รถยนต์ส่วนใหญ่ในปัจจุบัน ใช้ระบบบังคับเลี้ยวช่วยผ่อนแรงกันซะเป็นส่วนมาก ซึ่งระบบพวงมาลัยหรือระบบบังคับเลี้ยวช่วยผ่อนแรง หรือจะเรียกสั้นๆ ตามที่นิยมกันว่า "ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์" ก็จะฟังดูคุ้นหูใช่ไหมล่ะ? นับเป็นระบบที่มีประโยชน์ไม่น้อยเลยทีเดียวเชียว อย่างเช่น ช่วยให้การหมุนพวงมาลัยง่ายขึ้น ผู้ขับขี่ไม่ต้องออกแรงหมุนพวงมาลัยมาก เหมือนพวงมาลัยเพาเยอร์ ออกแรกกันกล้ามแขนขึ้น เพิ่มความสะดวกสบาย โดยเฉพาะการหมุนพวงมาลัยในขณะที่รถไม่ได้เคลื่อนที่ หรือต้องเข้าจอดในที่แคบ ซึ่งต้องขยับรถเดินหน้าถอยหลังพร้อมกับหมุนมาลัยซ้ำไปซ้ำมากันหลายครั้ง ยกเว้นรถที่มีระบบช่วยนั่นโน่นนี่นะจ๊ะ
แต่ไม่ว่าจะเป็นระบบหรืออุปกรณ์อะไรก็ตาม เมื่อถูกใช้งานไปนานๆ แล้ว ก็ต้องมีการเสื่อมสภาพเกิดขึ้น ซึ่งจะมาว่ากันถึงการดูแลรักษาระบบพวงมาลัยเพาเวอร์กันสักหน่อย
อย่างแรกเลยที่ต้องดูแลอย่างสม่ำเสมอ ก็คือ การตรวจเช็คระดับน้ำมันเพาเวอร์ในกระปุกของชุดเพาเวอร์ โดยน้ำมันของพวงมาลัยเพาเวอร์จะเป็นชนิดเดียวกันกับที่ใช้ในเกียร์อัตโนมัติ ซึ่งเป็นน้ำมันไฮดรอลิกที่มีความใสและหนืดน้อยกว่าน้ำมันเครื่อง ส่วนใหญ่ที่ใช้กันก็เป็นเบอร์ 10 ไม่ควรนำน้ำมันประเภทอื่นเติมในกระปุกเพาเวอร์เด็ดขาดนะยู เพราะจะทำให้ชิ้นส่วนภายในระบบเสียหายได้เลย
ส่วนการตรวจเช็คระดับน้ำมันเพาเวอร์ก็ไม่ยาก เพราะจะมีสเกล เป็นขีดๆ บอกระดับอยู่ที่กระปุกไว้อยู่แล้ว รถบางรุ่นอาจจะมีสเกลบอกระดับเอาไว้ที่ข้างๆ ตัวกระปุกน้ำมัน หรือรถบางรุ่นก็จะมีสเกลบอกไว้ตรงก้านวัด ซึ่งติดอยู่ที่ฝาของกระปุกน้ำมันนั่นเอง รถยนต์บางรุ่นจะเขียนบอกบนสเกลไว้ว่า COLD และ HOT ซึ่งในตำแหน่ง COLD หมายถึง น้ำมันควรจะอยู่ที่ขีดนี้ตอนเครื่องเย็น ส่วนขีด HOT ก็หมายถึง น้ำมันของพวงมาลัยเพาเวอร์ ควรจะอยู่ที่ขีดนี้ตอนเครื่องยนต์ร้อนนั่นแหละ
แต่ไม่ว่ารถจะมีสเกลบอกเป็น COLD และ HOT, MAX และ MIN หรือ HI และ LO หรือจะเป็นอะไรก็ตาม ระดับน้ำมันก็ไม่ควรจะต่ำกว่าขีดที่กำหนด เพราะในขณะที่ระบบเพาเวอร์ทำงาน จะเกิดความร้อนในระบบสูงมากแม่ รถยนต์บางรุ่นถึงขนาดต้องติด OIL COOLER เพิ่ม เพื่อระบายความร้อนให้กับน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์กันเลยทีเดียวเชียว ฉะนั้นไม่ควรให้น้ำมันเพาเวอร์พร่อง ขาด หรือต่ำกว่าระดับที่กำหนดโดยเด็ดขาด เราเตือนแล้วนะ!
ในขณะเดียวกัน ก็ไม่ควรเติมน้ำมันเพาเวอร์ให้สูงมากเกินกว่าระดับที่กำหนดอีกนั่นแหละ เพราะนอกจากจะสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุแล้ว อาจจะทำให้เกิดความเสียหายต่อชิ้นส่วนต่างๆ ในระบบอีกด้วย อย่างที่บอกแล้วนะว่าในระบบเพาเวอร์ เป็นระบบที่มีแรงดันของน้ำมันอยู่ และเป็นระบบปิด ก็คือ ไม่มีการรับเข้าหรือระบายออก ของเหลวที่อยู่ในระบบ ซึ่งก็คือ น้ำมันเพาเวอร์จะไม่ไหลออกไปนอกระบบ (ถ้าไม่เกิดการรั่วซึมหรือระบบผิดปกติ พังเสียหาย) เมื่อเราเติมน้ำมันเพิ่มเข้าไปมากกว่าที่กำหนด นั่นก็คือการเพิ่มปริมาณของน้ำมันเข้าไปในระบบมากเกินไป ก็จะทำให้เกิดแรงดันในระบบสูงเกินความจำเป็นได้
น้ำมันไฮดรอลิก หรือน้ำมันเพาเวอร์ ก็มีการเสื่อมเช่นเดียวกัน ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันไฮดรอลิกในระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือคอยสังเกตจากสีของน้ำมันเพาเวอร์ในกระปุกก็ได้ หากมีสีดำคล้ำไปกว่าน้ำมันใหม่มากก็สามารถเปลี่ยนได้เลยไม่ต้องรอ ยังไงก็ดูแลตรวจสอบกันสักหน่อย จะได้ไม่ต้องเสียตังค์มากเวลาซ่อมจ้า