มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น (Mitsubishi Motors Corporation) ประกาศศักดาในวงการมอเตอร์สปอร์ตเอเชียอีกครั้ง หลังจากทีมแข่ง มิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต (Mitsubishi Ralliart) ที่ได้รับการสนับสนุนทางเทคนิคจากสำนักงานใหญ่ประเทศญี่ปุ่น สามารถคว้าแชมป์รายการ เอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ 2025 (Asia Cross Country Rally 2025 / AXCR 2025) ที่จัดขึ้นในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 8 – 16 สิงหาคมที่ผ่านมา
ทีมลงแข่งขันด้วย Mitsubishi Triton รุ่นสเปก T1 หรือรถแข่งครอสคันทรีดัดแปลง บนเส้นทางหฤโหดรวมกว่า 2,316.32 กิโลเมตร โดยมีเส้นทาง Special Stage (SS) ถึง 1,002.95 กิโลเมตร ครอบคลุมทั้งทางหินลูกรัง ถนนโคลน เส้นทางการเกษตร และการลุยผ่านพื้นที่ธรรมชาติสุดท้าทาย
นอกจากนี้ ทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต ยังคว้ารางวัลประเภททีม (Team Award) เป็นครั้งที่ 2 โดยพิจารณาจากเวลารวมของรถ 2 คันแรกที่ทำผลงานได้ดีที่สุด ซึ่งถือเป็นการทวงคืนตำแหน่งแชมป์ทีมในรอบ 2 ปี
ฮิโรชิ มาซูโอกะ ผู้อำนวยการทีม “เป้าหมายสูงสุดในปีนี้ของเราคือการคว้าชัยชนะ และผมดีใจอย่างยิ่งที่ทีมของเราสามารถทำได้ พร้อมกับพิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและห้าวหาญในแบบฉบับ Mitsubishi Motors-ness การคว้ารางวัลของทีมยังสะท้อนถึงพลังแห่งความร่วมแรงร่วมใจและความมุ่งมั่นของทุกคน การยกระดับประสิทธิภาพของไทรทันให้โดดเด่นทั้งในด้านเสถียรภาพเมื่อต้องขับขี่ด้วยความเร็วสูงและความคล่องตัวในเส้นทางคดเคี้ยว ทำให้เราก้าวล้ำเหนือกว่าคู่แข่งที่ใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่กว่าได้ และในปีหน้า เราจะยังคงเดินหน้าพัฒนาเพื่อยกระดับศักยภาพของรถให้สูงยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มความเป็นต่อในการแข่งขันต่อไป”
ชยพล โยธา นักแข่งรถหมายเลข 112 “ผมดีใจมากที่คว้าแชมป์คะแนนรวมกลับมาได้อีกครั้ง ต้องขอขอบคุณทีมงานทุกท่านที่ทำงานกันได้อย่างเพอร์เฟ็กต์ และสร้างรถที่สมบูรณ์แบบให้กับผม การแข่งขันปีนี้โหดสุด ๆ เพราะมีทั้งทางหิน ถนนโคลน และพื้นลื่น แต่ด้วยความทนทานและการควบคุมที่ยอดเยี่ยมของไทรทัน ทำให้ผมสามารถนำรถผ่านโค้งต่าง ๆ ด้วยความเร็วสูงและวิ่งบนทางโคลนแคบ ๆ ได้อย่างมั่นใจ จนสร้างผลงานได้ในระดับท็อปฟอร์ม ปีหน้าผมจะกลับมาเพื่อป้องกันแชมป์อีกครั้ง”
คัตสึฮิโกะ ทากูชิ นักแข่งรถหมายเลข 105 “แม้ผมจะจบอันดับ 5 เหมือนปีที่แล้ว แต่เห็นได้ชัดว่าทีมของเรามีพัฒนาการขึ้นมาก เราสามารถทำเวลาแข่งกับรถเครื่องใหญ่กว่าได้อย่างสูสีทุกรอบ และยังทำสถิติเร็วที่สุดใน Leg 5 อีกด้วย เพราะไทรทันมีการยกระดับประสิทธิภาพขึ้นทุกปี โดยเฉพาะระบบกันสะเทือนและการควบคุมมีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้ทีมผ่านเส้นทางสุดโหดมาได้ และยังช่วยสนับสนุนชัยชนะของชยพลได้ในที่สุด ซึ่งหลังการแข่งขัน เรายังสามารถหาจุดที่นำไปพัฒนาต่อได้ในหลายด้านที่จะช่วยให้เราทำเวลาได้ดีขึ้น และด้วยการทดสอบอย่างละเอียดเพื่อสร้างจุดแข็งในด้านต่าง ๆ ผมมั่นใจว่าปีหน้าเราจะ ทำผลงานได้ดีกว่านี้แน่นอน”
คาสุโตะ โคอิเดะ นักแข่งรถหมายเลข 118 “แม้การแข่งขันจะสร้างความรู้สึกกดดันมาก โดยเฉพาะการที่ต้องออกจากการแข่งขันในวันแรก แต่มันก็เป็นประสบการณ์ที่มีค่ามาก รถไทรทันที่ผมใช้ติดตั้งเกียร์อัตโนมัติจากรุ่นผลิตจริง แต่สามารถพิสูจน์ถึงความทนทาน ได้อย่างยอดเยี่ยมท่ามกลางสภาพโหดของการแข่งขัน AXCR ซึ่งประสบการณ์ในการควบคุมและการบังคับพวงมาลัยที่ผมได้รับมานั้น จะกลายเป็นข้อมูลสำคัญต่อการพัฒนารถรุ่นต่อไปของมิตซูบิชิ และผมตั้งตารอที่จะได้นำข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ไปใช้กับรถยนต์ของมิตซูบิชิรุ่นต่อไป”