Logo site Amarintv 34HD
อมรินทร์ทีวีแจกใหญ่ส่งท้ายปี ดูทั้งวันแจกทุกวันLogo Seagame2025Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
เลือกซื้อรถยนต์ผู้สูงอายุและผู้พิการ ให้การเดินทางเป็นความสุขของทุกคน

เลือกซื้อรถยนต์ผู้สูงอายุและผู้พิการ ให้การเดินทางเป็นความสุขของทุกคน

24 ธ.ค. 68
16:00 น.
แชร์

การเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ เป็นช่วงเวลาที่หลายครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างเต็มที่ แต่สำหรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุหรือผู้พิการ หัวใจสำคัญของการเดินทางไม่ใช่แค่จุดหมายปลายทางที่สวยงามเท่านั้น แต่คือการทำให้พวกเขารู้สึกถึงความสะดวกสบายและได้รับความใส่ใจในทุกกิโลเมตรที่ผ่านไป

ในยุคที่รถยนต์ไม่ได้แข่งขันกันแค่เรื่องความแรง นวัตกรรมใหม่ๆ กำลังมุ่งหน้าสู่การออกแบบเพื่อทุกคน หรือที่เรียกว่า Universal Design เพื่อเปลี่ยนจากรถที่ทำหน้าที่เพียงแค่รับส่ง ให้กลายเป็นรถที่ช่วยดูแลคุณภาพชีวิตของคนที่เรารักได้จริง

นิยามใหม่ของรถที่ใช่ เมื่อความสูงคือตัวตัดสิน

สำหรับผู้สูงอายุที่มีปัญหาข้อเข่า หรือผู้พิการที่เคลื่อนไหวลำบาก การเลือกความสูงของเบาะนั่งคือสิ่งแรกที่ต้องพิจารณา

  • ระดับเบาะนั่งที่พอดี รถยนต์ประเภท Crossover หรือ SUV ขนาดกลางมักมีระดับเบาะนั่งที่เหมาะสมที่สุด เพราะอยู่ในระยะที่สามารถสไลด์ตัวเข้าได้พอดี ไม่ต้องเขย่งเพื่อปีนขึ้นเหมือนรถกระบะ และไม่ต้องย่อตัวจนเจ็บเข่าเหมือนรถเก๋งซีดานทั่วไป
  • ประตูเปิดกว้าง ควรเลือกรถที่ประตูหลังเปิดได้กว้าง เพื่อให้ผู้ดูแลเข้าพยุงได้สะดวก หรือมีพื้นที่เพียงพอสำหรับวางวีลแชร์แบบพับได้ง่ายขึ้น

นวัตกรรมเปลี่ยนอุปสรรคให้เป็นอิสระ

ปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้ที่มีข้อจำกัดทางร่างกายกลับมาขับรถได้เอง หรือช่วยให้การขึ้นลงรถเป็นเรื่องง่ายขึ้นมาก

  • ระบบควบคุมด้วยมือ การติดตั้งชุดควบคุมเบรกและคันเร่งไฟฟ้าที่พวงมาลัย ช่วยให้ผู้พิการทางขาขับรถได้อย่างแม่นยำและปลอดภัย
  • เบาะนั่งหมุนไฟฟ้า อุปกรณ์เสริมที่ช่วยให้เบาะหมุนออกนอกรถและลดระดับลงมา เพื่อรับผู้ใช้จากวีลแชร์ขึ้นสู่ตัวรถได้โดยแทบไม่ต้องออกแรงยก
  • ระบบช่วยจอดและกล้องรอบคัน ช่วยลดภาระในการหันไปมองข้างหลัง ซึ่งมักเป็นปัญหาสำหรับผู้สูงอายุที่มีอาการปวดต้นคอหรือสายตาไม่เอื้ออำนวยเหมือนแต่ก่อน

รถยนต์ไฟฟ้ากับผู้สูงวัย ความเรียบง่ายที่ลงตัว

หลายคนอาจกังวลว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะซับซ้อน แต่ในความจริงแล้วถือเป็นรถที่ตอบโจทย์ผู้สูงอายุได้ดีมาก

