โตโยต้า ไฮลักซ์เริ่มผลิตครั้งแรกในปี พ.ศ. 2511 (Gen 1) ในฐานะรถกระบะขนาดเล็กที่เน้นความทนทาน ก่อนจะเข้าสู่ยุค Gen 3 (1978) ที่เริ่มมีรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) เป็นครั้งแรก
ยุคที่คนไทยคุ้นเคยเริ่มจาก Gen 4 (Hilux Hero) และ Gen 5 (Hilux Mighty-X)ในปี 1988 ซึ่งได้รับความนิยมสูงสุดในด้านความอึด ก่อนจะพัฒนาเป็น Gen 6 (Hilux Tiger) ในปี 1997 ที่เริ่มใช้เครื่องยนต์ดีเซล D4D หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์
การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2547 ด้วย Gen 7 (Hilux Vigo) ในโครงการ IMV ที่เน้นความสะดวกสบายและสมรรถนะของเครื่องยนต์ Common Rail จากนั้นพัฒนาต่อเป็น Gen 8 (Hilux Revo) ในปี 2558 ที่เน้นเครื่องยนต์ GD ที่ประหยัดและแรงขึ้น พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัย
และล่าสุดวันนี้ 10 พ.ย. 2568 คือการเปิดตัว Hilux Travo (Gen 9) ในไทย ที่มาพร้อมแพลตฟอร์มใหม่ และทางเลือกทั้งดีเซล Mild Hybrid และรุ่นไฟฟ้า 100% Hilux Travo-e
การมาถึงของ TOYOTA HILUX TRAVO นับเป็นการเปิดศักราชใหม่ของรถกระบะเจ้าตลาดในประเทศไทย ด้วยการยกระดับที่ครอบคลุมทุกมิติ จากตำนานความแกร่งของ Hilux สู่การออกแบบที่ผสมผสานความทรหดดุดันแบบออฟโรดเข้ากับความคล่องตัว (Agile) ของยุคสมัยใหม่ โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ด้านหน้าที่ใช้ดีไซน์ Cyber Sumo ที่แข็งแกร่งและมั่นคง
สิ่งที่น่าจับตาที่สุดคือการนำเสนอขุมพลังทางเลือกที่หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์การใช้งานทุกรูปแบบ โดยยังคงรักษาเครื่องยนต์ดีเซล GD SUPER POWER 2.8 ลิตร ไว้ พร้อมการปรับจูนที่ทรงพลังถึง 204 แรงม้า และเทคโนโลยี "Dynamic Cloud" ที่ช่วยเพิ่มทั้งสมรรถนะการทรงตัวและความนุ่มนวลในการขับขี่ ขณะเดียวกัน Toyota ยังได้เปิดตัว HILUX TRAVO-e รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อแบบมอเตอร์คู่ ซึ่งเป็นรถกระบะไฟฟ้า 100% อย่างเป็นทางการ พร้อมระบบปกป้องแบตเตอรี่ "DIAMOND GUARD" ที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยสูงสุด
ด้วยการจัดเต็มทั้งระบบความปลอดภัย เช่น ถุงลมนิรภัยสูงสุด 7 ตำแหน่ง และระบบช่วยเหลือการขับขี่ Toyota Safety Sense ทำให้ TRAVO ใหม่ ไม่ได้เป็นเพียงพาหนะสำหรับการบรรทุกเท่านั้น แต่ยังเป็นยานยนต์ที่มอบความมั่นใจ ความสะดวกสบาย และเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าในระดับพรีเมียม ถือเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ที่ท้าทายในกลุ่มรถกระบะแห่งอนาคตอย่างแท้จ
TOYOTA HILUX TRAVO จะมาในรุ่นยกสูงเท่านั้น โดยมีทั้งหมด 4 Segments (18 รุ่นย่อย)
- HILUX TRAVO OVERLAND ขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกสูง และ ขับเคลื่อน 4 ล้อ
- HILUX TRAVO PRERUNNER ขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกสูง
