งสุดยอดเนื้อคัตติ้งสไตล์อเมริกันที่มีสัดส่วนระหว่างเนื้อและไขมันกำลังดี ย่างบนเปลวไฟจนได้ที่ เสิร์ฟร้อน ๆ บนจานหินร้อนสไตล์ญี่ปุ่นเพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่นุ่มชุ่มฉ่ำ มาพร้อมกับซอสพริกไทยดำ เฟรนช์ฟรายส์ทอดกรอบ และผักย่างนานาชนิดในราคา 899 บาท

5

ส่วนสายเนื้อหมูต้องลอง ซิซซ์เล่อร์ ซิกเนเจอร์คัต ซี่โครงหมูบาร์บีคิว (Sizzler Signature Cut BBQ Pork Ribs) อีกหนึ่งเมนูคลาสสิกตลอดกาล พบกับซี่โครงหมูบาร์บีคิวชิ้นโตที่หมักด้วยเครื่องเทศเข้มข้นเพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสนุ่มละมุนลิ้น ก่อนนำไปย่างจนสุกทั่วถึงทั้งชิ้น พร้อมเคลือบด้วยซอสบาร์บีคิวเข้มข้นอย่างพิถีพิถัน ทวีคูณความอร่อยด้วยมันบดเนื้อเนียนราดซอสเกรวี่ชุ่มฉ่ำในราคา 799 บาท ต่อกันที่เมนูอาหารทะเลอย่าง สเต๊กปลาแซลมอนซูวีสไตล์นอร์ดิก (Sous Vide Salmon Steak Nordic Style) สเต๊กปลาแซลมอนชิ้นโตที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 และสารพัดคุณประโยชน์ต่อร่างกาย ปรุงให้ค่อย ๆ สุกด้วยกรรมวิธีการซูวี เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสนุ่มนวลละมุนลิ้น และยังเพิ่มความอร่อยเหนือระดับด้วยโปเตโต้เวดเจสชิ้นหนาในราคา 599 บาท ปิดท้ายด้วยการยกระดับวัตถุดิบไทยสู่ไฟน์ได้นิ่งกับเมนู สเต๊กปลากะพงย่าง ซอสซีฟู้ดมาโย (Sea Bass Steak with Seafood Mayo Sauce) ปลากะพงไทยเนื้อแน่น ย่างโดยเชฟผู้เชี่ยวชาญบนอุณหภูมิที่พอเหมาะ เพื่อให้ได้เนื้อปลานุ่มชุ่มฉํ่าพร้อมหนังบางกรอบ จับคู่ความอร่อยกับมันบดและผักโขม ในราคาสุดคุ้ม 499 บาท

6

นายอนิรุทร์ เดวิด คอลลินส์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอสแอลอาร์ที จำกัด (ซิซซ์เล่อร์) ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลากว่าสามทศวรรษที่ผ่านมา ซิซซ์เล่อร์ ไม่เคยหยุดนิ่งที่จะพัฒนาเมนูอาหารใหม่ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปีนี้ที่ความนิยมบริโภคสเต๊กของลูกค้าชาวไทยเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งนอกจาก 5 เมนูสเต๊กพรีเมียมใหม่ที่พร้อมให้ลูกค้าได้ร่วมลิ้มลองที่ร้านซิซซ์เล่อร์ทุกสาขาแล้ว ในอนาคตจะมีการนำเสนอสเต๊กพรีเมียมเมนูซีรีส์อื่น ๆ เพิ่มเติมตามลำดับ ควบคู่ไปกับการรักษาคุณภาพของสลัดบาร์ซึ่งเป็นหัวใจหลักของร้าน เพื่อตอบโจทย์การรับประทานอาหารของผู้บริโภคอย่างครบวงจร ตามปนิธานของร้านที่มุ่งมั่นเป็นร้านอาหารแนวสเต๊กและสลัดบาร์เบอร์หนึ่งของประเทศไทย”