  • ความเงียบและแรงสั่นสะเทือนต่ำ ช่วยลดความเครียดและความเหนื่อยล้าสะสมระหว่างเดินทางไกลได้ดี
  • การขับขี่แบบแป้นเดียว ระบบที่ช่วยให้ใช้แป้นเดียวในการเร่งและชะลอ ลดความสับสนในการสลับเท้าระหว่างเบรกและคันเร่งในสถานการณ์ฉุกเฉิน
  • การชาร์จที่บ้าน ช่วยลดภาระในการต้องแวะปั๊มน้ำมันบ่อยๆ ทำให้การเดินทางมีความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยมากขึ้น

Checklist 5 ข้อที่ต้องลองให้ชัด ก่อนตัดสินใจพาผู้ใหญ่ไปออกรถใหม่

เพื่อให้ได้รถที่ตอบโจทย์จริงๆ ก่อนพาคุณพ่อคุณแม่หรือผู้ใหญ่ในบ้านไปที่โชว์รูม ควรตรวจสอบ 5 ข้อนี้

  1. ลองเข้าและออกมากกว่า 3 ครั้ง ให้ท่านลองก้าวขึ้นและลงรถด้วยตัวเอง ดูว่าระดับมือจับอยู่ในตำแหน่งที่ช่วยพยุงตัวได้ถนัดหรือไม่ และบันไดข้างกว้างพอให้วางเท้าได้อย่างมั่นคงหรือไม่
  2. ตรวจสอบทัศนวิสัยจากเบาะคนขับ หากผู้สูงอายุเป็นคนขับเอง ให้ท่านลองปรับเบาะแล้วดูว่ามองเห็นหัวรถชัดเจนหรือไม่ มีจุดบอดที่เสาหนาเกินไปจนบังสายตาหรือไม่
  3. ความง่ายของปุ่มกด เลี่ยงรถที่มีระบบทุกอย่างฝังอยู่ในหน้าจอสัมผัสเพียงอย่างเดียว เพราะสำหรับผู้สูงอายุ ปุ่มปรับแอร์หรือปุ่มปรับเสียงที่เป็นแบบหมุนหรือกดจริงจะใช้งานง่ายและปลอดภัยกว่าในขณะขับขี่
  4. ลองพับและยกวีลแชร์ขึ้นท้ายรถ หากต้องใช้รถเข็น ให้ลองพับแล้วยกใส่ท้ายรถจริง ดูว่าความสูงของขอบห้องสัมภาระสูงเกินไปจนยกไม่ไหวหรือไม่ และพื้นที่เหลือเพียงพอสำหรับสัมภาระอื่นๆ หรือไม่
  5. ทดสอบความนุ่มของช่วงล่าง ในตอนขับทดสอบ ให้ลองวิ่งผ่านลูกระนาดหรือถนนไม่เรียบ เพื่อเช็กว่าการซับแรงกระแทกนุ่มนวลพอหรือไม่ เพราะแรงสั่นสะเทือนที่มากเกินไปอาจทำให้ผู้สูงอายุปวดหลังหรือเวียนหัวได้ง่าย