- HILUX TRAVO 4TREX ขับเคลื่อน 4 ล้อ
- HILUX TRAVO STANDARD CAB 4TREX ขับเคลื่อน 4 ล้อ
ราคา TOYOTA HILUX TRAVO ใหม่ ทั้ง 18 รุ่น
- Hilux Travo 4Trex Standard Cab (เกียร์ธรรมดา): 774,000 บาท
- Hilux Travo Prerunner Smart Cab Smart (เกียร์ธรรมดา): 789,000 บาท
- Hilux Travo 4Trex Standard Cab (เกียร์อัตโนมัติ): 826,000 บาท
- Hilux Travo Prerunner Smart Cab Smart (เกียร์อัตโนมัติ): 839,000 บาท
- Hilux Travo Prerunner Smart Cab Premium (เกียร์ธรรมดา): 859,000 บาท
- Hilux Travo Prerunner Double Cab Smart (เกียร์ธรรมดา): 895,000 บาท
- Hilux Travo Prerunner Smart Cab Premium (เกียร์อัตโนมัติ): 909,000 บาท
- Hilux Travo Prerunner Double Cab Smart (เกียร์อัตโนมัติ): 945,000 บาท
- Hilux Travo Prerunner Double Cab Premium (เกียร์ธรรมดา): 949,000 บาท
- Hilux Travo Prerunner Double Cab Premium (เกียร์อัตโนมัติ): 999,000 บาท
- Hilux Travo 4Trex Smart Cab Premium (เกียร์ธรรมดา): 984,000 บาท
- Hilux Travo 4Trex Smart Cab Premium (เกียร์อัตโนมัติ): 1,029,000 บาท
- Hilux Travo 4Trex Double Cab Premium (เกียร์อัตโนมัติ): 1,090,000 บาท
- Hilux Travo Prerunner Overland: 1,102,000 บาท
- Hilux Travo Prerunner Overland Plus: 1,176,000 บาท
- Hilux Travo 4Trex Overland: 1,292,000 บาท
- Hilux Travo 4Trex Overland Plus: 1,366,000 บาท
- Hilux Travo-e Double Cab 4Trex (ไฟฟ้า): 1,491,000 บาท
HILUX TRAVO OVERLAND และ HILUX TRAVO PRERUNNER/4TREX
จุดเด่นหลัก
- ดีไซน์ภายนอก ผสมผสานความ "แข็งแกร่ง (Tough)" เข้ากับความ "คล่องตัว (Agile)"
- ด้านหน้า ดีไซน์ใหม่แบบ Cyber Sumo แข็งแกร่ง มั่นคง และทรงพลัง
- เครื่องยนต์ GD SUPER POWER 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้าเกียร์ AT แรงบิด 500 นิวตัน-เมตรเกียร์ MT แรงบิด 420 นิวตัน-เมตร
- เทคโนโลยี "Dynamic Cloud" ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ การควบคุม การทรงตัว และความนุ่มนวลให้ดียิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มสมรรถนะและความสบายในทุกมิติ
ดีไซน์ภายนอก (TRAVO OVERLAND)
- ไฟหน้า LED พร้อมระบบ Daytime Running Light โฉบเฉี่ยว สะดุดตาทุกสายตา
- สปอร์ตบาร์เสริมความแกร่ง พร้อมไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่
- ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว
ดีไซน์ภายใน และฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย (TRAVO PRERUNNER/4TREX)
- หน้าจอ จอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 7 นิ้ว แบบดิจิทัล
- เครื่องเสียง เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
- ชาร์จไร้สาย พร้อม Wireless Charger
- เบาะนั่ง ใช้วัสดุผ้า Caretex นั่งสบาย ทำความสะอาดง่าย
- เบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อมระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ Auto Brake Hold
