ZEEKR แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมจาก Geely Holding Group ได้เปิดตัว ZEEKR 9X อย่างเป็นทางการที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2568 โดยเป็นรถ SUV ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) รุ่นเรือธงที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีล้ำสมัยและดีไซน์สุดหรู
สมรรถนะ ZEEKR 9X
ZEEKR 9X พัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์ม SEA-S และเป็นรุ่นแรกที่ติดตั้งระบบอัจฉริยะ SEA Super Hybrid ของแบรนด์ มอบสมรรถนะระดับมาสเตอร์คลาส
กำลังสูงสุด 1,030 กิโลวัตต์ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 3.1 วินาที ระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วน (CLTC) สูงสุด 380 กิโลเมตร ระยะทางวิ่งรวมสูงสุด (CLTC) ไกลถึง 1,250 กิโลเมตร สถาปัตยกรรม รองรับ 900V เทคโนโลยีชาร์จ รองรับ 6C สามารถชาร์จไฟจาก 20-80% ได้ในเวลาเพียง 9 นาที (ขึ้นอยู่กับปัจจัยการชาร์จ)
ปรัชญาการออกแบบ "New Luxury"
การออกแบบของ ZEEKR 9X นำโดย Stefan Sielaff (Vice President of Global Design at Geely Auto Group) มุ่งเน้นปรัชญา “New Luxury” ที่ผสานความสง่างามและความล้ำสมัยเข้าด้วยกัน โดยได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมมาสเตอร์พีซที่สะท้อนถึง “พลังอำนาจ” ของผู้นำ
ด้านหน้า ฝากระโปรงขนาดใหญ่ 2.15 ตร.ม. พร้อมกระจังหน้าโครเมียมชิ้นเดียวที่กว้าง 1.2 เมตร (ได้แรงบันดาลใจจาก "รากฐานของพระราชวังหลวง") ไฟหน้า ชุดไฟหน้าแบบแยกส่วน "Vast Star Diamond Matrix" ประดับด้วยเหลี่ยมเพชรมากถึง 42,242 เหลี่ยม ด้านข้าง เส้นสายตรงและคมชัดชวนให้นึกถึง เรือยอชต์สุดหรู ด้านหลัง ไฟท้ายทรงเพรียวบางพาดผ่านตลอดความกว้างตัวรถ ล้อ ล้ออัลลอยขึ้นรูปขนาด 22 นิ้ว ผิวเป็นกระจกเงา ประตูหลัง ออกแบบให้โอ่อ่า มอบทางเข้าออกที่กว้างขวาง
ห้องโดยสารหรูพร้อมเทคโนโลยี
ZEEKR 9X เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัยระดับพรีเมียม
แชสซี "Haohan AI Digital Chassis" พร้อมระบบช่วงล่างถุงลมแบบ Dual-Chamber ที่ปรับระดับความสูงได้ถึง 110 มิลลิเมตร และโหมดการขับขี่อัจฉริยะ ความปลอดภัย โครงสร้าง Haohan Safety Armor ผ่านการทดสอบการชนแบบสี่ทิศทางที่ความเร็ว 105 กม./ชม. เป็นครั้งแรกของโลก รวมถึงระบบควบคุมแรงลมด้านข้าง และระบบหลบหลีกสิ่งกีดขวางอัตโนมัติ ห้องโดยสาร จัดวางแบบ 3 แถว 6 ที่นั่ง พร้อมเบาะนั่ง Cloud Lounge ความบันเทิง หน้าจอสำหรับผู้โดยสารตอนหลังขนาด 17 นิ้ว และระบบเครื่องเสียงพรีเมียมรอบทิศทางจาก Naim กำลังขับสูงถึง 3,800 วัตต์
ราคาและการวางจำหน่าย
ZEEKR 9X วางจำหน่ายในประเทศจีนด้วยราคาเริ่มต้นระหว่าง 465,900 – 599,900 หยวน และพร้อมส่งมอบให้ลูกค้าได้ทันที อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีกำหนดการนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยในขณะนี้