เอ็มจี ประเทศไทย สร้างความฮือฮาในตลาดรถ e-MPV อีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว NEW MG MAXUS 9 PLUS รถ e-MPV ไฟฟ้า 100% แบบ 7 ที่นั่ง ที่มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ทั้งภายนอกและภายใน ผสมผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ากับดีไซน์พรีเมียม ตอบโจทย์ผู้ที่มองหารถ e-MPV ที่ครบครันทั้งด้านสมรรถนะ ความปลอดภัย และความสะดวกสบาย ในราคาที่จับต้องได้เพียง 1,799,000 บาท (ราคาคาดการณ์) โดยจะเริ่มส่งมอบรถให้ลูกค้าภายในเดือนสิงหาคม 2568 เป็นต้นไป
NEW MG MAXUS 9 PLUS e-MPV ราคา 1,799,000 บาท
NEW MG MAXUS 9 ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของเอ็มจีที่เข้ามาบุกเบิกตลาดรถยนต์ MPV ในประเทศไทย จนกลายเป็นหนึ่งในรุ่นยอดนิยม ด้วยยอดส่งมอบสะสมกว่า 2,000 คัน ทั้งจากลูกค้ารายบุคคลและองค์กรชั้นนำ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย เอ็มจีจึงได้พัฒนาและเปิดตัว NEW MG MAXUS 9 PLUS โดยชูจุดเด่นที่ "ความคุ้มค่า" ด้วยการปรับปรุงรายละเอียดใหม่ พร้อมเพิ่มฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานมากยิ่งขึ้น
ม่านกันแดดด้านข้าง เพิ่มความเป็นส่วนตัวภายในห้องโดยสาร ระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดีย รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย เบาะนั่งแบบ VIP หุ้มหนังสังเคราะห์ลายใหม่ หลังคา Sunroof สำหรับผู้โดยสารตอนหน้า ลำโพง 8 ตำแหน่ง เพื่อสุนทรียภาพในการฟัง โต๊ะพับสำหรับผู้โดยสารแถวสอง ปรับเปลี่ยนรูปแบบให้ใช้งานได้คล่องตัวยิ่งขึ้น
ดีไซน์ภายนอกและภายใน
NEW MG MAXUS 9 PLUS มาพร้อมการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ภายนอกที่ล้ำสมัยยิ่งขึ้น
ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights) ดีไซน์พาดยาวเชื่อมไฟหน้าทั้งสองข้างเข้าด้วยกันอย่างมีเอกลักษณ์ ล้ออัลลอยด์ดีไซน์ใหม่ขนาด 19 นิ้ว เส้นสายก้านล้อแบบ Multi-spoke เสริมภาพลักษณ์ความโฉบเฉี่ยว
นอกจากนี้ ยังคงรักษาจุดเด่นของโมเดลต้นแบบไว้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นห้องโดยสารที่กว้างขวางเงียบสงบ และฟีเจอร์อำนวยความสะดวกที่ครอบคลุมทุกการใช้งาน
รายละเอียดดีไซน์
มิติตัวถัง ยาว 5,270 มม. x กว้าง 2,000 มม. x สูง 1,840 มม. ระยะฐานล้อ 3,200 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 140 มม. ไฟหน้า ไฟเบรกดวงที่ 3 และไฟท้าย LED พร้อมระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ กระจกมองข้าง พับและปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยวและระบบบันทึก ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง และสปอยเลอร์หลัง ฝาครอบเครื่อง มาพร้อมช่องเก็บสัมภาระบริเวณฝากระโปรงหน้า ประตูสไลด์ด้านข้าง และฝากระโปรงท้าย เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
ภายในห้องโดยสาร
ดีไซน์คอนโซลหน้าแบบ Double Layer พร้อมที่วางแก้วและรองรับการชาร์จไร้สาย (Wireless Charger) เบาะนั่ง หุ้มด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์ การตกแต่งภายใน SOFT TOUCH และไฟห้องโดยสาร Ambient Light 64 สี เบาะนั่งคนขับ ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า ปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง พร้อม LUMBAR SUPPORT 4 ทิศทาง เบาะนั่งแถวที่สองแบบ VIP Captain Seat (ในรุ่น V และ PLUS) มาพร้อมระบบจดจำตำแหน่งการนั่ง (Memory Seats) ระบบนวด และระบบปรับอุณหภูมิ ควบคุมผ่านหน้าจอ Touch Screen บริเวณที่วางแขน พร้อมช่องวางโทรศัพท์ โต๊ะอเนกประสงค์ และที่วางแก้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนัง ปรับ 4 ทิศทาง ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ-วางโทรศัพท์ หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว หน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว (ในรุ่น V) พร้อมลำโพง 12 จุด ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB สำหรับที่นั่งทุกแถว และช่องจ่ายไฟ AC Adaptor 220V กระจกมองหลังผ่านกล้อง Streaming Media Rearview Mirror (ในรุ่น V) ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกบริเวณด้านหน้าและหลังอิสระ
สมรรถนะและการขับขี่ e-MPV
NEW MG MAXUS 9 PLUS ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังไฟฟ้าเต็มรูปแบบ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดีเยี่ยม
มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ให้กำลังสูงสุด 180 กิโลวัตต์ (245 แรงม้า) และแรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร แบตเตอรี่ Lithium-ion (Cell To Pack) ขนาดความจุ 90 kWh พร้อมระบบระบายความร้อน ขับขี่ได้ระยะทางสูงสุด 540 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC) แบตเตอรี่มาตรฐานความปลอดภัย IP67 ป้องกันน้ำและฝุ่น ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 3 ระดับ มาก ปานกลาง และน้อย ระบบพวงมาลัยแบบแร็คแอนด์พิเนียนควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS) รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 6.4 เมตร ดิสก์เบรกหน้าพร้อมช่องระบายความร้อน และดิสก์เบรกหลัง ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท และระบบช่วงล่างด้านหลังแบบอิสระมัลติลิงค์
ความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป
NEW MG MAXUS 9 PLUS มาพร้อมระบบโครงสร้างนิรภัย FSF (Full Space Frame) ปรับแต่งระบบช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION และติดตั้งระบบความปลอดภัยรอบคัน ด้วยระบบ ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM และ ADVANCED DRIVER ASSISTANCE SYSTEM (ADAS) ได้แก่
ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake) ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold) ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake force Distribution) ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist) ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System) ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System) ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System) ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control) ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light) ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System) ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ DMS (Driver Monitor System) ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning) และระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane keep Assist) ระบบช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากมุมอับสายตา (LCA/ BSD/ RCTA/ DOW) จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX บริเวณที่นั่งแถว 2 และ 3 เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ สัญญาณเตือนระยะเดินหน้าและถอยหลัง
การชาร์จและการใช้งานที่สะดวกสบาย
NEW MG MAXUS 9 PLUS รองรับระบบการชาร์จ 2 รูปแบบ
DC Quick Charge ชาร์จจาก 30% - 80% ใช้เวลาประมาณ 30 นาที (ที่ความเร็วสูงสุด 120 kWh) Normal Charge ชาร์จจาก 5% – 100% ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง 30 นาที (รองรับการชาร์จสูงสุดที่ 11 kWh)
รุ่น PLUS เพิ่มความอเนกประสงค์ด้วยฟังก์ชัน V2L (Vehicle to Load) ที่ให้กำลังสูงถึง 6.6 kW สามารถจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เปลี่ยนรถให้กลายเป็นแหล่งพลังงานเคลื่อนที่ พร้อมใช้งานกับอุปกรณ์ไฟฟ้าได้หลากหลายนอกบ้าน
สีตัวถังและข้อเสนอ
NEW MG MAXUS 9 PLUS มีสีตัวถังให้เลือก 3 สี ได้แก่
สีขาวหลังคาดำ (Pearl White / Black Top) สีดำ (Black Knight) สีเทาหลังคาดำ (Granite Grey / Black Top)
จัดจำหน่ายในราคาพิเศษเพียง 1,799,000 บาท (ราคาคาดการณ์) พร้อมข้อเสนอพิเศษตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม ถึง 31 กรกฎาคม 2568
ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. 1 ปี รับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) ฟรี MG HOME CHARGER 1 ชุด ฟรี ค่าติดตั้ง MG HOME CHARGER รับประกันแบตเตอรี่แรงเคลื่อนสูง ชุดมอเตอร์ขับเคลื่อน และชุดควบคุมมอเตอร์ขับเคลื่อน ตลอดอายุการใช้งาน (LIFETIME WARRANTY) ฟรี ชุดพรมปูพื้น
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "การเปิดตัว NEW MG MAXUS 9 PLUS เป็นการต่อยอดความสำเร็จในกลุ่มรถ e-MPV ที่โดดเด่นด้านความคุ้มค่า ซึ่งสะท้อนถึงการตอบรับที่ดีจากตลาดไทย และตอกย้ำจุดยืนของแบรนด์ที่มุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพ ในราคาที่เข้าถึงได้ เพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งานของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น ผมเชื่อมั่นว่า NEW MG MAXUS 9 PLUS จะเป็น 'คำตอบที่ใช่' สำหรับผู้บริโภคที่มองหา e-MPV ที่ให้ความคุ้มค่าอย่างแท้จริง"
ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ศูนย์บริการเอ็มจีทั่วประเทศ