- สตาร์ท ระบบ Push Start สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยปลายนิ้ว
- ระบบควบคุม ระบบควบคุมเพลาขับ (Auto Limited Slip Differential)
ระบบความปลอดภัย (TRAVO OVERLAND/PRERUNNER/4TREX)
- ถุงลมนิรภัย ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS 7 ตำแหน่ง (ในรุ่น Overland Plus) หรือ 3 ตำแหน่ง (ในรุ่น Prerunner/4TREX)
- ระบบช่วยขับขี่ ระบบ Blind Spot Monitor และ Rear Cross Traffic AlertRear View Camera กล้องมองภาพขณะถอยหลังParking sensor สัญญาณเตือนระยะหน้าและหลังระบบควบคุมเพลาขับ: (Auto Limited Slip Differential)
HILUX TRAVO-e (กระบะไฟฟ้าตัวจริง)
จุดเด่นหลัก
- รุ่นที่มีจำหน่าย HILUX TRAVO-e มาในรุ่น Double Cab 4TREX เท่านั้น
- ระบบขับเคลื่อน ระบบ Dual Motor มอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ All-Wheel Driveกำลังรวมสูงสุด 196 แรงม้า (144 กิโลวัตต์)มอเตอร์ไฟฟ้าหน้าหลังแรงบิดสูงสุด 269 นิวตัน-เมตร
- แบตเตอรี่ ความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 59.2 kWhระยะทาง: 315 กม. (อ้างอิงจาก Eco Sticker ตามมาตรฐาน NEDC)
- การชาร์จ รองรับการชาร์จแบบ AC สูงสุดที่ 10 kWแบบ DC สูงสุดถึง 125 kW
- เทคโนโลยี "DYNAMIC CLOUD" ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ การควบคุม การทรงตัว และความนุ่มนวลให้ดียิ่งขึ้น
ระบบความปลอดภัยของแบตเตอรี่และชุดขับเคลื่อนไฟฟ้า
- มั่นใจกับ "DIAMOND GUARD" เทคโนโลยีปกป้องแบตเตอรี่และชุดขับเคลื่อนไฟฟ้าซอฟต์แวร์ปกป้อง: ซอฟต์แวร์ปกป้องแบตเตอรี่และชุดขับเคลื่อนไฟฟ้าด้วยการส่งเสริมความปลอดภัย ทั้งด้านหน้าและใต้ท้องรถแบตเตอรี่ดีไซน์พิเศษ: แบตเตอรี่ดีไซน์รูปทรง Diamond Shape ช่วยลดความเสียหายต่อแบตเตอรี่จากการบิดตัวของเฟรมโครงสร้างกันกระแทก: เสริมความปลอดภัยจากการกระแทกบริเวณรอบขอบแบตเตอรี่ด้วยโครงสร้างสูงสุดซับแรงกระแทก
การออกแบบภายใน
- เบาะ เบาะนั่งออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์หนัง Softex นุ่มนั่งสบาย
- พวงมาลัย พวงมาลัยขนาดใหญ่ ช่วยให้ควบคุมได้เฉียบคม ตอบสนองดี และลดแรงสั่นสะเทือน
ระบบช่วงล่าง
- ระบบช่วงล่างแบบ หนึบ เกาะถนน ด้านหลังแบบ De-Dion
- แบตเตอรี่ติดตั้งบริเวณกึ่งกลางเฟรม ช่วยให้จุดศูนย์ถ่วงต่ำ เพิ่มความมั่นคงและสมดุลของรถ
HILUX TRAVO STANDARD CAB 4TREX
จุดเด่นหลัก
- ดีไซน์ภายนอก ผสมผสานความ "แข็งแกร่ง (Tough)" เข้ากับความ "คล่องตัว (Agile)"
- ด้านหน้า ดีไซน์ใหม่แบบ Cyber Sumo แข็งแกร่ง มั่นคง และทรงพลัง
- เครื่องยนต์ GD SUPER POWER 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้าเกียร์ AT แรงบิด 500 นิวตัน-เมตรเกียร์ MT แรงบิด 420 นิวตัน-เมตร
เพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนน การควบคุมและการทรงตัวที่ดียิ่งขึ้น
- พวงมาลัย พวงมาลัยขนาดใหญ่ ช่วยให้ควบคุมได้เฉียบคม ตอบสนองดี และลดแรงสั่นสะเทือน
