แบรนด์ IM ถือเป็นตัวแทนความล้ำหน้าด้านระบบช่วยขับ และเทคโนโลยีที่ทันสมัยของทาง MG วันนี้เราจะพาไปสัมผัสลองขับทางไกล กับการขึ้นลงภูทับเบิก ด้วย MG IM6 รุ่น Premium กัน โดยรุ่นนี้ถือเป็นรุ่นเริ่มต้นของ IM6 ด้วยค่าตัวที่ถูกสุดในรุ่นย่อย
IM6 ถือเป็นรถไฟฟ้าระดับเรือธงรุ่นหนึ่ง มีคู่แข่งระดับพรีเมียม ไม่ว่าจะ Xpeng G6, Avatr 11 หรือจะ Byd Sealion 7 แต่สิ่งที่ IM6 ดูได้เปรียบคู่แข่งก็มีหลายปัจจัย ทั้งแบรนด์ MG ก็ถือว่ามีรากฐานแน่นหนาในไทย รวมถึงค่าตัวที่ดูเร้าใจกว่าคู่แข่งในระดับเดียว อย่างคันนี้เริ่มต้น 1.3999 ล้านบาทเท่านั้น
ส่วนเรื่องการขับขี่ในการทดสอบครั้งนี้ มันสะท้อนออกมาในเรื่องการขับขี่ที่ค่อนข้างโดดเด่น ช่วงล่างนุ่ม ภายในเงียบ โดยเฉพาะอย่างตัวเบาะนั่งโดยสารในรถคันนี้ มันดีที่สุดในคลาสสามารถเคลมได้แบบนี้ แน่นอนเราไม่สามารถบอกได้ในระยะยาวว่าตัวเบาะจะยุบไหม จะยังใช้งานดีในระยะยาวหรือเปล่า แต่ตัวเบาะที่ถูกออกแบบมามันไม่ใช่แค่นุ่น แต่มันสัมผัสกับสรีระร่างกายได้ค่อนข้างลงตัว ทำให้การทดสอบทางไกลรอบนี้ มันแทบไม่เมื่อยล้าอย่างไม่น่าเชื่อ
สำหรับพละกำลังจากมอเตอร์ตัวเดียวที่ล้อหลังที่ 295 แรงม้า มันเพียงพออยู่แล้ว แต่ถ้าใครไม่หนำใจ อยากให้แรงกว่านี้ ก็ต้องปีนขึ้นไปที่รุ่นย่อยข้างบน เติมเงินอีกหน่อยความอร่อยก็เพิ่มขึ้น แต่สำหรับคันนี้ พละกำลังเท่านี้ มันก็พาเราขึ้นภูทับเบิกได้แบบสบายๆ แบบไม่ต้องกดคันเร่งลึกแม้แต่น้อย
สำหรับระยะทางการวิ่ง เราปรับการแสดงผลหน้าจอให้เป็น WLTP เพื่อให้ใกล้เคียงความจริง ก็สร้างความตกใจในช่วงแรกเล็กน้อยเหมือนกัน เพราะจากระยะในแคตตาลอกระบุที่ 550 กม. ตามมาตรฐาน NEDC แต่พอเปลี่ยนเป็น WLTP มันแสดงผลแค่ 3xx กม.เท่านั้น แต่พอขับใช้งานจริง เรากลับพบว่ามันวิ่งได้ไกลกว่าตัวเลขที่แสดงผ่านหน้าจอ ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีถ้ามองในมุมนี้ เราจะได้ไม่ปล่อยจนแบตเตอรีใกล้หมด บริหารการชาร์จในการเดินทางไกลได้อย่างปลอดภัย
ส่วนการทดลองขับเป็นอย่างไรบ้าง เจอเหตุการณ์อะไรบ้าง สปอยว่ามีเรื่องให้หัวเสียเหมือนกัน รับชมคลิปรีวิว MG IM6 Premium ได้เลย