ข้อควรระวังสำคัญในการเลือกซื้อรถเพื่อผู้สูงอายุและผู้พิการ

  • การดัดแปลงรถอาจทำให้การรับประกันสิ้นสุด หากมีการดัดแปลงตัวรถ เช่น การติดตั้งเบาะหมุนไฟฟ้า ชุดควบคุมด้วยมือ หรือทางลาดท้ายรถ ควรตรวจสอบกับศูนย์บริการโดยตรงว่าการกระทำดังกล่าวส่งผลต่อ การรับประกันคุณภาพรถยนต์ (Warranty) ในส่วนใดบ้าง โดยเฉพาะระบบไฟฟ้าและโครงสร้างรถ
  • มาตรฐานของอุปกรณ์เสริม อุปกรณ์ดัดแปลงต้องได้รับมาตรฐานสากลและติดตั้งโดยช่างผู้ชำนาญการเท่านั้น อุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐานอาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรง เช่น ระบบเบรกมือหลุดขณะใช้งาน หรือเบาะไฟฟ้าเกิดการลัดวงจร
  • สภาพร่างกายที่เปลี่ยนแปลงในอนาคต ผู้สูงอายุอาจมีสภาพร่างกายที่เปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว รถที่ใช้งานได้สะดวกในวันนี้ อาจไม่ตอบโจทย์ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ควรเลือกซื้อรถที่มีความยืดหยุ่นหรือเผื่อพื้นที่สำหรับอุปกรณ์ช่วยพยุงที่อาจต้องใช้เพิ่มขึ้นในอนาคต
  • ภาระของผู้ดูแล บางครั้งรถตอบโจทย์ผู้สูงอายุแต่เป็นภาระแก่ผู้ดูแล เช่น ฝาท้ายรถที่หนักเกินไปจนผู้ดูแลยกปิดลำบาก หรือการพับเบาะที่ซับซ้อนเกินไป ควรให้ผู้ดูแลหลักร่วมทดลองใช้งานทุกฟังก์ชันก่อนการตัดสินใจ
  • ระบบช่วยเหลืออัจฉริยะที่อาจทำให้สับสน เทคโนโลยีที่มากเกินไปอาจสร้างความกังวลหรือความสับสนให้กับผู้สูงอายุที่เป็นคนขับเอง ระบบเตือนที่ส่งเสียงดังหรือการแทรกแซงพวงมาลัยอย่างกะทันหันอาจทำให้เกิดความตกใจและนำไปสู่อุบัติเหตุได้ ควรเลือกเปิดใช้งานเฉพาะระบบที่จำเป็นและปรับระดับการเตือนให้เหมาะสม
  • การตั้งค่าประกันภัยรถยนต์ เมื่อมีการดัดแปลงรถยนต์ หรือระบุตัวตนผู้ขับขี่ที่เป็นผู้พิการ/ผู้สูงอายุ ควรแจ้งบริษัทประกันภัยให้รับทราบเพื่อให้ครอบคลุมความคุ้มครองทั้งตัวบุคคลและอุปกรณ์ดัดแปลงที่ติดตั้งเพิ่มเข้าไป

อย่าลืม! เอกสารที่ต้องใช้

เอกสารที่ต้องใช้ทั้งในมุมของ "คนขับที่เป็นผู้พิการ" และ "ผู้โดยสารที่เป็นผู้สูงอายุหรือผู้พิการ" มีรายละเอียดดังนี้

กรณีคนพิการเป็น "คนขับเอง"

แม้รถจะไม่ดัดแปลง แต่กฎหมายให้ความสำคัญกับสมรรถภาพในการบังคับรถอย่างปลอดภัย เอกสารที่ต้องมีคือ

  • ใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคล ต้องเป็นฉบับที่ไม่หมดอายุ โดยตอนไปทำหรือต่อใบขับขี่ ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ว่ามีความพิการส่วนใด หากขนส่งประเมินแล้วว่าความพิการนั้นไม่เป็นอุปสรรคต่อการขับรถรุ่นปกติ (เช่น พิการหู หรือพิการแขนขาบางส่วนที่ยังบังคับรถได้ปลอดภัย) ก็สามารถใช้ใบขับขี่ปกติได้เลย
  • ใบรับรองแพทย์ ควรเป็นฉบับที่ออกโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ระบุความเห็นว่าความพิการดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อการขับรถยนต์อย่างปลอดภัย เพื่อใช้ยันยืนตอนทำใบขับขี่หรือหากเกิดอุบัติเหตุ
  • บัตรประจำตัวคนพิการ ต้องพกติดตัวไว้เสมอเพื่อใช้แสดงตัวตนคู่กับใบขับขี่ และใช้สำหรับสิทธิจอดรถในที่จอดเฉพาะ

กรณีผู้สูงอายุหรือผู้พิการเป็น "ผู้โดยสาร"