- จุดยึดพื้นตัวถัง เพิ่มจุดยึดพื้นตัวถัง เสริมความแข็งแรงของห้องโดยสาร เพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัว
- แท่นเก๋งและแท่นเครื่องยนต์ แท่นเก๋งและแท่นเครื่องยนต์เสริมลดแรงสั่นสะเทือนและเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่
- ยางรองแท่นเครื่อง ยางรองแท่นเครื่องแบบไฮดรอลิก ลดแรงสั่นสะเทือนเข้าสู่ห้องโดยสาร
- ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อม Differential Lock ที่เฟืองท้าย
ระบบความปลอดภัย
- ถุงลมนิรภัย ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS 3 ตำแหน่ง
- ระบบช่วยขับขี่ ระบบ Blind Spot Monitor และ Rear Cross Traffic AlertRear View Camera กล้องมองภาพขณะถอยหลังParking sensor สัญญาณเตือนระยะหน้าและหลัง
สีตัวถัง
HILUX TRAVO (6 สีให้เลือก)
- ใหม่ สีเทา SULFUR METALLIC
- ใหม่ สีเทา ASH
- สีขาวมุก PLATINUM WHITE PEARL MICA (เพิ่ม 10,000 บาท)
- สีขาว SUPER WHITE II (ลด 7,000 บาท)
- สีดำ ATTITUDE BLACK MICA
- สีเงิน SILVER METALLIC
HILUX TRAVO-e Double Cab 4TREX (2 สีให้เลือก)
- ใหม่ สีเทา ASH
- สีขาวมุก PLATINUM WHITE PEARL MICA (เพิ่ม 10,000 บาท)
การเปิดตัว TOYOTA HILUX TRAVO ถือเป็นการยกระดับครั้งใหญ่ของรถกระบะเจ้าตลาดในไทย ด้วยดีไซน์ Cyber Sumo ที่ผสมผสานความแกร่งแบบออฟโรดเข้ากับความคล่องตัว โตโยต้ายังคงเครื่องยนต์ดีเซล GD SUPER POWER 2.8 ลิตร (204 แรงม้า) พร้อมเทคโนโลยี "Dynamic Cloud" ที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะการทรงตัวและความนุ่มนวลอย่างเห็นได้ชัด สิ่งที่น่าจับตาที่สุดคือการเปิดตัว HILUX TRAVO-e รุ่นมอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ (EV 100%) อย่างเป็นทางการ พร้อมระบบปกป้องแบตเตอรี่ "DIAMOND GUARD" เพื่อความปลอดภัยสูงสุด TRAVO ใหม่ มาพร้อมระบบความปลอดภัยเต็มพิกัด เช่น ถุงลมนิรภัยสูงสุด 7 ตำแหน่ง และ Toyota Safety Sense โดยมีให้เลือก 4 Segments หลัก (รวมถึงรุ่นยกสูงเท่านั้น) ทั้งหมดนี้ทำให้ TRAVO ไม่ได้เป็นเพียงรถบรรทุก แต่เป็นยานยนต์พรีเมียมที่มอบเทคโนโลยี ความสะดวกสบาย และความมั่นใจ ถือเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ที่ท้าทายในกลุ่มรถกระบะแห่งอนาคต
ส่วน HILUX อีก 3 รุ่นหลัก ได้แก่ HILUX REVO / HILUX TRAVO และ HILUX CHAMP ยังคงทำตลาดอยู่
- HILUX REVO จะเน้นการใช้งานเชิงธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มโลจิสติกส์ และผู้ที่ชื่นชอบการตกแต่งรถ
- HILUX TRAVO เน้นฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ลูกค้าหลากหลายกลุ่ม ทั้ง Off road และ Urban Lifestyle ขณะที่ HILUX TRAVO-e เหมาะสำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพระดับพรีเมียม และองค์กรที่มีวิสัยทัศน์
- HILUX CHAMP จะเน้นไปที่ตลาด Conversion ตอบโจทธ์ธุรกิจ และผู้ใช้ส่วนตัวที่รักการตกแต่งรถ