Leapmotor B10 เตรียมเผยโฉมครั้งแรกที่เยอรมัน เดือนก.ย. ค่าตัวล้านนิดๆ
Leapmotor B10 รถยนต์ไฟฟ้าอเนกประสงค์รุ่นใหม่ล่าสุดจากค่าย Leapmotor ได้ฤกษ์เปิดตัวสู่ตลาดโลกอย่างยิ่งใหญ่ โดยเริ่มต้นบุกทวีปยุโรป อย่างเป็นทางการ พร้อมเผยโฉมคันจริงในงาน IAA MOBILITY 2025 ณ เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี ระหว่างวันที่ 8–14 กันยายน 2568 ก่อนจะเริ่มทยอยส่งมอบรถคันแรกให้กับลูกค้าชาวยุโรปภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
การก้าวกระโดดครั้งสำคัญ
Leapmotor ได้ยกระดับภาพลักษณ์ของตนเองจากผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดจีน สู่ผู้เล่นระดับสากล ที่พร้อมแข่งขันกับแบรนด์ยักษ์ใหญ่ระดับโลก การเปิดตัว Leapmotor B10 ในยุโรปครั้งนี้ จึงไม่ใช่แค่การส่งออกรถยนต์ แต่เป็นการประกาศอย่างชัดเจนถึงศักยภาพด้านเทคโนโลยี คุณภาพการผลิต และกลยุทธ์ระดับโลก สิ่งที่โดดเด่นคือสถาปัตยกรรม LEAP 3.5 ที่ B10 ถูกพัฒนาขึ้นมา ซึ่งเป็นโครงสร้างแพลตฟอร์มรุ่นใหม่ของ Leapmotor ที่รองรับทั้งการออกแบบตัวถัง SUV และรถยนต์ไฟฟ้าประเภทอื่นในอนาคต เน้นความยืดหยุ่น ปลอดภัย และประสิทธิภาพสูง ระบบอัจฉริยะที่รองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์ (OTA) ได้อย่างต่อเนื่อง
แม้ Leapmotor จะยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเชิงลึกทั้งหมด แต่จากข้อมูลที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้ B10 จัดอยู่ในกลุ่ม D-SUV ไฟฟ้า 100% ตัวรถมีความยาวใกล้เคียง 4.8–4.9 เมตร ห้องโดยสารกว้างขวาง รองรับการใช้งานทั้งในเมืองและเดินทางไกล ดีไซน์ภายนอกมาในโทน Modern Minimalist เน้นเส้นสายเรียบหรูแต่ทรงพลัง ไฟหน้าแบบ Full LED Matrix ดีไซน์บางเฉียบ และเส้นตัวถังที่ให้ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd) ต่ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงาน
ภายในห้องโดยสารใช้แนวคิด Smart Lounge ติดตั้งหน้าจอคู่ขนาดใหญ่ รองรับระบบปฏิบัติการอัจฉริยะที่พัฒนาร่วมกับ Stellantis โดยคาดว่าจะรองรับผู้ช่วยเสมือนจริง (AI Assistant) การเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนเต็มรูปแบบ และระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติ (ADAS) ระดับสูง
ในด้านสมรรถนะ Leapmotor B10 ถูกวางตำแหน่งให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าอเนกประสงค์ที่ทั้งประหยัด และคุ้มค่า จุดเด่นคือ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุสูง คาดว่ามีขนาดตั้งแต่ 60–80 kWh ระยะทางวิ่งต่อการชาร์จ (WLTP) มากกว่า 500 กิโลเมตร รองรับระบบ ชาร์จเร็ว DC จาก 30% – 80% ในเวลาประมาณ 30 นาที ระบบมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหน้า และอาจมีรุ่น Dual Motor ขับเคลื่อน 4 ล้อ (AWD)
ระบบช่วยขับขี่ขั้นสูง (ADAS) เช่น Adaptive Cruise Control, Lane Keep Assist, Automated Parking ด้วยเทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้ B10 สามารถแข่งขันกับผู้เล่นในตลาดยุโรปได้อย่างสูสีแน่นอน
เครือข่ายขยายสู่กว่า 30 ประเทศ
Leapmotor International ได้ขยายเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการมากกว่า 700 แห่ง ในกว่า 30 ประเทศทั่วโลก โดยมีเป้าหมายที่จะเปิดตัว Leapmotor B10 ครอบคลุมทุกภูมิภาคสำคัญ ได้แก่ ยุโรป (ตลาดยุทธศาสตร์หลัก), ตะวันออกกลาง (เน้นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง), แอฟริกา (สร้างฐานตลาดใหม่), เอเชียแปซิฟิก (รวมถึงอาเซียน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย) และอเมริกาใต้ (ตอบรับความต้องการ EV ที่เติบโต)
การวางรากฐานด้านบริการหลังการขายในหลายทวีปช่วยให้ Leapmotor มีความได้เปรียบด้านความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ซึ่งถือเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างแบรนด์ระดับโลก
ราคาคือไฮไลท์
หนึ่งในไฮไลต์สำคัญคือการตั้งราคา Leapmotor B10 เริ่มต้นเพียง 29,900 ยูโร (ราว 1.17 ล้านบาท) ซึ่งทำให้ B10 กลายเป็นหนึ่งใน SUV ไฟฟ้าที่มีความคุ้มค่าสูงสุดในยุโรป เมื่อเทียบกับคู่แข่งที่มีราคาเริ่มต้นสูงกว่า 35,000–40,000 ยูโร กลยุทธ์ด้านราคานี้ช่วยให้ Leapmotor เจาะตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคที่กำลังมองหารถไฟฟ้าอเนกประสงค์ที่ต้องใช้งานจริงได้ คุ้มค่า และมีบริการหลังการขายที่เชื่อถือได้
การเปิดตัว Leapmotor B10 ในยุโรปเกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ Stellantis กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลกที่มีแบรนด์ดังในเครือกว่า 14 แบรนด์ เช่น Jeep, Peugeot, Citroën, Fiat และ Opel การได้ Stellantis เป็นพันธมิตรถือเป็น ก้าวกระโดดสำคัญ ของ Leapmotor เนื่องจาก Stellantis จะช่วยสนับสนุนด้านเครือข่ายการขาย การบริการ และซัพพลายเชนในยุโรป การจับมือกันนี้ไม่เพียงทำให้ Leapmotor เข้าสู่ตลาดยุโรปได้อย่างราบรื่น แต่ยังสะท้อนถึง ความมั่นใจของ Stellantis ในศักยภาพเทคโนโลยีของ Leapmotor ด้วย
เป้าหมายของ Leapmotor
Leapmotor มุ่งมั่นพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานสะอาด วัสดุที่รีไซเคิลได้ และระบบซอฟต์แวร์ที่สามารถอัปเดตได้ตลอดอายุการใช้งาน เพื่อยืดอายุรถยนต์และลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ เป้าหมายของ Leapmotor คือการก้าวขึ้นเป็น แบรนด์ยานยนต์ไฟฟ้าสากลที่ผู้บริโภคทั่วโลกไว้วางใจภายในสิ้นทศวรรษนี้
Leapmotor B10 กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งการก้าวกระโดดสู่ตลาดโลกของ Leapmotor ที่สะท้อนถึงศักยภาพด้านเทคโนโลยี เครือข่ายระดับโลก และความร่วมมือกับ Stellantis ที่ทรงพลัง ด้วยราคาที่แข่งขันได้ คุณภาพระดับสากล และความมุ่งมั่นต่อความยั่งยืน ทำให้ Leapmotor B10 ถูกจับตามองว่าอาจกลายเป็นหนึ่งใน SUV ไฟฟ้าขวัญใจคนยุโรป และเป็นหมากสำคัญในการผลักดัน Leapmotor สู่เวทีโลก
สำหรับตลาดประเทศไทย?
Leapmotor B10 ถือว่าอยู่ลิสต์รถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นต่อไปที่ค่อนข้างแน่ชัดแล้วว่าจะเข้ามาทำตลาดในบ้านเราอย่างแน่นอน แม้จะยังไม่ชัดเจนแบบ 100% ว่าจะพร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันเวลาใด แต่จากคาดการณ์เชื่อว่าเป็นเดือนแรกของไตรมาสสุดท้ายปี 2568 ซึ่งถ้า Leapmotor B10 เปิดตัวเมื่อไหร่จะกลายเป็นโมเดลที่ 2 ของ Leapmotor ในประเทศไทยอีกด้วย แม้จะเป็นรถในกลุ่ม SUV เหมือนกัน แต่ B10 ถือว่ามีความแตกต่างจาก C10 และสามารถทำตลาดด้วยเป้าหมายคนละกลุ่มได้
