Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ทำไมพวงมาลัยรถต้องเป็นทรงกลมคงเป็นมาตรฐานหลัก ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์

ทำไมพวงมาลัยรถต้องเป็นทรงกลมคงเป็นมาตรฐานหลัก ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์

16 ส.ค. 68
16:00 น.
แชร์

พวงมาลัยรถยนต์ (Steering Wheel) คือ อุปกรณ์ควบคุมทิศทางของรถยนต์ ซึ่งเป็นส่วนที่ผู้ขับขี่ใช้ในการบังคับเลี้ยวซ้าย-ขวา โดยระบบการทำงานของพวงมาลัยจะเชื่อมต่อกับล้อหน้าผ่านกลไกต่างๆ ทำให้การหมุนพวงมาลัยส่งผลโดยตรงต่อการเคลื่อนที่ของล้อ พร้อมไขข้อข้องใจ ทำไมพวงมาลัยรถยนต์ต้องเป็นทรงกลม เผยเหตุผลสำคัญด้านความปลอดภัย การควบคุมที่เป็นธรรมชาติ และการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ที่ทำให้พวงมาลัยทรงกลมยังคงเป็นมาตรฐานหลัก แม้จะมีดีไซน์ใหม่ๆ อย่างทรงท้ายตัด

ส่วนประกอบและหน้าที่หลักของพวงมาลัยรถยนต์

  • วงพวงมาลัย (Steering Wheel Rim) ส่วนที่ผู้ขับใช้จับเพื่อหมุน
  • ระบบบังคับเลี้ยว (Steering System) กลไกทั้งหมดที่เชื่อมต่อพวงมาลัยกับล้อ โดยส่วนใหญ่จะใช้ระบบเพลา, แร็คแอนด์พิเนียน (Rack and Pinion) หรือลูกปืนหมุนเวียน (Recirculating Ball) เพื่อส่งแรงไปยังล้อ
  • ถุงลมนิรภัย (Airbag) ส่วนสำคัญที่ติดตั้งอยู่ตรงกลางของพวงมาลัย เพื่อช่วยลดแรงกระแทกและป้องกันอันตรายแก่ผู้ขับขี่ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ
  • สวิตช์ควบคุม (Control Switches) ปุ่มต่างๆ ที่อยู่บนพวงมาลัย เช่น ปุ่มควบคุมเครื่องเสียง, รับสายโทรศัพท์, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) หรือปุ่มปรับเปลี่ยนเกียร์ (Paddle Shift) ในรถยนต์บางรุ่น

นอกจากทำหน้าที่บังคับทิศทางแล้ว พวงมาลัยยังเป็นศูนย์รวมของเทคโนโลยีและอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการขับขี่ในปัจจุบันอีกด้วย

ก่อนที่จะมีรถยนต์อย่างที่เห็นกันในปัจจุบัน การเดินทางด้วยรถม้าหรือเกวียนจะใช้คันบังคับหรือคันโยกในการควบคุมทิศทาง และเมื่อ รถยนต์คันแรกของโลก อย่าง Mercedes-Benz One ถือกำเนิดขึ้นในปี 1886 ก็ยังคงใช้ คันบังคับ (Tiller) เป็นอุปกรณ์ในการควบคุมทิศทางอยู่ ไม่ได้มีพวงมาลัยแบบกลมๆ เหมือนที่เราเห็นในปัจจุบัน

จากนั้นในปี 1894 วิศวกรชาวฝรั่งเศสนามว่า Alfred Vacheron ได้นำแนวคิดของ หางเสือเรือ มาประยุกต์ใช้กับรถยนต์ ทำให้เกิดเป็นพวงมาลัยแบบวงกลมขึ้นมาเป็นครั้งแรก ซึ่งเขาพบว่ามันช่วยให้สามารถบังคับรถได้อย่างแม่นยำและควบคุมได้ง่ายกว่าการใช้คันบังคับแบบเดิม

เหตุผลที่พวงมาลัยต้องเป็นวงกลม

  • การควบคุมทิศทางอย่างเป็นธรรมชาติ พวงมาลัยทรงกลมช่วยให้คนขับสามารถหมุนได้โดยไม่ต้องคิดมากว่าต้องจับส่วนไหน เพราะรูปทรงกลมทำให้การจับและควบคุมรู้สึกเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยวในมุมแคบๆ ที่ต้องหมุนหลายรอบ หรือการปรับทิศทางเล็กน้อยบนถนนตรง
  • ความปลอดภัยและแรงบิด การหมุนพวงมาลัยทรงกลมช่วยให้การถ่ายทอดแรงจากคนขับไปยังล้อทำได้อย่างต่อเนื่องและนุ่มนวล โดยเฉพาะในรถยนต์ยุคแรกที่ยังไม่มีระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ พวงมาลัยที่ใหญ่และกลมช่วยให้คนขับออกแรงได้ง่ายขึ้น
  • การออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ รูปทรงกลมเข้ากับสรีระการจับของมือได้ดีที่สุด ทำให้คนขับสามารถควบคุมรถได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนท่าจับบ่อยๆ นอกจากนี้ยังช่วยให้เกิดความปลอดภัยในกรณีเกิดอุบัติเหตุได้ดีกว่ารูปทรงอื่นๆ อีกด้วย