กรณีนี้ตัวรถและการขับขี่เป็นเรื่องปกติ เอกสารจะเน้นไปที่การได้รับความช่วยเหลือและสิทธิต่างๆ

  • บัตรประจำตัวคนพิการ (ของผู้โดยสาร) สำคัญมากสำหรับการขอใช้สิทธิช่องจอดรถคนพิการตามห้างสรรพสินค้าหรือสถานที่ราชการ เจ้าหน้าที่อาจขอเรียกดูบัตรตัวจริงเพื่อยืนยันว่ามีผู้พิการมาด้วยจริงก่อนอนุญาตให้เข้าจอด
  • บัตรประจำตัวประชาชน (ของผู้สูงอายุ) ใช้เพื่อยืนยันสิทธิในกรณีที่สถานที่นั้นๆ มีบริการพิเศษสำหรับผู้สูงอายุ เช่น จุดรับ-ส่งใกล้ประตูทางออก หรือการขอใช้วีลแชร์ของสถานที่
  • ข้อมูลประวัติการรักษาและเบอร์ติดต่อฉุกเฉิน แนะนำให้ทำเป็นบัตรเล็กๆ พกติดตัวผู้สูงอายุหรือผู้พิการไว้ หรือติดไว้ที่หลังที่บังแดดในรถ ระบุชื่อ-นามสกุล โรคประจำตัว ยาที่ต้องกินประจำ ยาที่แพ้ และเบอร์โทรลูกหลาน เพื่อความรวดเร็วหากเกิดเหตุฉุกเฉินระหว่างเดินทาง

เอกสารสำหรับการจอดรถ (สติ๊กเกอร์สัญลักษณ์)

  • สติ๊กเกอร์รูปวีลแชร์ แม้จะไม่มีกฎหมายบังคับว่าต้องมีเอกสารรับรองสติ๊กเกอร์ (เพราะหาซื้อได้ทั่วไป) แต่การติดไว้ที่กระจกจะช่วยให้เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกมองเห็นได้ง่ายขึ้นจากระยะไกล อย่างไรก็ตาม สติ๊กเกอร์อย่างเดียวไม่สามารถใช้ยืนยันสิทธิได้ ต้องใช้คู่กับบัตรคนพิการตัวจริงของผู้ที่มากับรถเสมอ

สรุปสิ่งที่ต้องเตรียม (กรณีรถเดิมๆ ไม่ดัดแปลง)

ประเภทบุคคล

เอกสารที่ต้องพกติดรถ/ติดตัว

คนขับ (ผู้พิการ)

ใบขับขี่ (ที่ระบุเงื่อนไขถ้ามี), บัตรคนพิการ, ใบรับรองแพทย์

ผู้โดยสาร (ผู้พิการ)

บัตรประจำตัวคนพิการ (ตัวจริง)

ผู้โดยสาร (ผู้สูงอายุ)

บัตรประชาชน, ข้อมูลโรคประจำตัวและเบอร์ฉุกเฉิน

ข้อควรระวัง: การนำบัตรคนพิการของผู้อื่นมาใช้เพื่อจอดรถในที่จอดคนพิการโดยที่เจ้าของบัตรไม่ได้มาด้วย ถือเป็นการละเมิดสิทธิและอาจถูกดำเนินการตามระเบียบของสถานที่นั้นๆ

การเลือกรถยนต์เพื่อผู้สูงอายุหรือผู้พิการ ไม่ใช่เพียงการซื้อพาหนะ แต่คือการมอบกุญแจสู่โลกกว้างให้พวกเขาอีกครั้ง ปีใหม่นี้ขอให้ทุกครอบครัวเดินทางด้วยความอุ่นใจ เลือกเพื่อนร่วมทางสี่ล้อที่เข้าใจสรีระและหัวใจของคนทุกวัย เพื่อให้ทุกทริปเป็นความทรงจำที่มีค่าตลอดไป

แชร์
เลือกซื้อรถยนต์ผู้สูงอายุและผู้พิการ ให้การเดินทางเป็นความสุขของทุกคน