ดีไซน์ที่เปลี่ยนไปเพื่อสอดรับกับเทคโนโลยี

พวงมาลัยยุคใหม่มีดีไซน์ที่หลากหลายมากขึ้นเพื่อรองรับการใช้งานที่แตกต่างกัน แม้พวงมาลัย ทรงกลม จะยังคงเป็นมาตรฐานหลักที่ใช้ในรถยนต์ทั่วไป แต่ก็มีการนำดีไซน์ใหม่ๆ มาใช้เพื่อเพิ่มอรรถประโยชน์ เช่น

  • พวงมาลัยแบบท้ายตัด (D-Shape) เป็นที่นิยมในรถยนต์สปอร์ตและรถยนต์สมรรถนะสูง ดีไซน์แบบนี้ช่วยให้คนขับมีพื้นที่สำหรับขยับเข่ามากขึ้น ทำให้เข้า-ออกรถได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นมาตรวัดความเร็วและจอแสดงผลต่างๆ ได้ชัดเจนขึ้น
  • พวงมาลัยแบบเหลี่ยม (Yoke) พบเห็นได้ในรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์รุ่นใหม่บางรุ่น เช่น Tesla Model S รูปทรงแบบนี้คล้ายพวงมาลัยของเครื่องบินและต้องการการปรับตัวจากผู้ขับขี่ เนื่องจากไม่มีส่วนบนสำหรับจับ ทำให้ต้องใช้แรงบังคับเลี้ยวจากด้านข้าง แต่ข้อดีคือทำให้ทัศนวิสัยในการมองจอแสดงผลตรงหน้าดีขึ้นอย่างมาก

ปุ่มควบคุมและฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน

จากเดิมที่มีเพียงแตรและก้านไฟเลี้ยว พวงมาลัยยุคใหม่ ได้รวมเอาสวิตช์และปุ่มควบคุมต่างๆ เข้ามาไว้ด้วยกันอย่างเป็นระเบียบ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมฟังก์ชันที่สำคัญได้โดยไม่ต้องละสายตาจากถนน เช่น

  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) ช่วยรักษาความเร็วของรถให้คงที่โดยไม่ต้องเหยียบคันเร่ง
  • ระบบช่วยขับขี่ขั้นสูง (ADAS) ปุ่มควบคุมระบบต่างๆ เช่น การแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (Lane Departure Warning) หรือการช่วยรักษารถให้อยู่ในเลน (Lane Keeping Assist)
  • ระบบสื่อสารและมัลติมีเดีย ปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์, ควบคุมเครื่องเสียง, และสั่งการด้วยเสียง (Voice Command)
  • ระบบปรับเปลี่ยนเกียร์ (Paddle Shift) ในรถสปอร์ตหรือรถที่มีเกียร์อัตโนมัติแบบพิเศษ ทำให้ผู้ขับสามารถเปลี่ยนเกียร์ได้ง่ายขึ้นโดยใช้ปลายนิ้วสัมผัสที่พวงมาลัย

ประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่าง

นอกจากดีไซน์และฟังก์ชันการควบคุมแล้ว พวงมาลัยยุคใหม่ยังช่วยเพิ่มประสบการณ์การขับขี่ให้ดีขึ้นอีกด้วย เช่น พวงมาลัยที่สามารถปรับความหนัก-เบาได้อัตโนมัติตามความเร็วของรถยนต์ หรือพวงมาลัยแบบสัมผัสที่ไวต่อการควบคุมมากขึ้น นอกจากนี้ บางรุ่นยังติดตั้งหน้าจอขนาดเล็กเพื่อแสดงข้อมูลการขับขี่พื้นฐาน ทำให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้โดยง่าย

การพัฒนาของพวงมาลัยรถยนต์ไม่ได้หยุดอยู่แค่ที่การเพิ่มความสะดวกสบาย แต่ยังเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาไปสู่ ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ (Autonomous Driving) ในอนาคตอีกด้วย โดยพวงมาลัยอาจจะค่อยๆ ปรับเปลี่ยนบทบาทจากอุปกรณ์ควบคุมหลักมาเป็นอุปกรณ์สำรองเมื่อผู้ขับขี่ต้องการควบคุมรถด้วยตัวเอง ซึ่งนับเป็นการเดินทางที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับชิ้นส่วนที่ดูเรียบง่ายชิ้นนี้

แม้ในปัจจุบันจะมีรถยนต์บางรุ่น เช่น รถแข่ง F1 หรือรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ของบางยี่ห้อที่ใช้พวงมาลัยแบบท้ายตัด (D-Shape) หรือแบบเหลี่ยม (Yoke) เพื่อความทันสมัยและสะดวกในการลุกเข้า-ออกจากรถ แต่พวงมาลัยทรงกลมก็ยังคงเป็นมาตรฐานหลักและได้รับการยอมรับว่าเป็นรูปทรงที่เหมาะสมกับการใช้งานทั่วไปมากที่สุด

แชร์
ทำไมพวงมาลัยรถต้องเป็นทรงกลมคงเป็นมาตรฐานหลัก ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์